“เทพไท” เย้ยโฆษกไข่แม้ว อย่าทำตัวเป็นอีแอบหลังเสา ปกปิดเสนอชื่อนายกฯ 5 คน เกรงสันหลังหวะกลัวถูกเปิดแผล แขวะอย่าใช้หมอดูมาทำนาย ทายทักเพ้อฝันรัฐบาล จะรีบประกาศเลื่อนยุบสภาเร็วขึ้น แหย่ไม่ใช่นายทักษิณงมงายหลงเชื่อหมอผีอีที
วันนี้ (29 มี.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาให้สัมภาษณ์ว่ามีผู้เหมาะสมกับการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึง 5 คน แต่ไม่กล้าจะเปิดเผยชื่อในขณะนี้ เพราะกลัวจะถูกตัดขาและป้ายสีให้ช้ำไปเสียก่อนว่า พรรคเพื่อไทยไม่ควรที่จะปกปิดผู้นำของตัวเองให้ประชาชนได้รับทราบ ถ้าหากว่ามีผู้เหมาะสมจริงก็ไม่จำเป็นต้องรอจนถึงยุบสภา เพราะการเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นไม่ใช่การเล่นซ่อนหาหรือทำตัวเป็นอีแอบอยู่หลังเสา ควรจะเปิดเผยให้ประชาชนตรวจสอบ การใส่ร้ายป้ายสีเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ถ้าผู้นำพรรคเพื่อไทยเป็นคนดีจริง ไม่มีแผลให้ใครขุดคุ้ยได้ ก็ไม่ต้องกลัว หากเป็นทองแท้ก็ไม่ต้องกลัวไฟ แต่เกรงว่าที่ไม่กล้าเปิดตัวในขณะนี้เพราะยังไม่สามารถตกลงได้ภายในกลุ่มต่างๆ หรือบุคคลที่เปิดเผยตัวออกมาแล้วอาจไม่เป็นที่ยอมรับของสมาชิกภายในพรรค และจะใช้เงื่อนไขการย้ายพรรค จึงจำเป็นต้องเปิดตัวใกล้เลือกตั้งเพื่อเป็นการมัดมือชกสมาชิกภายในพรรคไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อมหรือการไหลออก
นายเทพไทกล่าวอีกว่า สิ่งที่บ่งบอกความไม่พร้อม ความไม่ลงตัว ในการสรรหาตัวเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น ดูจากการปล่อยข่าวว่ามีชื่อของนายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นตัวเลือก และในที่สุดก็ถูกปฏิเสธจากเจ้าตัวว่าไม่ได้เป็นแคนดิเดตนายกฯ นั้น เชื่อว่านายปานปรีย์คงจะไม่เป็นเหยื่อ ให้กับพรรคเพื่อไทยอีกหลังถูกหลอกและให้ความหวังมานาน พรรคเพื่อไทยมักจะใช้การเคลื่อนไหวทางการเมืองในลักษณะการโยนหินถามทาง และปล่อยข่าวชื่อคนต่างๆ ออกมานับตั้งแต่ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. พล.ต.ม.จ.จุลเจิม ยุคล ซึ่งสุดท้ายก็ปฏิเสธออกมาทำให้ทั้งหมดหน้าแตกจนหมอไม่รับเย็บมาแล้ว ชื่อทั้งหมดเป็นแค่การฟอกตัวเรื่องความไม่จงรักภักดี ใช้นอมินีคนเดิมคือนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ มาเป็นหัวหน้าพรรคต่อไป
นายเทพไทกล่าวว่า เชื่อว่าอีกไม่กี่วันก็จะมีการปล่อยข่าวแคนดิเดทหัวหน้าพรรคเพื่อไทยในลักษณะ โยนหินถามทางอีกคือ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ที่มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองสอดคล้องกับแนวทางของพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าการเสนอแนวความคิดเรื่องสูตร 4 สูตรในการจัดตั้งรัฐบาล โดยมุ่งเน้นและให้เครดิตกับพรรคเพื่อไทยว่า ถ้าเป็นรัฐบาลก็จะทำให้มีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว รวมถึงความพยายามในการบอกว่า อายุ 64 ปียังหนุ่มอยู่ สามารถเป็นรัฐมนตรีได้สบายนั้น ต้องดูว่าจะมีการโยนหินถามทางครบ 5 คนตามที่เป็นกระแสข่าวหรือไม่
นายเทพไทยังกล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ระบุด้วยว่า จะมีการเลื่อนวันยุบสภาเร็วขึ้นกว่าเดิมเป็นวันที่ 27 เมษายนหลังจากไปดูดวงมาแล้วว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เป็นคนงมงายในเรื่องไสยศาสตร์ และที่ผ่านมาก็ได้ทำงานบริหารราชการแผ่นดินอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง การยุบสภาจะเร็วหรือช้าไม่ได้อยู่ที่ดวง แต่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทางการเมืองและความพร้อมของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถ้าจะคิดว่านายอภิสิทธิ์เป็นคนที่เชื่อในไสยศาสตร์นั้น สิ่งที่เพ้อฝันและนั่งเทียน น่าจะเป็นเจ้านายตัวเองที่หลงใหลในโหราศาสตร์ขนาดต้องลงทุนไปดูหมอดูอีทีที่ประเทศพม่ามากกว่า ทำงานทุกอย่างก็จะใช้หลักโหรศาสตร์เป็นเครื่องนำทางตลอดเวลา ยืนยันว่าจนถึงขณะนี้นายอภิสิทธิ์ยังยืนยันเงื่อนไขเดิมคือ ยุบสภาในสัปดาห์แรกของพฤษภาคม