ASTVผู้จัดการรายวัน -“ศุภชัย” โชว์ผลผลิตพืชพลังงานทดแทน ปี 2554 อยู่ในเกณฑ์ดี เดินหน้าจัดทำโซนนิ่งเพื่อรองรับความต้องการในอนาคต
นายศุภชัย โพธิ์สุ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานคณะอนุกรรมการส่งเสริมการผลิตพืชพลังงานทดแทน ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้รายงานถึงแนวโน้มการผลิตพืชพลังงานทดแทน ปี 2554 ของพืชทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ อ้อย มันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมัน อยู่ในเกณฑ์เหมาะสมกับสถานการณ์การผลิต โดยราคามีการปรับตัวสูงขึ้น สินค้าอ้อย ปีการผลิต 2553/54 คาดว่า จะมีเนื้อที่เพาะปลูกประมาณ 6.58 ล้านไร่ เพิ่มขึ้นจากปีการผลิต 2552/53 ที่มีเนื้อที่ปลูก 6.31 ล้านไร่ เนื่องจากราคาอ้อยโรงงานขั้นต้นในปีการผลิต 2552/53 อยู่ในเกณฑ์ดีและจูงใจให้มีการขยายเนื้อที่ปลูก โดยเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังบางส่วนหันมาปลูกอ้อยเพื่อแก้ปัญหาเพลี้ยแป้ง สำหรับผลผลิตต่อไร่ คาดว่า จะลดลงจาก 10.91 ตัน ในปีการผลิต 2552/53 เป็น 10.43 ตัน ในปีการผลิต 2553/54 เนื่องจากภาวะภัยแล้งช่วงต้นปี โดยผลผลิตรวมทั้งประเทศจะผลิตได้ 68.69 ล้านตัน สำหรับมันสำปะหลัง แนวโน้มการผลิตปี 2554 มีเนื้อที่เก็บเกี่ยว 6.86 ล้านไร่ ผลผลิต 20.66 ล้านตัน และผลผลิตต่อไร่ 3.010 ต้น เมื่อเทียบ ปี2553 มีเนื้อที่เก็บเกี่ยว ผลผลิต และผลผลิตต่อไร่ลดลงคิดเป็น ร้อยละ 6.02 ร้อยละ 6.12 และ ร้อยละ 0.10 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม เริ่มพบเพลี้ยแป้งกระจายทั่วไป ในแหล่งผลิตประกอบกับราคามันสำปะหลังอยู่ในเกณฑ์สูง ทำให้เกษตรกรเร่งขุดหัวมันก่อนอายุเก็บเกี่ยว อาจทำให้ผลผลิตต่อไร่มันสำปะหลังและผลิตรวมลดลง
สำหรับปาล์มน้ำมัน คาดว่า จะมีเนื้อที่ยืนต้น ประมาณ 4.28 ล้านไร่ เป็นเนื้อที่ให้ผลประมาณ 3.69 ล้านไร่ ผลผลิต 9.17 ล้านตัน ผลผลิตต่อไร่ 2,444 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากปี 2553 คิดเป็นร้อยละ 4.90, 3.94,11.56 และ 5.57 ตามลำดับ เนื่องจากการขยายตัวของพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน ประกอบกับราคาผลปาล์มน้ำมันที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้เกษตรกรมีการดูแลรักษาปาล์มน้ำมันดีขึ้น อย่างไรก็ดี ราคาปาล์มน้ำมัน ในในช่วงต้นเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ จะอยู่ในระดับสูง เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย และราคาจะปรับตัวลดลงในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก จึงคาดว่าราคาเฉลี่ยทั้งปีอยู่ในระดับกิโลกรัมละ 4.50-5.00 บาท และ 30-32 บาทตามลำดับ
นอกจากนี้ กรมพัฒนาที่ดินได้รายงานถึงผลการศึกษาศักยภาพของพื้นที่ในการปลูกพืชพลังงานทดแทน โดยได้กำหนดเขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจมันสำปะหลัง พื้นที่เพาะปลูกปี 2551/2552 มีเนื้อที่ 9.8 ล้านไร่ ผลผลิต 30.09 ล้านตัน ขณะที่เป้าหมายตามยุทธศาสตร์ ปี 2554-2557 มีเนื้อที่เป้าหมาย 7.5 ล้านไร่ ผลผลิต 37 ล้านตัน ส่วนอ้อยโรงงาน มีพื้นที่เพาะปลูกปี 2551/2552 จำนวน 9.05 ล้านไร่ ผลผลิต 66.46 ล้านตัน ขณะที่เป้าหมายปี 2551-2554 มีเนื้อที่ 6.2 ล้านไร่ ผลผลิต 95 ล้านตัน สำหรับปาล์มน้ำมันมีเนื้อที่เพาะปลูก ปี 2551 จำนวน 4 ล้านไร่ ผลผลิต 9.26 ล้านตัน ขณะที่เป้าหมายตามยุทธศาสตร์ ปี 2551-2555 มีเนื้อที่ 5.5 ล้านไร่ ผลผลิต 19.25 ล้านตัน
นายศุภชัย โพธิ์สุ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานคณะอนุกรรมการส่งเสริมการผลิตพืชพลังงานทดแทน ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้รายงานถึงแนวโน้มการผลิตพืชพลังงานทดแทน ปี 2554 ของพืชทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ อ้อย มันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมัน อยู่ในเกณฑ์เหมาะสมกับสถานการณ์การผลิต โดยราคามีการปรับตัวสูงขึ้น สินค้าอ้อย ปีการผลิต 2553/54 คาดว่า จะมีเนื้อที่เพาะปลูกประมาณ 6.58 ล้านไร่ เพิ่มขึ้นจากปีการผลิต 2552/53 ที่มีเนื้อที่ปลูก 6.31 ล้านไร่ เนื่องจากราคาอ้อยโรงงานขั้นต้นในปีการผลิต 2552/53 อยู่ในเกณฑ์ดีและจูงใจให้มีการขยายเนื้อที่ปลูก โดยเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังบางส่วนหันมาปลูกอ้อยเพื่อแก้ปัญหาเพลี้ยแป้ง สำหรับผลผลิตต่อไร่ คาดว่า จะลดลงจาก 10.91 ตัน ในปีการผลิต 2552/53 เป็น 10.43 ตัน ในปีการผลิต 2553/54 เนื่องจากภาวะภัยแล้งช่วงต้นปี โดยผลผลิตรวมทั้งประเทศจะผลิตได้ 68.69 ล้านตัน สำหรับมันสำปะหลัง แนวโน้มการผลิตปี 2554 มีเนื้อที่เก็บเกี่ยว 6.86 ล้านไร่ ผลผลิต 20.66 ล้านตัน และผลผลิตต่อไร่ 3.010 ต้น เมื่อเทียบ ปี2553 มีเนื้อที่เก็บเกี่ยว ผลผลิต และผลผลิตต่อไร่ลดลงคิดเป็น ร้อยละ 6.02 ร้อยละ 6.12 และ ร้อยละ 0.10 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม เริ่มพบเพลี้ยแป้งกระจายทั่วไป ในแหล่งผลิตประกอบกับราคามันสำปะหลังอยู่ในเกณฑ์สูง ทำให้เกษตรกรเร่งขุดหัวมันก่อนอายุเก็บเกี่ยว อาจทำให้ผลผลิตต่อไร่มันสำปะหลังและผลิตรวมลดลง
สำหรับปาล์มน้ำมัน คาดว่า จะมีเนื้อที่ยืนต้น ประมาณ 4.28 ล้านไร่ เป็นเนื้อที่ให้ผลประมาณ 3.69 ล้านไร่ ผลผลิต 9.17 ล้านตัน ผลผลิตต่อไร่ 2,444 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากปี 2553 คิดเป็นร้อยละ 4.90, 3.94,11.56 และ 5.57 ตามลำดับ เนื่องจากการขยายตัวของพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน ประกอบกับราคาผลปาล์มน้ำมันที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้เกษตรกรมีการดูแลรักษาปาล์มน้ำมันดีขึ้น อย่างไรก็ดี ราคาปาล์มน้ำมัน ในในช่วงต้นเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ จะอยู่ในระดับสูง เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย และราคาจะปรับตัวลดลงในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก จึงคาดว่าราคาเฉลี่ยทั้งปีอยู่ในระดับกิโลกรัมละ 4.50-5.00 บาท และ 30-32 บาทตามลำดับ
นอกจากนี้ กรมพัฒนาที่ดินได้รายงานถึงผลการศึกษาศักยภาพของพื้นที่ในการปลูกพืชพลังงานทดแทน โดยได้กำหนดเขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจมันสำปะหลัง พื้นที่เพาะปลูกปี 2551/2552 มีเนื้อที่ 9.8 ล้านไร่ ผลผลิต 30.09 ล้านตัน ขณะที่เป้าหมายตามยุทธศาสตร์ ปี 2554-2557 มีเนื้อที่เป้าหมาย 7.5 ล้านไร่ ผลผลิต 37 ล้านตัน ส่วนอ้อยโรงงาน มีพื้นที่เพาะปลูกปี 2551/2552 จำนวน 9.05 ล้านไร่ ผลผลิต 66.46 ล้านตัน ขณะที่เป้าหมายปี 2551-2554 มีเนื้อที่ 6.2 ล้านไร่ ผลผลิต 95 ล้านตัน สำหรับปาล์มน้ำมันมีเนื้อที่เพาะปลูก ปี 2551 จำนวน 4 ล้านไร่ ผลผลิต 9.26 ล้านตัน ขณะที่เป้าหมายตามยุทธศาสตร์ ปี 2551-2555 มีเนื้อที่ 5.5 ล้านไร่ ผลผลิต 19.25 ล้านตัน