xs
xsm
sm
md
lg

ช่วยด้วย ผีห่ามันเข้าสิงกองทัพ

เผยแพร่:   โดย: ปราโมทย์ นาครทรรพ

“Under every government the (last) resort of the people, is an appeal to the sword; whether to defend themselves against the open attacks of a foreign enemy, or to check the insidious encroachments of domestic foes. Whenever a people ... entrust the defence of their country to a regular, standing army, composed of mercenaries, the power of that country will remain under the direction of the most wealthy citizens.”

ไม่ว่าจะอยู่ใต้รัฐบาลใด กองทัพ (ผู้ถืออาวุธ) เป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน ในการป้องกันตนเองจากการโจมตีของข้าศึกภายนอก หรือการกดขี่จากภายใน แต่ถ้าเมื่อใด กองทัพแห่งชาติของทหารอาชีพประจำการที่ประชาชนวางใจมอบหมายให้ป้องกันประเทศ มีแต่ทหารรับจ้าง อำนาจของประเทศก็จะตกอยู่ภายใต้การควบคุมของนายทุนเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุด

(A Framer, quotes about Military: หนึ่งในผู้ร่างรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา ปีค.ศ. 1787)

ท่านผู้อ่านที่เคารพ ผมยังไม่สามารถออกจากเรื่องทหารผีในกองทัพ และเรื่อง เย็นจนเกินไปเราจะพากันไปตายของพระเจ้าอยู่หัวได้เลย

มีผู้อ่านโทร.มาบ้างเขียนมาบ้างให้กำลังใจผมให้เขียนต่อไป อย่างน้อยก็เอาquotations ดีๆ ของฝรั่งมาเล่าสู่กันฟัง พร้อมกับหาตัวอย่างไทยมาเปรียบเทียบดูว่ามันเหมือนหรือขัดกันอย่างไร

สมัยนี้การค้นหา quotations ฝรั่งหรือแม้แต่ไทยเป็นเรื่องง่ายมาก เพียงแต่เปิดwww.google.com ดู ก็จะพบว่าแยกกันเป็นหมวดหมู่ให้เลือกอย่างสะดวก หากจะสั่งให้กูเกิลแปลเป็นภาษาไทยให้ด้วยก็ยังได้เสียอีก เสียแต่ว่าภาษาแปลของกูเกิลมันยอดตลก แสดงว่าเครื่องจักรมันสู้หัวสมองมนุษย์ไม่ได้ การเอาคำไปเทียบกันเป็นคำต่อคำบางทีก็ทั้งตลกทั้งขำขัน อ่านไม่รู้เรื่อง ถ้าเป็นศัพท์เฉพาะเดี่ยวๆ แต่ละคำก็ใช้ได้ ท่านผู้อ่านที่ใช้อินเทอร์เน็ตจะลองสั่งกูเกิลให้แปล quotations ที่ท่านชอบดูบ้างก็ได้

สำหรับคำว่า mercenaries ที่ผมแปลว่าทหารรับจ้างนั้น ความหมายดั้งเดิมได้แก่บุคคลสัญชาติและเชื้อชาติอื่นที่เข้ามารบร่วมกับกองทัพแห่งชาติในภาวะสงครามหรือสู้รบกับกองทัพแห่งชาติที่เป็นฝ่ายตรงกันข้าม โดยมุ่งหวังรายได้และรางวัลซึ่งสูงกว่าทหารอาชีพในกองทัพ สงครามในยุโรปและอเมริกาใต้จะมีทหารรับจ้างเป็นจำนวนมาก

เมืองไทยในอดีตเคยจ้างแขก ญี่ปุน และเวียดนามมาเป็นทหารรักษาความปลอดภัยไม่น้อยเหมือนกัน แต่ลุมาถึงวันนี้ ทหารไทยที่รับจ้างจากนายทุนให้ไปคุ้มครอง ให้ไปรื้อศูนย์การค้า ให้ไปตามทวงหนี้ หรือแม้แต่ประทุษร้ายฝ่ายตรงกันข้ามก็มีอยู่บ่อยๆ ผมเคยอ่านบทความของพลอากาศเอกเทอดศักดิ์ สัจจารักษ์ ที่เรียกทหารประเภทนี้ว่า “ผ้าขี้ริ้ว” ของกองทัพ

แต่ความหมายของ mercenaries ใน quotations ข้างบนนี้ หากจะสังเคราะห์เข้ากับเมืองไทย ผมเห็นว่า น่าจะได้แก่ทหารอาชีพที่ถวายสัตย์ปฏิญาณเสียเปล่า แต่เฉยเชือนไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามคำปฏิญาณ หรือพวกนายพันนายพลที่วิ่งตามตูดรับใช้พวกเจ้าสัว หรือแม้กระทั่งแม่ทัพนายกองที่ปล่อยให้นักการเมืองหนีบเข้ารักแร้ไปไหนมาไหนเป็นประจำ เป็นทหารที่สิโรราบกับอามิสสินจ้างหรือรายได้พิเศษ หรือวิ่งเต้นแสวงหายศลาภตำแหน่งนอกเหนือจากครรลองหรือสายบังคับบัญชาของกองทัพ ทหารรับจ้างชั้นพิเศษอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยในแต่ละกองทัพ ได้แก่พวกที่ทหารด้วยกันเรียกว่า ทหารการเมือง รวมทั้งทหารที่ไม่มีความเห็นเมื่อถูกถามเรื่องมีคนจาบจ้วงจอมทัพ นั่นเอง

ผมได้ยินพี่น้องที่เป็นทหารปรารภว่า ยุคนี้เป็นยุคที่กองทัพตกต่ำที่สุด ถึงขนาดฮุนเซนกล้าประจานด้วยความโอหังบ่อยๆ แถมคุยเสียอีกว่าทหารเขมรหมื่นเดียวก็สามารถปราบทหารไทยได้ถึงห้าหมื่น การปะทะกันที่ชายแดนเขาพระวิหารครั้งที่ผ่านมา ก็นับเป็นครั้งแรกในประวัติชาติไทย ที่คนไทยจำนวนหมื่นๆ คนต้องบ้านแตกสาแหรกขาด พากันหนีทหารเขมรกระเซอะกระเซิงกลายเป็นผู้อพยพในบ้านเมืองของตัวเอง จนเป็นเหตุให้มีผู้สันนิษฐานว่า มิใช่ทหารไทยรบไม่เป็นหรอก แต่ทหารไทยถูก MOU มัดมือ และถูกผู้บังคับบัญชาคอยกระตุกแขนขาไม่ให้รบเต็มที่ เครื่องบินก็ถูกสยบไว้มิให้ขึ้น ทั้งนี้ เพราะผู้บังคับบัญชาตั้งแต่สูงสุดลงไปบังเอิญเป็น “ทหารรับจ้าง” ของฮุนเซน จริงเท็จก็อยู่ที่ผู้เล่า แต่ก็น่าจะสอบสาวราวเรื่องให้ได้ความจริงว่าทำไมกองทัพไทยจึงเป็นได้ถึงเพียงนี้

จนกระทั่งพลอากาศเอกอรุณ พร้อมเทพ อดีตเสนาธิการทหารอากาศ และรองผบ.ส.ส.ตั้งคำถามที่เจ็บปวดว่า

“ผมมีข้อสงสัยว่า ในอดีตเมื่อร้อยกว่าปีมานี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระองค์ท่านทรงต้องตัดสินพระทัย ยอมเสียสละอวัยวะ เพื่อรักษาชีวิต เพราะเราไม่มีแสนยานุภาพที่จะต่อสู้กับฝรั่งเศสได้ ต้องยอมเสียดินแดนไปหลายครั้ง เป็นพื้นที่มหาศาล” บัดนี้เวลาล่วงเลยมาแล้วร้อยกว่าปี ประเทศไทยได้พัฒนามาจนมีศักยภาพในกำลังอำนาจแห่งชาติทุกด้าน เหนือกว่ากัมพูชาอย่างเปรียบเทียบกันไม่ได้

        แต่ทำไม??? “เราจึงกลายมาเป็นลูกไล่ของกัมพูชาในทุกเวที ทั้งการเมืองระหว่างประเทศที่ UN ที่คณะกรรมการมรดกโลกของ UNESCO และที่ Asean แม้กระทั่งด้านการทหาร เราก็ยอมถอนทหารออกจากดินแดนของเราเอง” ใครรู้บ้าง ช่วยตอบผมที”

ผมคิดว่าหาคำตอบได้จากพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัวว่าเพราะ “ผีร้าย มันเข้ามาในสมองของคนแต่ละคน ทั้งทหารทั้งคนอื่นๆ ได้

ยุคนี้ที่เป็นผี ผีที่เป็นพิษนี้เข้ามาโดยอาศัยจิตใจของทุกคน จิตใจนี้อาจชอบฟังคำเยินยอก็ตาม จิตใจนี้อาจชอบยืนสบายก็ตาม ก็อาจเป็นช่องดังกล่าวที่เห็นยากและอันตรายที่สุด”

หรือว่าแม่ทัพนายกองตั้งแต่รัฐมนตรีว่าการฯ ลงไปถึงผู้บัญชาการเหล่าทัพ “อาจชอบแต่ความเยินยอหรือชอบยืนสบาย” เพราะเดี๋ยวนี้สบายแล้ว มีอะไรจะสู้อยู่เฉยๆ แล้วอ้างความเป็นกลางไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ถึงแม้จะมีนักการเมืองกลุ่มใหญ่ที่หมายมั่นปั้นมือจะทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ก็ตาม

ช่วยด้วย ผีเข้าสิงกองทัพจวนจะกลายเป็นทหารรับจ้างไปหมดแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น