วานนี้(29 มี.ค.))ที่รัฐสภา นายธนา ชีรวินิจ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 3 ฉบับ ที่สภาได้รับหลักการแล้ว ประกอบด้วยร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งวุฒิสภา ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ว่าการพิจารณาร่างทั้ง 3 ฉบับจะพิจารณาเสร็จสิ้นในวันที่ 30 มี.ค.
โดยร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ... เสร็จไปแล้ว โดยกมธ.ได้แก้ไขในสาระสำคัญ คือ แก้ไขมาตรา 32 ซึ่งแก้ไขมาตรามาตรา 110 กรณีก่อนวันประกาศผลการเลือกตั้ง ถ้าปรากฏหลักฐาน อันควรเชื่อได้ว่า พรรคการเมืองหรือ เจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง หรือสมาชิกของพรรคการเมือง กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ระเบียบหรือประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งกกต. เห็นว่า การกระทำน่าจะเป็นผลให้การเลือกตั้งไม่สุจรติเที่ยงธรรม กกต.มีอำนาจประกาศให้บัตรเลือกตั้ง ที่ลงคะแนนให้แก่พรรคในการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ เป็นบัตรเสีย เฉพาะในเขตที่มีการกะทำ โดยให้ตัดข้อความ สมาชิกพรรคการเมืองออกไป เนื่องจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเป็นง่าย และอาจจะมีการกลั่นแกล้ง กล่าวหากันได้ง่าย จึงเห็นสมควรให้ตัดออกไป พร้อมทั้งเสนอให้พรรคการเมืองส่งรายชื่อเจ้าหน้าที่พรรคการเมืองให้แก่กกต.ก่อนการเลือกตั้งเพื่อที่จะได้สามารถตรวจสอบหากเกิดการกระทำผิดจะได้ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้
ทั้งนี้จะมีการแก้ไขในมาตรา 13 เกี่ยวกับการรับสมัครแบบบัญชีรายชื่อ โดยเพิ่มเติมข้อความในมาตราที่ 41 ว่าบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องประกอบด้วยผู้สมัครจากภูมิภาคต่างๆ อย่างเป็นธรรมและคำนึงถึงโอกาส สัดส่วนที่เหมาะสมและความเท่าเทียมกันระหว่างหญิงและชาย และมาตรา 23 เกี่ยวกับบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อจะต้องมีช่องทำเครื่องหมาย และหมายเลขของพรรคการเมืองและชื่อพรรคการเมืองพร้อมอาจมีภาพเครื่องหมายพรรคการเมือง ให้แก้ไขว่า กำหนำให้มีภาพเครื่องหมายพรรคการเมืองครบทุกพรรค เพื่ออำนวยความสะดวกให้บุคคลที่อ่านหนังสือไม่ออกแต่สามารถจำสัญลักษณ์ของพรรคได้อย่างชัดเจน
การประชุมกมธ. ต้องรอวันที่ 30 มี.ค. ซึ่งจะครบกำหนดภายใน 7 ที่แปรญัตติ ซึ่งจะดูว่าสมาชิกจะแปรญัตติในเรื่องใดอีกบ้าง ส่วนร่างพ.ร.บ.พรรคการเมือง และร่างกกต. ไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรมาก เป็นเพียงแค่ให้กกต.ไปประกาศเขตเลือกตั้ง และกำหนดค่าใช้จ่ายพรรคการเมือง หลักพิจารณาเสร็จแล้วจะส่งให้ประธานรัฐสภาดำเนินการต่อไป เพื่อบรรจุเข้าระเบียบวาระการพิจารณาวาระ 2 วาระ 3 พิจารณาในสัปดาห์หน้า
**รูปหล่อ “เผาไทย”แถลงปัดพัลวัน
ส่วนกระแสข่าว นายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ถูกวางตัวให้เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีคนต่อไปนั้น
นายปานปรีย์ ออกมาปฏิเสธ ผ่านเว็บไซต์ www.parnpree.com ถึงกรณีดังกล่าวว่า เช้าวันที่ 29 มี.ค. มีชื่อปรากฏเป็นข่าวในสื่อต่างๆ ว่าโผล่เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี และมีคนสอบถามจำนวนมากจนแทบจะอธิบายซ้ำๆ ไม่ไหว จึงต้องขออนุญาตคุยกันผ่านเว็บไซต์ www.parnpree.com แทน
ข้อเท็จจริงคือ เวลานี้ตนไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดๆ จึงไม่สามารถไปเป็นแคนดิเดทตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้อย่างแน่นอน ได้ติดตามการเมืองมาตลอด ผผู้ใหญ่หลายๆ ท่านเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมืองด้วยความเป็นห่วงเท่านั้น ยังไม่มีการตัดสินใจจะเข้าไปทำงานในพรรคการเมืองใดๆ ถึงขั้นลงสมัครรับเลือกตั้ง
นายปานปรีย์ กล่าวยอมรับว่ามีผู้ชักชวนตนให้กลับมาทำงานการเมือง แต่ตนก็อธิบายด้วยเหตุผลหลักๆ ว่า 1.ตนยังไม่เห็นแนวโน้มว่าการเมืองจะดีขึ้นถึงแม้รัฐบาลยุบสภาไปแล้วและมีการเลือกตั้งใหม่ 2. พรรคการเมืองยังคงจับเป็นขั้วเพื่อเตรียมกลับมาเป็นรัฐบาลอย่างเดียว 3.ตนไม่เห็นความชัดเจนของพรรคการเมืองใด ฝ่ายการเมืองใด ที่จะประกาศออกมาชัดเจน และเชื่อถือได้ว่าจะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองอย่างจริงจัง 4.ตนเห็นว่าการยุบสภาและการเลือกตั้งไม่ใช่คำตอบของการปรองดอง และ 5.เรื่องที่ประชาชนทั้งเหลืองและแดงเรียกร้องอยู่ยังคาราคาซัง ไม่มีความตั้งใจจริงที่จะสร้างความเข้าใจ หาวิธีการที่ถูกต้องเพื่อแก้ไขปัญหานี้
**เผยชื่อ5แคนดิเดตนายกฯตามโผ
ทั้งนี้ นอกจากชื่อ นายปานปรีย์ แล้ว ยังมีชื่อของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย , นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน , ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย , น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
**เปิดตัวหัวหน้าก่อนยุบสภา 5 วัน
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันว่า ก่อนยุบสภา 5 วันพรรคจะประกาศชื่อแคนดิเดตชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ส่วนกระแสข่าวว่าเป็น นายปานปรีย์ หรือไม่นั้น
“ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยอมรับขณะนี้พรรคได้ข้อสรุปแล้วว่าเป็นใคร โดยขอให้ประชาชนอดใจรออีกสักพัก” ทั้งนี้ยืนยันว่า สาเหตุที่ไม่เปิดเผยชื่อไม่ได้กลัวว่าจะโดนเตะตัดขา เพราะป้องกันไว้แล้ว แต่เป็นยุทธศาสตร์และเทคนิคของพรรค โดยให้พรรคอื่นประกาศลดแลกแจกแถมกันไปก่อน
เชื่อว่า ท้ายที่สุดพรรคจะเป็นปึกแผ่น เพื่อกลับไปสูโหมดการเลือกตั้ง หลังมีความขัดแย้งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเป็นผู้คัดเลือกแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่นั้น ยอมรับว่า มีความคิดเห็นจากหลายส่วน โดยเฉพาะความรู้สึกของ ส.ส. ภายในพรรค รวมถึงความคาดหวังของประชาชน
**ให้รอดูหินก้อนใหม่ชื่อ“อุ๋ย”
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรเพื่อไทยไม่กล้าจะเปิดเผยชื่อในขณะนี้เพราะกลัวจะถูกตัดขา และป้ายสีให้ช้ำไปเสียก่อน ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะปกปิดผู้นำของตัวเองให้ประชาชนได้รับทราบ ไม่จำเป็นต้องรอจนถึงยุบสภา ถ้าผู้นำพรรคเพื่อไทยเป็นคนดีจริง ไม่มีแผลให้ใครขุดคุ้ยได้ ก็ไม่ต้องกลัว หากเป็นทองแท้ก็ไม่ต้องกลัวไฟ แต่เกรงว่ายังไม่สามารถตกลงได้ภายในกลุ่มต่างๆ ได้
“เชื่อว่านายปานปรีย์คงจะไม่เป็นเหยื่อให้กับพรรคเพื่อไทยอีกหลังถูกหลอกและให้ความหวังมานาน เป็นการโยนหินถามทาง และปล่อยข่าวชื่อคนต่างๆ ตั้งแต่พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมีย์เวศ พล.ต.ม.จ.จุลเจิม ยุคล ซึ่งสุดท้ายก็ถูก”
ทั้งนี้ยังเชื่อว่า จะมีการโยนหินถามทางอีกคือ ม.ร.ว.ปรีดียาธร เทวกุล ที่มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองสอดคล้องกับแนวทางของพรรคเพื่อไทย
**เทือกรับ “ยาก”ผสมพันธุ์เผาไทย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นถึงท่าทีของนายกรัฐมนตรีต่อพรรคเพื่อไทยที่ไม่อยากร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ ว่า อย่าไปสังเกตุอะไรจนละเอียดลึกซึ้ง ไม่มีอะไรที่เป็นประเด็น เพราะการเลือกตั้งคราวนี้ก็แข่งกันสองพรรคคือเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ ส่วนหลังจากการเลือกตั้งแล้วจะทำอย่างไรก็มาดูผลการเลือกตั้งกันก่อน
ส่วนแนวทางการทำงานของ 2 พรรคไปด้วยกันได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า “ยาก” เพราะมีความแตกต่างกันทั้งอุดมการณ์ แนวความคิด และเรื่องตัวบุคคล
**ดัด “ลูกติดเมีย” สมัครส.ส.ทวีวัฒนา
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดตัวทายาททางการเมืองทั้งของนายสุเทพและนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ จะมีความชัดเจนเมื่อใด นายสุเทพ กล่าวว่า ที่จริงไม่ใช่ทายาททางการเมือง พรรคประชาธิปัตย์พยายามเอาคนรุ่นใหม่ขึ้นมาทดแทน ตั้งแต่อายุ 25-30 ปีที่มีแววมีใจรักจะทำงานการเมืองก็เอาเข้ามาทำงานการเมืองเพื่อสืบทอด จะได้ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งพื้นที่จังหวัดต่างๆ โดยได้คัดเลือกประมาณ 600 กว่าคน เช่น นายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ (บุตรชายภรรยานายสุเทพ) ก็อยู่ในบัญชีที่พรรคเตรียมเอาไว้
“เขาเรียนจบมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด แบบท่านนายกฯ เหมือนกัน และเกียรตินิยมด้วย ถือว่าเก่ง ทำงานดีเพื่อนฝูงชอบ ส่วนจะลงเขตทวีวัฒนา จะไหวหรือไม่ เขาจะลงเขตไหนกกต.ยังแบ่งเขตไม่เสร็จเลย แต่คนที่จะสมัครเขาก็เคลื่อนไหวไปตามปกติ ไปลงพื้นที่ไว้ก่อน เล็ง ๆ อยู่ก่อนแล้ว”นายสุเทพกล่าว
**คนเก่าคนกลางปชป.ปลดระวาง
ขณะที่คนรุ่นเก่าหรือรุ่นกลางๆของพรรค บางคนก็ปลด คล้ายหมดอายุการใช้งาน ก็ต้องเอาคนใหม่ขึ้นมาใช้งาน มีการเปลี่ยนแปลงหลายแห่ง แต่ไม่มีปัญหาเรื่องการจัดวางตัวผู้สมัคร ที่อาจต้องเปลี่ยนจากส.ส.เขตไปขึ้นบัญชีรายชื่อ เพราะเรามีวัฒนธรรมองค์กร และระบบวิธีการคัดกรอง
**ฝันพรรคทางเลือกที่ 3 ต้องเกิด
ที่พรรคเพื่อแผ่นดิน ถ.สุโขทัย มีการประชุมพรรคประจำสัปดาห์ นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง หัวหน้าพรรค เปิดเผยว่า ได้หารือความพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้ง โดยได้กำหนดให้ว่าที่ผู้สมัครลงพื้นที่เริ่มดำเนินกิจกรรมตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นต้นไป ทั้งนี้ยังตั้งข้อสังเกตการแบ่งเขตเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่ามีความผิดปกติ เนื่องจากบางจังหวัดที่ไม่มีการปรับลดเขตเลือกตั้ง กลับมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ในเขตเลือกตั้ง จึงมองได้ว่าอาจมีความพยายามให้เกิดการเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มการเมืองหรือพรรคการเมืองบางพรรค โดยเรื่องนี้ว่าที่ผู้สมัครที่ได้รับผลกระทบจะทำหนังสือเพื่อสอบถามถึงเหตุผลต่อ กกต.ต่อไป
ทั้งนี้ยังประเมินว่า ยังจำเป็นต้องมีพรรคการเมืองที่เป็นทางเลือกที่ 3 ซึ่งไม่ใช่คู่ขัดแย้งเกิดขึ้นเพื่อขันอาสาทำหน้าที่เพื่อให้บ้านเมืองสามารถไปต่อได้
**ผสมสามพี-เรียงหิน-ไดโนเสาร์
ส่วนการควบรวมกับพรรครวมชาติพัฒนานั้น นายชาญชัย กล่าวว่า ยังไม่เรียบร้อยดี แต่อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าจะต้องมีพรรคการเมืองที่เป็นทางเลือกที่ 3 ให้กับประชาชนเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ส่วนกระแสข่าวที่จะมีกลุ่มการเมือง อาทิ กลุ่มมัชฌิมาของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน และกลุ่มวังน้ำเย็นของนายเสนาะ เทียนทอง เข้ามาร่วมงานนั้น ยอมรับว่ามีการไปมาหาสู่กันบ้าง โดยทั้งนายสมศักดิ์และนายเสนาะก็ถือเป็นผู้อาวุโสทางการเมืองที่ให้ความเคารพกันอยู่ มีการประสานขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดการร่วมงานทางการเมืองกันบ้าง เพียงแต่ยังไม่สรุปออกมา
**3พีถกผสมพันธุ์“ประชาราช”
รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากหารือกับแกนนำของพรรครวมชาติพัฒนา ยังมีพรรคประชาราชที่ผู้ใหญ่ของพรรคทาบทามไว้ ส่วนความเป็นไปได้ที่ 3 พรรคจะร่วมงานการเมืองกันมีสูง และเมื่อรวมกันแล้วคาดว่าจะได้ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 30 คน
**ปชป. อัด เจ๊สด กลับลำไม่ไขก๊อก
อีกเรื่อง นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง( กกต.)ออกมาระบุว่านายกฯจะยุบสภาเร็วขึ้นเพราะมีปัจจัยเสี่ยงต่างๆบีบ โดยตั้งข้อสังเกตว่า พฤติกรรมทั้งหมดเป็นการเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลหรือไม่ เพราะเสมือนเป็นการปลุกกระแสข่าวเพื่อสร้างปัจจัยเสี่ยงหรือไม่ จึงไม่ทราบว่าใครกดดันใครกันแน่ เพราะคนเป็นใหญ่รับ กกต.โดยเฉพาะในช่วงใกล้เลือกตั้ง ย่อมไม่มีส.ส.หรือรัฐมนตรีหน้าไหนจะโง่ไปกดดัน กกต.ได้
โดยร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ... เสร็จไปแล้ว โดยกมธ.ได้แก้ไขในสาระสำคัญ คือ แก้ไขมาตรา 32 ซึ่งแก้ไขมาตรามาตรา 110 กรณีก่อนวันประกาศผลการเลือกตั้ง ถ้าปรากฏหลักฐาน อันควรเชื่อได้ว่า พรรคการเมืองหรือ เจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง หรือสมาชิกของพรรคการเมือง กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ระเบียบหรือประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งกกต. เห็นว่า การกระทำน่าจะเป็นผลให้การเลือกตั้งไม่สุจรติเที่ยงธรรม กกต.มีอำนาจประกาศให้บัตรเลือกตั้ง ที่ลงคะแนนให้แก่พรรคในการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ เป็นบัตรเสีย เฉพาะในเขตที่มีการกะทำ โดยให้ตัดข้อความ สมาชิกพรรคการเมืองออกไป เนื่องจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเป็นง่าย และอาจจะมีการกลั่นแกล้ง กล่าวหากันได้ง่าย จึงเห็นสมควรให้ตัดออกไป พร้อมทั้งเสนอให้พรรคการเมืองส่งรายชื่อเจ้าหน้าที่พรรคการเมืองให้แก่กกต.ก่อนการเลือกตั้งเพื่อที่จะได้สามารถตรวจสอบหากเกิดการกระทำผิดจะได้ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้
ทั้งนี้จะมีการแก้ไขในมาตรา 13 เกี่ยวกับการรับสมัครแบบบัญชีรายชื่อ โดยเพิ่มเติมข้อความในมาตราที่ 41 ว่าบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องประกอบด้วยผู้สมัครจากภูมิภาคต่างๆ อย่างเป็นธรรมและคำนึงถึงโอกาส สัดส่วนที่เหมาะสมและความเท่าเทียมกันระหว่างหญิงและชาย และมาตรา 23 เกี่ยวกับบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อจะต้องมีช่องทำเครื่องหมาย และหมายเลขของพรรคการเมืองและชื่อพรรคการเมืองพร้อมอาจมีภาพเครื่องหมายพรรคการเมือง ให้แก้ไขว่า กำหนำให้มีภาพเครื่องหมายพรรคการเมืองครบทุกพรรค เพื่ออำนวยความสะดวกให้บุคคลที่อ่านหนังสือไม่ออกแต่สามารถจำสัญลักษณ์ของพรรคได้อย่างชัดเจน
การประชุมกมธ. ต้องรอวันที่ 30 มี.ค. ซึ่งจะครบกำหนดภายใน 7 ที่แปรญัตติ ซึ่งจะดูว่าสมาชิกจะแปรญัตติในเรื่องใดอีกบ้าง ส่วนร่างพ.ร.บ.พรรคการเมือง และร่างกกต. ไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรมาก เป็นเพียงแค่ให้กกต.ไปประกาศเขตเลือกตั้ง และกำหนดค่าใช้จ่ายพรรคการเมือง หลักพิจารณาเสร็จแล้วจะส่งให้ประธานรัฐสภาดำเนินการต่อไป เพื่อบรรจุเข้าระเบียบวาระการพิจารณาวาระ 2 วาระ 3 พิจารณาในสัปดาห์หน้า
**รูปหล่อ “เผาไทย”แถลงปัดพัลวัน
ส่วนกระแสข่าว นายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ถูกวางตัวให้เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีคนต่อไปนั้น
นายปานปรีย์ ออกมาปฏิเสธ ผ่านเว็บไซต์ www.parnpree.com ถึงกรณีดังกล่าวว่า เช้าวันที่ 29 มี.ค. มีชื่อปรากฏเป็นข่าวในสื่อต่างๆ ว่าโผล่เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี และมีคนสอบถามจำนวนมากจนแทบจะอธิบายซ้ำๆ ไม่ไหว จึงต้องขออนุญาตคุยกันผ่านเว็บไซต์ www.parnpree.com แทน
ข้อเท็จจริงคือ เวลานี้ตนไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดๆ จึงไม่สามารถไปเป็นแคนดิเดทตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้อย่างแน่นอน ได้ติดตามการเมืองมาตลอด ผผู้ใหญ่หลายๆ ท่านเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมืองด้วยความเป็นห่วงเท่านั้น ยังไม่มีการตัดสินใจจะเข้าไปทำงานในพรรคการเมืองใดๆ ถึงขั้นลงสมัครรับเลือกตั้ง
นายปานปรีย์ กล่าวยอมรับว่ามีผู้ชักชวนตนให้กลับมาทำงานการเมือง แต่ตนก็อธิบายด้วยเหตุผลหลักๆ ว่า 1.ตนยังไม่เห็นแนวโน้มว่าการเมืองจะดีขึ้นถึงแม้รัฐบาลยุบสภาไปแล้วและมีการเลือกตั้งใหม่ 2. พรรคการเมืองยังคงจับเป็นขั้วเพื่อเตรียมกลับมาเป็นรัฐบาลอย่างเดียว 3.ตนไม่เห็นความชัดเจนของพรรคการเมืองใด ฝ่ายการเมืองใด ที่จะประกาศออกมาชัดเจน และเชื่อถือได้ว่าจะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองอย่างจริงจัง 4.ตนเห็นว่าการยุบสภาและการเลือกตั้งไม่ใช่คำตอบของการปรองดอง และ 5.เรื่องที่ประชาชนทั้งเหลืองและแดงเรียกร้องอยู่ยังคาราคาซัง ไม่มีความตั้งใจจริงที่จะสร้างความเข้าใจ หาวิธีการที่ถูกต้องเพื่อแก้ไขปัญหานี้
**เผยชื่อ5แคนดิเดตนายกฯตามโผ
ทั้งนี้ นอกจากชื่อ นายปานปรีย์ แล้ว ยังมีชื่อของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย , นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน , ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย , น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
**เปิดตัวหัวหน้าก่อนยุบสภา 5 วัน
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันว่า ก่อนยุบสภา 5 วันพรรคจะประกาศชื่อแคนดิเดตชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ส่วนกระแสข่าวว่าเป็น นายปานปรีย์ หรือไม่นั้น
“ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยอมรับขณะนี้พรรคได้ข้อสรุปแล้วว่าเป็นใคร โดยขอให้ประชาชนอดใจรออีกสักพัก” ทั้งนี้ยืนยันว่า สาเหตุที่ไม่เปิดเผยชื่อไม่ได้กลัวว่าจะโดนเตะตัดขา เพราะป้องกันไว้แล้ว แต่เป็นยุทธศาสตร์และเทคนิคของพรรค โดยให้พรรคอื่นประกาศลดแลกแจกแถมกันไปก่อน
เชื่อว่า ท้ายที่สุดพรรคจะเป็นปึกแผ่น เพื่อกลับไปสูโหมดการเลือกตั้ง หลังมีความขัดแย้งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเป็นผู้คัดเลือกแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่นั้น ยอมรับว่า มีความคิดเห็นจากหลายส่วน โดยเฉพาะความรู้สึกของ ส.ส. ภายในพรรค รวมถึงความคาดหวังของประชาชน
**ให้รอดูหินก้อนใหม่ชื่อ“อุ๋ย”
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรเพื่อไทยไม่กล้าจะเปิดเผยชื่อในขณะนี้เพราะกลัวจะถูกตัดขา และป้ายสีให้ช้ำไปเสียก่อน ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะปกปิดผู้นำของตัวเองให้ประชาชนได้รับทราบ ไม่จำเป็นต้องรอจนถึงยุบสภา ถ้าผู้นำพรรคเพื่อไทยเป็นคนดีจริง ไม่มีแผลให้ใครขุดคุ้ยได้ ก็ไม่ต้องกลัว หากเป็นทองแท้ก็ไม่ต้องกลัวไฟ แต่เกรงว่ายังไม่สามารถตกลงได้ภายในกลุ่มต่างๆ ได้
“เชื่อว่านายปานปรีย์คงจะไม่เป็นเหยื่อให้กับพรรคเพื่อไทยอีกหลังถูกหลอกและให้ความหวังมานาน เป็นการโยนหินถามทาง และปล่อยข่าวชื่อคนต่างๆ ตั้งแต่พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมีย์เวศ พล.ต.ม.จ.จุลเจิม ยุคล ซึ่งสุดท้ายก็ถูก”
ทั้งนี้ยังเชื่อว่า จะมีการโยนหินถามทางอีกคือ ม.ร.ว.ปรีดียาธร เทวกุล ที่มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองสอดคล้องกับแนวทางของพรรคเพื่อไทย
**เทือกรับ “ยาก”ผสมพันธุ์เผาไทย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นถึงท่าทีของนายกรัฐมนตรีต่อพรรคเพื่อไทยที่ไม่อยากร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ ว่า อย่าไปสังเกตุอะไรจนละเอียดลึกซึ้ง ไม่มีอะไรที่เป็นประเด็น เพราะการเลือกตั้งคราวนี้ก็แข่งกันสองพรรคคือเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ ส่วนหลังจากการเลือกตั้งแล้วจะทำอย่างไรก็มาดูผลการเลือกตั้งกันก่อน
ส่วนแนวทางการทำงานของ 2 พรรคไปด้วยกันได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า “ยาก” เพราะมีความแตกต่างกันทั้งอุดมการณ์ แนวความคิด และเรื่องตัวบุคคล
**ดัด “ลูกติดเมีย” สมัครส.ส.ทวีวัฒนา
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดตัวทายาททางการเมืองทั้งของนายสุเทพและนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ จะมีความชัดเจนเมื่อใด นายสุเทพ กล่าวว่า ที่จริงไม่ใช่ทายาททางการเมือง พรรคประชาธิปัตย์พยายามเอาคนรุ่นใหม่ขึ้นมาทดแทน ตั้งแต่อายุ 25-30 ปีที่มีแววมีใจรักจะทำงานการเมืองก็เอาเข้ามาทำงานการเมืองเพื่อสืบทอด จะได้ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งพื้นที่จังหวัดต่างๆ โดยได้คัดเลือกประมาณ 600 กว่าคน เช่น นายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ (บุตรชายภรรยานายสุเทพ) ก็อยู่ในบัญชีที่พรรคเตรียมเอาไว้
“เขาเรียนจบมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด แบบท่านนายกฯ เหมือนกัน และเกียรตินิยมด้วย ถือว่าเก่ง ทำงานดีเพื่อนฝูงชอบ ส่วนจะลงเขตทวีวัฒนา จะไหวหรือไม่ เขาจะลงเขตไหนกกต.ยังแบ่งเขตไม่เสร็จเลย แต่คนที่จะสมัครเขาก็เคลื่อนไหวไปตามปกติ ไปลงพื้นที่ไว้ก่อน เล็ง ๆ อยู่ก่อนแล้ว”นายสุเทพกล่าว
**คนเก่าคนกลางปชป.ปลดระวาง
ขณะที่คนรุ่นเก่าหรือรุ่นกลางๆของพรรค บางคนก็ปลด คล้ายหมดอายุการใช้งาน ก็ต้องเอาคนใหม่ขึ้นมาใช้งาน มีการเปลี่ยนแปลงหลายแห่ง แต่ไม่มีปัญหาเรื่องการจัดวางตัวผู้สมัคร ที่อาจต้องเปลี่ยนจากส.ส.เขตไปขึ้นบัญชีรายชื่อ เพราะเรามีวัฒนธรรมองค์กร และระบบวิธีการคัดกรอง
**ฝันพรรคทางเลือกที่ 3 ต้องเกิด
ที่พรรคเพื่อแผ่นดิน ถ.สุโขทัย มีการประชุมพรรคประจำสัปดาห์ นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง หัวหน้าพรรค เปิดเผยว่า ได้หารือความพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้ง โดยได้กำหนดให้ว่าที่ผู้สมัครลงพื้นที่เริ่มดำเนินกิจกรรมตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นต้นไป ทั้งนี้ยังตั้งข้อสังเกตการแบ่งเขตเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่ามีความผิดปกติ เนื่องจากบางจังหวัดที่ไม่มีการปรับลดเขตเลือกตั้ง กลับมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ในเขตเลือกตั้ง จึงมองได้ว่าอาจมีความพยายามให้เกิดการเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มการเมืองหรือพรรคการเมืองบางพรรค โดยเรื่องนี้ว่าที่ผู้สมัครที่ได้รับผลกระทบจะทำหนังสือเพื่อสอบถามถึงเหตุผลต่อ กกต.ต่อไป
ทั้งนี้ยังประเมินว่า ยังจำเป็นต้องมีพรรคการเมืองที่เป็นทางเลือกที่ 3 ซึ่งไม่ใช่คู่ขัดแย้งเกิดขึ้นเพื่อขันอาสาทำหน้าที่เพื่อให้บ้านเมืองสามารถไปต่อได้
**ผสมสามพี-เรียงหิน-ไดโนเสาร์
ส่วนการควบรวมกับพรรครวมชาติพัฒนานั้น นายชาญชัย กล่าวว่า ยังไม่เรียบร้อยดี แต่อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าจะต้องมีพรรคการเมืองที่เป็นทางเลือกที่ 3 ให้กับประชาชนเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ส่วนกระแสข่าวที่จะมีกลุ่มการเมือง อาทิ กลุ่มมัชฌิมาของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน และกลุ่มวังน้ำเย็นของนายเสนาะ เทียนทอง เข้ามาร่วมงานนั้น ยอมรับว่ามีการไปมาหาสู่กันบ้าง โดยทั้งนายสมศักดิ์และนายเสนาะก็ถือเป็นผู้อาวุโสทางการเมืองที่ให้ความเคารพกันอยู่ มีการประสานขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดการร่วมงานทางการเมืองกันบ้าง เพียงแต่ยังไม่สรุปออกมา
**3พีถกผสมพันธุ์“ประชาราช”
รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากหารือกับแกนนำของพรรครวมชาติพัฒนา ยังมีพรรคประชาราชที่ผู้ใหญ่ของพรรคทาบทามไว้ ส่วนความเป็นไปได้ที่ 3 พรรคจะร่วมงานการเมืองกันมีสูง และเมื่อรวมกันแล้วคาดว่าจะได้ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 30 คน
**ปชป. อัด เจ๊สด กลับลำไม่ไขก๊อก
อีกเรื่อง นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง( กกต.)ออกมาระบุว่านายกฯจะยุบสภาเร็วขึ้นเพราะมีปัจจัยเสี่ยงต่างๆบีบ โดยตั้งข้อสังเกตว่า พฤติกรรมทั้งหมดเป็นการเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลหรือไม่ เพราะเสมือนเป็นการปลุกกระแสข่าวเพื่อสร้างปัจจัยเสี่ยงหรือไม่ จึงไม่ทราบว่าใครกดดันใครกันแน่ เพราะคนเป็นใหญ่รับ กกต.โดยเฉพาะในช่วงใกล้เลือกตั้ง ย่อมไม่มีส.ส.หรือรัฐมนตรีหน้าไหนจะโง่ไปกดดัน กกต.ได้
