บิ๊ก "PTTGE" โต้ฝ่ายค้านหลังเจอกระทู้สดพาดพิงลงทุนปาล์มน้ำมันที่อินโดฯ ไม่โปร่งใส ด้านผู้บริหารยันทำทุกขั้นตอนตามแผน "กระทรวงพลังงาน" ฟุ้ง ปตท.มีรายได้จากธุรกิจดังกล่าวจำนวนมาก ส่วนสาเหตุที่เลือกจดทะเบียน "สิงคโปร์" เพราะเป็นศูนย์กลางการเงินและธุรกิจค้าน้ำมัน
วันนี้ (11 มี.ค.) นายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (PTTGE) กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านตั้งกระทู้สดในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีการพาดพิงถึงการลงทุนของ ปตท. ในธุรกิจปาล์มน้ำมันในประเทศอินโดนีเซียว่าไม่โปร่งใส ซึ่งกรณีได้มีการชี้แจงว่า บริษัท PTTGE ได้ถูกจัดตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2550 มีวัตถุประสงค์หลักสำหรับลงทุนในธุรกิจปาล์มน้ำมัน เพื่อเป็นแหล่งพลังงานทดแทนให้ประเทศ ตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนของกระทรวงพลังงาน โดยเข้าลงทุนพัฒนาสวนปาล์มในประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากมีความเหมาะสมทางสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และต้นทุนการผลิตที่ต่ำ นอกจากนี้พื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับเพาะปลูกปาล์มในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านก็มีจำกัด ต่างจากประเทศอินโดนีเซียที่ยังมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการลงทุนปลูกปาล์มใน ระยะยาวของบริษัทฯ สาเหตุที่เลือกจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ เนื่องจากสิงคโปร์เป็นศูนย์กลางทางการเงินและการค้าเกี่ยวกับธุรกิจน้ำมัน ปาล์มเช่นเดียวกับบริษัทปาล์มน้ำมันชั้นนำต่างๆ ทั่วโลก
นายนิพิฐ กล่าวต่อว่า จากประเด็นที่มีการนำตัวเลขทุนจดทะเบียนของบริษัทที่ สิงคโปร์ ที่ PTTGE เข้าไปซื้อ มาเปรียบเทียบกับราคาที่ PTTGE ตกลงซื้อนั้น โดยข้อเท็จจริง บริษัทต่างๆ ดังกล่าวมีสวนปาล์มที่ตั้งอยู่ในประเทศอินโดนีเซียเป็นสินทรัพย์หลัก ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าทุนจดทะเบียนของบริษัทมาก ทั้งนี้ เมื่อ PTTGE ได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัทชั้นสิงคโปร์แล้ว ก็จะส่งผลให้ PTTGE เป็นเจ้าของสวนปาล์มและทรัพย์สินอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในประเทศอินโดนีเซียทางอ้อม จากรายงานการประเมินราคาโดยบริษัทประเมินสินทรัพย์ชั้นนำของโลก พบว่าสินทรัพย์ของบริษัทในประเทศอินโดนีเซียมีราคาที่สอดคล้องกับราคาเข้าซื้อจริงของบริษัท โครงการที่บริษัท PTTGE เข้าลงทุนในธุรกิจสวนปาล์มนั้นมีที่ปรึกษาด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และมีขั้นตอนการศึกษาอย่างละเอียดก่อนการพิจารณาเข้าลงทุน
ดังนั้น PTTGE ขอยืนยันว่า ไม่ได้ซื้อของแพงอย่างที่กล่าวอ้าง เนื่องจากราคาที่ PTTGE เข้าซื้อนั้นมีราคาต่ำกว่าราคาตลาดในช่วงนั้น อย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งเนื่องด้วยการบริโภคน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นในอัตราสูง เพราะสามารถนำไปใช้ได้หลายรูปแบบ ทำให้ธุรกิจปลูกปาล์มน้ำมันได้รับผลตอบแทนดีมาก เป็นผลให้ราคาสวนปาล์มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ทรัพย์สินที่ PTTGE ลงทุนไปมีมูลค่าสูง ขึ้นอย่างมาก
นายนิพิฐ กล่าวยืนยันว่า การใช้เงินลงทุนของ ปตท ผ่าน PTTGE เพื่อลงทุนในธุรกิจปาล์มน้ำมัน มีการดำเนินการไปอย่างโปร่งใส และสอดคล้องกับหลักเกณฑ์การลงทุนของกลุ่ม ปตท และสามารถตรวจสอบได้ อีกทั้งการลงทุนโครงการปลูกปาล์มของ PTTGE ก็ได้สร้างมูลค่าและผลตอบแทนให้กับ ปตท เป็นจำนวนมาก