xs
xsm
sm
md
lg

ปูนใหญ่ชี้มาร์จินปิโตรฯQ2หดตัว หวังกำลังผลิตดันรายได้โต20%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอสซีจี เคมิคอลส์ในเครือปูนใหญ่ตั้งเป้าปีนี้รายได้โต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1.44 แสนล้านบาท เนื่องจากกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 40% แต่ราคาขายเม็ดพลาสติกอ่อนตัวลง โดยไตรมาส 2 ราคาเม็ดพลาสติกอ่อนตัวฉุดมาร์จินทรุด เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ “ผงเมลามีนเกรดพิเศษที่เข้าไมโครเวฟได้” โดยชิมรางป้อนศรีไทยฯปีนี้ 300 ตันก่อนขยับขึ้นเป็น 2 พันตันในปี 2556 เพื่อเจาะตลาดยุโรป

นายชลณัฐ ญาณารณพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เคมิคอลส์ ในเครือซิเมนต์ไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้เอสซีจี เคมิคอลส์คาดว่ามีรายได้เติบโตขึ้น 20%จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1.44 แสนล้านบาท เนื่องจากราคาขายเม็ดพลาสติกอ่อนตัวลงเล็กน้อยเมี่อเทียบจากปีก่อน แม้ว่ากำลังการผลิตเม็ดพลาสติกในเครือฯจะเพิ่มขึ้น 40% ภายหลังจากศาลฯมีคำสั่งให้โครงการต่างๆในมาบตาพุดที่ไม่อยู่ในข่ายกิจการที่ส่งผลกระทบรุนแรงเดินหน้าโครงการต่อไปก็ตาม

โดยไตรมาส 2 นี้ ความต้องการใช้ปิโตรเคมีอ่อนตัวลง เนื่องจากจีนลดการสั่งซื้อเม็ดพลาสติก ส่วนเศรษฐกิจในยุโรปทรงตัว ขณะเดียวกันกำลังการผลิตเอทิลีนใหม่เข้าสู่ตลาดเต็มปีนี้ปริมาณ 11 ล้านตัน ส่งผลให้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกกับวัตถุดิบ(สเปรด)ลดลง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบทรงตัวในระดับสูง

ปัจจุบันราคาเม็ดพลาสติกโพลีเอทิลีนความหนาแน่นสูง(HDPE)อยู่ที่ตันละ 1,300 เหรียญสหรัฐ และสเปรดลดลงจาก 456 เหรียญสหรัฐ/ตันในไตรมาส 1/2554 มาอยู่ที่ 300 กว่าเหรียญสหรัฐ/ตัน และราคาเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน(PP) อยู่ที่ตันละ 1,600 เหรียญสหรัฐ โดยสเปรดอยู่ที่ 600 กว่าเหรียญสหรัฐ/ตัน ลดลงจากไตรมาสก่อนสเปรดอยู่ที่ 717เหรียญสหรัฐ/ตัน ดังนั้น บริษัทฯยังคงรักษาระดับอัตราการใช้กำลังการผลิตเอทิลีนอยู่ที่85%ของกำลังการผลิต 1.7 ล้านตัน เนื่องจากสเปรดอยู่ระดับไม่สูงนัก

นายชลณัฐ กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯคาดว่าแนวโน้มครึ่งปีหลังนี้ราคาและสเปรดเม็ดพลาสติกจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรกนี้ เนื่องจากความต้องการใช้เม็ดพลาสติกในภาคการเกษตรของจีนจะเพิ่มขึ้นในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตามคงต้องติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกด้วย

ส่วนความคืบหน้าการลงทุนโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่เวียดนาม มูลค่าเงินลงทุน 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐว่า ขณะนี้โครงการดังกล่าวเดินหน้าปรับหน้าดิน ไม่ได้เร่งรัดโครงการ เนื่องจากโครงการดังกล่าวยังติดปัญหาการจัดหาแหล่งเงินกู้ เป็นผลจากสถาบันการเงินยังกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของประเทศเวียดนาม และค่าเงินด่องอ่อนตัวลง อย่างไรก็ตามบริษัทฯคาดว่าโครงการดังกล่าวจะมีความชัดเจนภายในปีนี้

วานนี้ (6 มิ.ย.) เอสซีจี เคมิคอลส์ เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ คือผงเมลามีนคอมพาวด์สูตรใหม่ที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้ หรือWaveme ซึ่งเป็นนวัตกรรมด้านเมลามีนที่ช่วยให้อุตสาหกรรมและตลาดภาชนะเมลามีนโลกขยายตัวมากขึ้น โดยได้มีการจัดสิทธิบัตรและผ่านการทดสอบมาตรฐานคุ้มครองผู้บริโภคของยุโรป(EU Regulation) และได้รับการยอมรับจากธุรกิจโรงแรม ภัตตาคารและเคเทอร์ริ่ง(HORECA)ในยุโรป ซึ่งเป็นตลาดที่บุกเบิกร่วมกับบริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน)

นายปรีดา วัชรเธียรสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเอ็มเอฟซี จำกัดในเครือเอสซีจี เคมิคอลส์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯจะผลิตผงเมลามีนที่ทำภาชนะเมลามีนที่ใช้ในไมโครเวฟได้ 300 ตัน/ปี และจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 2,000 ตันในปี 2556 เพื่อจำหน่ายให้กับศรีไทยฯทั้งหมด คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 2-3 ล้านเหรียญสหรัฐในการปรับกระบวนการผลิต ขณะที่ราคาผงเมลามีนที่เข้าไมโครเวฟได้ สูงกว่าเกรดธรรมดา 30%

ปัจจุบันไทย เอ็มเอฟซี มีกำลังการผลิตผงเมลามีนเกรดทั่วไป 1.2 หมื่นตัน/ปี โดยการผลิตผงเมลามีนชนิดWaveme จะทำให้กำลังการผลิตผงเมลามีนเกรดทั่วไปลดลง อย่างไรก็ตาม หากความต้องการผงเมลามีนชนิดWaveme เพิ่มขึ้นก็จะพร้อมที่จะเพิ่มกำลังการผลิตได้ทันที โดยศรีไทยฯจะนำผงเมลามีนชนิดWaveme ไปผลิตเป็นภาชนะเมลามีนส่งออกไปยุโรป โดยภาชนะเมลามีนดังกล่าวจะไม่เปลี่ยนสีหรือมีรอยไหม้หลังนำเข้าไมโครเวฟ มีความปลอดภัย และแข็งแรง
กำลังโหลดความคิดเห็น