xs
xsm
sm
md
lg

จับตาชนวนวิกฤติน้ำมันปาล์มรอบสอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลนที่สั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาลมานานนับเดือน พึ่งจะเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ซึ่งมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นประธาน ใช้วิธีฟันธงแก้ปัญหาแบบเด็ดขาด ด้วยการอนุมัติให้นำเข้าน้ำมันปาล์มแบบเร่งด่วน 30,000 ตัน จากที่บอร์ดอนุมัติไป 120,000 ตัน แต่กระทรวงพาณิชย์กลับนำเข้าไม่ได้แม้แต่ลิตรเดียว ทำให้ปัญหาขาดแคลนน้ำมันปาล์มลามไปทั่วประเทศ และได้มีการเจรจากับผู้แทนโรงกลั่นที่ชะลอการผลิตมานาน เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์ได้ควบคุมราคาน้ำมันปาล์มไว้ที่ 47 บาทต่อลิตร ไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ผู้ผลิตขาดทุนไม่น้อยกว่าขวดละ 5 บาท ทำให้ไม่มีการผลิตน้ำมันปาล์มขวดออกมา จึงมีการตกลงกับโรงกลั่นด้วยการที่รัฐจะเข้าไปชดเชยราคาให้ จำนวน 9 บาทต่อลิตร

สำหรับน้ำมันปาล์มที่ซื้อในประเทศ โดยให้กระทรวงพลังงานปรับสูตรไบโอดีเซลลงมาเหลือแค่ B2 และชดเชยให้ลิตรละ 5 บาทสำหรับน้ำมันปาล์มที่นำเข้ามาจากต่างประเทศจำนวน 30,000 ตัน แต่หลังจากที่สั่งให้ DSI ไปควบคุมการประมูลซื้อ ทำให้ราคาที่ประมูลได้ลดลงมาเหลือเพียง 11,000 ตันเศษ ทำให้รัฐบาลชดเชยลดลงเหลือเพียง 3.20 บาท และส่งผลให้น้ำมันปาล์มจุกชมพูออกมาวางขายจนเต็มตลาดอีกครั้งยุติปัญหาการขาดแคลนลงไปได้

แต่ขณะที่สถานการณ์กำลังดีขึ้น ก็เกิดปัญหาราคาผลปาล์มตกต่ำลงอย่างรวดเร็วจาก 7 บาทต่อกิโลกรัมเหลือเพียง 4 บาทต่อกิโลกรัมและมีแนวโน้มที่จะลดลงอีก ทำให้บอร์ดปาล์มน้ำมันต้องเรียกประชุมุฉุกเฉินในวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อแก้ปัญหาราคาผลปาล์มตกต่ำ ซึ่งทางผู้แทนสมาคมโรงกลั่นได้ชี้แจงว่า เนื่องจากมีข่าวจากทางกระทรวงพาณิชย์ว่าจะปรับราคาน้ำมันปาล์มลงมา 5 บาทต่อขวด ทำให้ร้านค้าต่าง ๆ ยกเลิกคำสั่งซื้อทั้งหมด แม้แต่สินค้าที่ส่งไปถึงร้านแล้ว ก็ปฎิเสธการรับ เพราะเชื่อว่า กระทรวงพาณิชย์จะปรับราคน้ำมันปาล์มขวดลงมาจริง ๆ ทำให้โรงกลั่นต้องระงับการสั่งซื้อน้ำมันปาล์มดิบในโครงการ 40,000 ตันทันที เพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์

นอกจากนี้ เงินชดเชยที่คาดว่าจะได้รับหลังจากการผลิตน้ำมันปาล์มจุกฝาออกมาจนครบแล้ว กลับยังไม่สามารถเบิกจ่ายได้ เนื่องจากทางกระทรวงพาณิชย์ไม่ชัดเจนในเรื่องการตั้งคณะอนุกรรมการในการตรวจสอบการจ่ายเงินชดเชย ทำให้ทางสำนักงบประมาณไม่สามารถจ่ายเงินชดเชยได้ โรงกลั่นที่เข้าร่วมโครงการกลั่นน้ำมันปาล์มช่วยชาติ ต้องประสบปัญหาตัวเลขผลประกอบการไตรมาสแรกแสดงผลขาดทุนทันที ทั้ง ๆ ที่ทำการผลิตสินค้าจำหน่ายออกไปเป็นจำนวนมาก ทำให้โรงกลั่นไม่ต้องการดำเนินการผลิตในเงื่อนไขการชดเชยของรัฐบาลอีกต่อไป เนื่องจากแบกรับผลขาดทุนไม่ไหว และมีแนวโน้มที่น้ำมันปาล์มขวดจะขาดแคลนอีกรอบ หรือหากจะผลิตให้ได้ในราคารที่กำหนด ก็ต้องใช้น้ำมันปาล์มจากต่างประเทศที่ราคาถูกกว่า ซึ่งก็จะส่งผลให้ราคาปาล์มสดตกลงอย่างรุนแรงเช่นเดียวกัน

แม้กระทั่งการแจ้งตัวเลขสต๊อกน้ำมันปาล์ม ที่ทางโรงกลั่นต้องการเพื่อใช้ในการตัดสินใจกำหนดราคาซื้อน้ำมันปาล์มดิบที่จะส่งผลต่อราคาผลปาล์มสดด้วย ทางกระทรวงพาณิชย์ก็ยังไม่สามารถให้ตัวเลขสต๊อกกับทางโรงกลั่นได้ โดยให้เหตุผลเพียงว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเลขสต๊อกน้ำมันปาล์ม ทุกโรงกลั่นจะต้องแจ้งให้ทางกระทรวงพาณิชย์ทราบตามกฎหมายทุกเดือน การบริหารงานที่ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าของกระทรวงพาณิชย์ จะทำให้การแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มไม่มีวันจบอย่างแน่นอน นอกจากเสียจากอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในกระทรวงพาณิชย์ มิเช่นนั้น รัฐบาลนี้อาจจะต้องจบเร็วกว่าที่คาดไว้ก็ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น