ธุรกิจขายตรงเนื้อหอม “เอเชีย สุพรีม” แจ้งเกิดชิงชิ้นเค้ก 4.5หมื่นล้านบาท ฝัน 5ปี ติดอันดับท็อปไฟว์เอเชีย ชูโมเดลผลตอบแทนแอมเวย์ “สแตร์สเต็ป” หวังเติบโตอย่างยั่งยืน ปั้นสกินแคร์สินค้าเรือธง ตั้งเป้า 1-2 ปี ขยายตลาดอินโดจีน ปูพรมลุยพม่า ลาว เวียดนาม ตั้งเป้าปีแรกกวาด 300ล้านบาท ผู้แทนจำหน่าย 2,000ราย
นายธวัชชัย วงศ์ธนสารสิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย สุพรีม จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงหลายชั้นเอเชีย สุพรีม เปิดเผยว่า บริษัทเอเชีย สุพรีม หรือผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงหลายชั้น ได้ถูกก่อตั้งขึ้นจากการรวมตัวและร่วมทุนของทีมผู้บริหารที่คร่ำหวอดในวงการธุรกิจขายตรงมากว่า 20ปี โดยมีสัดส่วนถือหุ้น 51% และบริษัททีโอพี คอสเมติค แอนด์ แมนูแฟคเจอร์ จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตสินค้าป้อนให้แก่บริษัทเอเชีย สุพรีม โดยถือหุ้นสัดส่วน 19% ขณะที่บริษัทโกลเบิล เกทเวย์ (global gateway) ผู้ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานจากประเทศแคนาดา ถือหุ้นสัดส่วน 30% ด้วยทุนจดทะเบียน 10ล้านบาท วางเป้าหมายการดำเนินธุรกิจ 5ปี จะติดอันดับท็อปไฟว์หรือ 1 ใน 5 ตลาดเอเชีย
ทั้งนี้ปัจจัยที่ได้เข้ามาดำเนินธุรกิจขายตรง เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพในปี 2552 มูลค่าตลาดมีเพียง 2.2 หมื่นล้านบาท และในปี 2553 เพิ่มเป็น 3 หมื่นล้านบาท โดยมีการเติบโต 50% และคาดว่าปีนี้มูลค่าธุรกิจขายตรงจะเพิ่มเป็น 4.7 หมื่นล้านบาท เนื่องจากแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภค ซื้อสินค้าช่องทางขายตรงมากขึ้น เพราะสะดวกและรวดเร็วสอดรับกับไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจขายตรงเอเชีย สุพรีม จะให้ผลตอบแบบสแตร์สเต็ป หรือแบบขั้นบันได เป็นลักษณะการคิดค่าตอบแทนให้กับผู้แทนจำหน่ายอิสระเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดคะแนนซื้อส่วนตัวและ/หรือยอดกลุ่มส่วนตัว โดยเป็นโมเดลเดียวกับแอมเวย์ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำธุรกิจขายตรงหลายชั้นทั้งในระดับโลกและผู้นำตลาดในไทย เนื่องจากบริษัทต้องการการเติบโตแบบยั่งยืน
โดยกลยุทธ์การตลาดมุ่งให้ความสำคัญ 3 ด้าน คือ 1.การพัฒนานวัตกรรมสินค้าใหม่ๆ มีด้วยกัน 5 กลุ่ม ได้แก่ 1.ผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม และดูแลผิว 2.กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 3.ของใช้ในครัวเรือน 4.ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล และ5.กลุ่มสวัสดิการจำหน่ายสินค้าฝากขาย
และ2.ด้านผู้จำหน่ายสินค้า วางแผนเจาะ3กลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มผู้ที่จะเข้าขึ้นมาเป็นคนรุ่นใหม่ กลุ่มคนรุ่นใหม่ และกลุ่มผู้ใหญ่ 3.แผนการตลาดบริษัทวางสินค้าดูแลผิวเป็นเรือธงสร้างรายได้ นำร่องเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาผิวพรรณ NOIRIS MTP ANTI MELASMA CREAM จากนั้นจะนำเข้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จากปัจจุบันมีสินค้า 2 รายการ พร้อมทั้งจัดกิจกรรมโรดโชว์ เพื่อสร้างการรับรู้ ที่จังหวัดขอนแก่น นครราชสีมา ฯลฯ การอบรมผ่านทางสถาบันธุรกิจเครือข่ายเอเชีย รวมทั้งเปิดศูนย์จำหน่าย 2 แห่ง ที่ จังหวัดขอนแก่น ฯลฯ
นายธวัชชัย กล่าวว่า บริษัทวางแผนบุกตลาดอินโดจีนใน 1-2 ปีนี้ นำร่องการสร้างเครือข่ายนักธุรกิจที่ประเทศพม่า เวียดนาม และลาว หากยอดขาย 5 ล้านบาท ตั้งเป้าจะเปิดศูนย์จำหน่าย และตั้งเป้าอีก 2-3 ปีจะรุกขยายธุรกิจไปที่ประเทศอินโดนีเซียและจีน สำหรับผลประกอบการปีแรกบริษัทตั้งเป้า 300ล้านบาท และมีผู้จำหน่ายที่แอคทีฟ 2,000ราย จากปัจจุบันมีฐานสมาชิก 1,000ราย จากอัตราค่าสมัครสมาชิก 500 บาท โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเพื่อความงาม สร้างรายได้เรือธง ตามด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ส่วนเป้าหมายรายได้ 5 ปี มากกว่า 1,000 ล้านบาท
นายธวัชชัย วงศ์ธนสารสิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย สุพรีม จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงหลายชั้นเอเชีย สุพรีม เปิดเผยว่า บริษัทเอเชีย สุพรีม หรือผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงหลายชั้น ได้ถูกก่อตั้งขึ้นจากการรวมตัวและร่วมทุนของทีมผู้บริหารที่คร่ำหวอดในวงการธุรกิจขายตรงมากว่า 20ปี โดยมีสัดส่วนถือหุ้น 51% และบริษัททีโอพี คอสเมติค แอนด์ แมนูแฟคเจอร์ จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตสินค้าป้อนให้แก่บริษัทเอเชีย สุพรีม โดยถือหุ้นสัดส่วน 19% ขณะที่บริษัทโกลเบิล เกทเวย์ (global gateway) ผู้ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานจากประเทศแคนาดา ถือหุ้นสัดส่วน 30% ด้วยทุนจดทะเบียน 10ล้านบาท วางเป้าหมายการดำเนินธุรกิจ 5ปี จะติดอันดับท็อปไฟว์หรือ 1 ใน 5 ตลาดเอเชีย
ทั้งนี้ปัจจัยที่ได้เข้ามาดำเนินธุรกิจขายตรง เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพในปี 2552 มูลค่าตลาดมีเพียง 2.2 หมื่นล้านบาท และในปี 2553 เพิ่มเป็น 3 หมื่นล้านบาท โดยมีการเติบโต 50% และคาดว่าปีนี้มูลค่าธุรกิจขายตรงจะเพิ่มเป็น 4.7 หมื่นล้านบาท เนื่องจากแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภค ซื้อสินค้าช่องทางขายตรงมากขึ้น เพราะสะดวกและรวดเร็วสอดรับกับไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจขายตรงเอเชีย สุพรีม จะให้ผลตอบแบบสแตร์สเต็ป หรือแบบขั้นบันได เป็นลักษณะการคิดค่าตอบแทนให้กับผู้แทนจำหน่ายอิสระเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดคะแนนซื้อส่วนตัวและ/หรือยอดกลุ่มส่วนตัว โดยเป็นโมเดลเดียวกับแอมเวย์ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำธุรกิจขายตรงหลายชั้นทั้งในระดับโลกและผู้นำตลาดในไทย เนื่องจากบริษัทต้องการการเติบโตแบบยั่งยืน
โดยกลยุทธ์การตลาดมุ่งให้ความสำคัญ 3 ด้าน คือ 1.การพัฒนานวัตกรรมสินค้าใหม่ๆ มีด้วยกัน 5 กลุ่ม ได้แก่ 1.ผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม และดูแลผิว 2.กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 3.ของใช้ในครัวเรือน 4.ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล และ5.กลุ่มสวัสดิการจำหน่ายสินค้าฝากขาย
และ2.ด้านผู้จำหน่ายสินค้า วางแผนเจาะ3กลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มผู้ที่จะเข้าขึ้นมาเป็นคนรุ่นใหม่ กลุ่มคนรุ่นใหม่ และกลุ่มผู้ใหญ่ 3.แผนการตลาดบริษัทวางสินค้าดูแลผิวเป็นเรือธงสร้างรายได้ นำร่องเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาผิวพรรณ NOIRIS MTP ANTI MELASMA CREAM จากนั้นจะนำเข้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จากปัจจุบันมีสินค้า 2 รายการ พร้อมทั้งจัดกิจกรรมโรดโชว์ เพื่อสร้างการรับรู้ ที่จังหวัดขอนแก่น นครราชสีมา ฯลฯ การอบรมผ่านทางสถาบันธุรกิจเครือข่ายเอเชีย รวมทั้งเปิดศูนย์จำหน่าย 2 แห่ง ที่ จังหวัดขอนแก่น ฯลฯ
นายธวัชชัย กล่าวว่า บริษัทวางแผนบุกตลาดอินโดจีนใน 1-2 ปีนี้ นำร่องการสร้างเครือข่ายนักธุรกิจที่ประเทศพม่า เวียดนาม และลาว หากยอดขาย 5 ล้านบาท ตั้งเป้าจะเปิดศูนย์จำหน่าย และตั้งเป้าอีก 2-3 ปีจะรุกขยายธุรกิจไปที่ประเทศอินโดนีเซียและจีน สำหรับผลประกอบการปีแรกบริษัทตั้งเป้า 300ล้านบาท และมีผู้จำหน่ายที่แอคทีฟ 2,000ราย จากปัจจุบันมีฐานสมาชิก 1,000ราย จากอัตราค่าสมัครสมาชิก 500 บาท โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเพื่อความงาม สร้างรายได้เรือธง ตามด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ส่วนเป้าหมายรายได้ 5 ปี มากกว่า 1,000 ล้านบาท
