“ปุระชัย”เหยียบศพเพื่อน เปิด “รักษ์สันติ”ตัวเลือกใหม่

เป็นที่แน่ชัดว่า ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบรูณ์ จะหวนกลับมาลุยการเมืองอย่างจริงจังอีกครั้ง หลังจากที่ห่างเหินวงการเมืองนานหลายปี
ด้วยการเตรียมเปิดตัวพร้อมกับพรรคการเมืองน้องใหม่ถอดด้าม ที่เพิ่งไปจดทะเบียนตั้งพรรคที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือก ตั้งเมื่อ 30 มีนาคม ที่ผ่านมานี้เอง คือพรรครักษ์สันติ ที่ไม่ใช่ประชาสันติ อย่างที่โหมโรงไว้ โดยมีคนใส่พานถวายให้ก่อนหน้านี้
ปุระชัย ออกมาเปิดเผยว่าจะไม่ได้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรค แต่การลงสมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์หนึ่ง โดยจะส่งให้ พล.ต.ท.ถวิล สุรเชษฐ์พงษ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อนซี้ นรต.รุ่น 25 เป็นนอมินี นั่งหัวหน้าพรรคแทน
ส่วนปุระชัย ก็คงมีสถานะไม่ต่างอะไรไปจากประมุขพรรครักษ์สันตินั่นเอง ที่มีอำนาจชี้เป็นชี้ตายภายในพรรครักษ์สันติแต่เพียงผู้เดียว และเตรียมประแป้งแต่งตัวชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนต่อไปหลังเลือกตั้ง
เมื่อการกลับหวนสู่การเมืองของปุระชัย ปรากฏออกมาเป็นโครงสร้างแบบนี้ คนเสียเส้น-เสียฟอร์ม มากสุดคงไม่พ้น เสรี สุวรรณภานนท์ อดีต ส.ว.กรุงเทพมหานคร คนดังศิษย์ “เหลิม บางบอน” ก็จะไม่ให้เสียได้อย่างไร เนื่องจากเสรี สู้ทำหน้าที่ผู้จัดการใหญ่ ออกมาเชียร์แขกเรียกคนดูเปิดชื่อพรรคประชาสันติ กับปุระชัย มาร่วมสองสัปดาห์
เคลื่อนไหว เป็นตัวตั้งตัวตี เอาเก้าอี้หัวหน้าพรรคประชาสันติ ที่ไปเซ้งมาจากพรรคเก่าที่ชื่อธรรมาธิปัตย์มา หวังยกเครื่องใหม่พาดบันไดให้ปุระชัย เข้าร่วมหอลงโรงด้วยกัน เสรี ที่ตอนนี้กลายเป็นตัวตลกทางการเมืองไปแล้ว ออกมาตีปี๊บเสียดิบดีไม่มีกั๊ก ว่า
ปุระชัย จะมาร่วมงานในพรรคประชาสันติแน่ โดยยกก้นว่า ปุระชัย เหมาะสมสำหรับการเป็นผู้นำการเมืองในยุคบ้านเมืองมีปัญหาความขัดแย้งไปทั่วทุกหนแห่ง พร้อมทั้งสรรหาสรรพคุณ ปุระชัย มาบรรยายยกย่องกันเป็นฉากๆ
ทั้งนี้ เสรี ยังระบุด้วยว่า พรรคนี้ปุระชัย เป็นคนตั้งชื่อประชาสันติเอง เสรีก็ทำให้เต็มที่ เพื่อให้ปุระชัย เดินเข้าพรรคอย่างเป็นทางการ 2 เมษายน
วัน..ว. เวลา...น. ยังเหมือนเดิม แต่ที่เปลี่ยนแปลงคือ 2 เมษายน ที่ผ่านมา กลับเป็นการเปิดตัว รักษ์สันติ หาใช่ ประชาสันติ
แน่นอน ทนายเสรี เลยฉุนควันออกหู ที่ปุระชัย นัดแล้วไม่มา แต่กลับไปประกาศเปิดบ้านหลังใหม่แทน ไม่มีการบอกกล่าวให้รู้ล่วงหน้าเลย เป็นเหตุให้พรรคประชาสันติ แท้งตายทั้งกลม เสรีหน้าแตกยังงงไม่หายกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
จึงต้องประกาศเลิกสังฆกรรมกับอดีตนายตำรวจฉายา “นายร้อยไม้บรรทัด” ชาตินี้เข็ดแล้ว สวดไล่หลังปุระชัย ว่า คนอะไร ตกลงอะไรกันไว้ กลับไปกลับมา หลอกกันจนถึงนาทีสุดท้าย
ขณะเดียวกัน ก็เชื่อว่า พรรคประชาสันติ หมดสิทธิ์แจ้งเกิดร้อยเปอร์เซนต์แน่ เพราะ ชื่อ-ยี่ห้อ ทนายเสรี แม้จะมีดีกรีเป็นอดีตเลขาธิการสภาทนายความ- อดีตรองประธานวุฒิสภา –อดีตส.ว.กทม.-อดีตรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญปี 50 แต่สำหรับทางการเมืองในระดับประเทศ ชื่อชั้น เสรี เป็นแกนนำพรรคการเมืองได้ แต่จะยกไปขายเป็นผู้นำเดี่ยว คงไม่ได้
เบื้องหลังการดีดตัวออกห่าง ประชาสันติ ของปุระชัย และพลพรรคก๊วน นรต.รุ่น 25 ทั้ง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.- พล.ต.ท.ถวิล สุรเชษฐ์พงษ์ อดีต ผบช.ภ.7 –พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ อดีต ผช.ผบ.ตร. ก็ไม่มีอะไรมาก สืบเสาะหาข่าวมาแล้ว
พบว่า ปุระชัย กับเพื่อนร่วมก๊วน รวมถึง เสี่ยพันธ์เลิศ ใบหยก ถุงเงินของพรรค ถกกันแล้วประเมินว่าพรรคประชาสันติ ไม่น่าจะไปได้สวย เพราะแค่เปิดชื่อ ประชาสันติ ก็ถูกวิจารณ์หนักเจอสารพัดข้อกล่าวหา ถือว่าเป็นชื่อไม่ดีแล้ว แบบนี้ต้องเปลี่ยนใหม่
เพราะการเปิดชื่อประชาสันติออกมา ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นพรรคนอมินี ให้พวกภูมิใจไทย-ชาติไทยพัฒนา ที่ส่งลงมาเจาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร, เป็นพรรคอะไหล่ของสายทหาร กลุ่มบูรพาพยัคฆ์ โดยมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ อยู่เบื้องหลัง เพื่อหวังให้เป็นประชาสันติ เป็นพรรคสำรองและ เป็นฐานอำนาจให้กับ “บิ๊กป้อม” ที่จะได้ดุลอำนาจต่อรองมากขึ้นในเกมการเมือง หลังเลือกตั้งครั้งใหม่
บทวิเคราะห์ที่ชัดๆ มีน้ำหนักความเป็นไปได้มาก และน่าสนใจก็คือ ปุระชัย กำลังสร้างโอกาส เพื่อจะได้เป็น “นายกฯส้มหล่น” หากเพื่อไทย ได้เป็นรัฐบาลแล้วหาคนเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ ทักษิณ ชินวัตร ก็จะเอาปุระชัย มาเป็นนายกฯ แต่เรื่องนี้ปุระชัย ปฏิเสธว่า ตั้งแต่เดินออกจากไทยรักไทย ปี 48 ไม่เคยยกหูโทรศัพท์ไม่เคยคุยกับ ทักษิณ เลยสักคำ และไม่เคยเรียกทักษิณ ว่าเพื่อน
เหล่านี้เป็นบททดสอบหนักๆ เจอแบบนี้ ปุระชัย ก็ต้องทบทวนคิดหาบ้านใหม่ ไม่โอเค.กับพรรคประชาสันติ ที่หวังเอาปุระชัย มาเสนอเป็นจุดขาย หาเสียงกับคนกลุ่มที่ไม่เอา เพื่อไทย-เกลียดประชาธิปัตย์
เลยมีปรากฏการณ์หักเหลี่ยมโหดกับเพื่อนเสรี หนีมาตั้งพรรคของตัวเอง สร้างจุดขายให้คนรับรู้กันทั่วไปว่า ตั้งมากับมือ ไม่ได้ไปเซ้งพรรคใครมาหาหัวเสียบ เพียงให้ทันการเลือกตั้ง
ปุระชัย ขึ้นป้ายขาย ปุระชัย โดยไม่เนียมอาย เจาะช่องตลาดการเมืองที่เป็นผู้นำทางเลือก รวมทั้งชื่อ รักษ์สันติ ก็ฟังดูเข้าท่าดี ความหมายเข้าใจง่าย สื่อได้ตรง ทุกอย่างก็เลย โอเค. เรียบร้อยโรงเรียน ดร.ปุ...
การประกาศตัวต่อสาธารณะด้วยความภาคภูมิใจ และมีวาทกรรมที่สวยหรูกินใจผ่านไปแล้ว แต่เบื้องหลังกลับ มีศพของ เสรี สุวรรณภานนท์ สังเวยให้ปุระชัย เหยียบไปบนถนนการเมืองสายใหม่นี้เป็นศพแรก
อันเป็นภาพแรกที่ขัดแย้งอย่างยิ่ง กับแนวทางพรรครักษ์สันติ ที่ปุระชัย ประกาศจุดยืนเข้ามาทำงานการเมืองเพื่อสร้างสันติ นำสังคมกลับสู่การปรองดอง และมีภราดรภาพ แต่พรรคนี้กลับเริ่มด้วยการหักเหลี่ยมเฉือนคมตั้งแต่ก้าวแรก ขนาดที่ต้องสลัดเพื่อนทิ้งโดยไม่แยแสก็ทำได้ ทำให้กลุ่มผู้ร่วมก่อตั้งที่ถูก ปุระชัยทิ้งต้องกลืนเลือด เพราะนึกไม่ถึงว่าปุระชัย จะโหดได้ขนาดนี้
ทั้งๆที่สุมหัวคุยกันมาตั้งนาน ซึ่งปุระชัย ก็ร่วมคิดและวางแผนสร้างพรรคประชาสันติ มาโดยตลอด ชื่อสันติประชา ก็เป็นชื่อที่ปุระชัย คิดเอง แต่เมื่อคิดจะไม่เอาแล้วปุระชัย ก็ยกก๊วนไปโดยไม่มีรักษาสันติกับเพื่อน
จึงสะท้อนว่า ปุระชัย จะยึดถือแนวทางสันติ และการปรองดองได้อย่างไร เพราะเริ่มต้นตั้งพรรคก็เหยียบศพเพื่อนขึ้นมาแล้ว หาใช่เป็นไปตามแนวทางสันติวิธีไม่
อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาดูว่าปุระชัย จะขับเคลื่อน รักษ์สันติ ต่อไปอย่างไร เพราะแค่วันเลือกเปิดตัว ก็น่าคิดไม่ใช่น้อยแล้ว เห็นได้ชัดว่า ใช้กลยุทธ์หวังซื้อใจคนจีนทั่วประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มจีนแต้จิ๋ว ที่มีมากที่สุดในประเทศไทย ด้วยการใช้สมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย ย่ายสาธร-ถนนจันทร์ เป็นที่เปิดตัวลงเล่นการเมือง โดยให้ระบุว่า มีเชื้อสายต้นตระกูลเป็นคนแซ่ลิ้ม ซึ่งเป็นคนแต้จิ๋ว
แค่นี้ก็พอเห็นแล้วว่า ปุระชัย เริ่มต้นหาเสียงแต่เนิ่นๆ กับคนไทยเชื้อสายจีน ที่มีอยู่หลายล้านคนทั่วประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจ และสังคม แถมเป็นกลุ่มคนที่อยู่ในระดับชนชั้นกลาง ที่กำลังเบื่อหน่ายการเมืองไม่มีทางเลือก จะเลือกเพื่อไทย-ประชาธิปัตย์ ก็เต็มกลืน และ มีแนวโน้มสูงที่อาจเอาด้วยกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ชูธงโหวตโน VOTE NO
คงเพราะเหตุนี้ ป.ปุระชัย เลยรีบออกตัว บอกเลยว่า คนไหนที่จะกาโนโหวต ก็ขอให้ กาเลือกช่อง พรรครักษ์สันติ แล้วกัน พรรคจะได้มีคะแนน
แต่สิ่งที่ ปุระชัย ไม่ได้บอกก็คือ ปุระชัย กับรักษ์สันติ มีอะไรที่ดีกว่าพรรคการเมืองอื่นๆ ในเวลานี้ และรักษ์สันติ มีจุดเด่นอะไรที่เป็นแนวทางของพรรค ที่จะสร้างทางออกให้ประเทศไทยมากกว่าทางเลือกเก่าในวันนี้
หรือเพียงสบช่องได้จังหวะ คิดจะมาตีกินเอาคะแนน โนโหวต ของประชาชน ที่กำลังเห็นได้ชัดว่าคนจะเอาด้วยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยตัวเองไม่มีคุณสมบัติ และแนวคิดที่จะมาเข้าพัฒนาการการเมืองไทยให้ดีกว่าเป็นอยู่เลยสักนิด
ปุระชัย ในฉากหลังวันนี้กับพรรครักษ์สันติ จะเป็นทางเลือกใหม่ให้กับคนไทย ตามที่คำ ประกาศของเขาที่อาสาตัวมาทำงานการเมืองเพื่อชาติบ้านเมืองหรือไม่ เวลาและสถานการณ์ที่รออยู่ข้างหน้าจะทำหน้าที่ไขความจริง
หรือว่า ปุระชัย เป็นแค่คนที่ต้องการอยู่ในอำนาจ อย่างที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งหลายฝ่ายสรุปว่า ปุระชัย ออกมารอบนี้ก็เพราะต้องการฉกฉวยโอกาสทางการเมืองในท่ามกลางความรู้สึกประชาชนที่เกิดความเบื่อหน่ายนักการเมืองหน้าเดิม พฤติกรรมชั่วซ้ำชาก และกำลังมองหาตัวเลือกและทางเลือกใหม่
ดังนั้นจึงเป็นช่องทางแห่งโอกาสที่ปุระชัย กับพวกมองเห็น การก้าวขึ้นสู่อำนาจในสถานการณ์เช่นนี้ไม่ยากเลย