ศูนย์ข่าวศรีราชา -ห้างสรรพสินค้า-ร้านขนาดใหญ่ มีน้ำมันปาล์ม-ถั่วเหลือง วางจำหน่าย แต่ร้านขายของชำกลับไร้สินค้า ทั้งๆ ที่รัฐบาลกำชับให้กระจายให้ทั่วถึงทุกพื้นที่
นายพงศกร ใจมาเชื้อ ผู้จัดการ ท็อปส์ มาร์เก็ต ศรีราชา จังหวัดชลบุรี กล่าวถึงสถานการณ์น้ำมันปาล์ม และน้ำมันถั่วเหลืองนั้น ขณะนี้รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ สั่งให้ร้านค้าจำหน่ายน้ำมันปาล์ม และน้ำมันถั่วเหลืองให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง หลังที่ผ่านมาเกิดการขาดแคลนน้ำมันปาล์ม และน้ำมันถั่วเหลืองสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนที่บริโภคสินค้าดังกล่าว
สำหรับที่ห้างสรรพสินค้า ท็อปส์ นั้น จะได้น้ำมันปาล์มและน้ำมันถั่วเหลือง โดยวันนี้ได้รับการจัดสรรจากสำนักงานใหญ่ให้นำมาจำหน่าย โดยน้ำมันปาล์ม มีจำนวน 60 ลัง มี 720 ขวด ส่วนน้ำมันถั่วเหลือง 30 ลัง มี 360 ขวด ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอกับผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ ที่มีความต้องการเป็นจำนวนมาก โดยสินค้าในแต่ละวันจะจำหน่ายหมด โดยไม่มีการเก็บสินค้าไว้ เพราะจะต้องแจ้งยอดสินค้าที่รับและจำหน่ายให้กระทรวงพาณิชย์รับทราบ
นายพงศกร กล่าวต่อไปว่า ในช่วงนี้การจำหน่ายน้ำมันปาล์มและน้ำมันถั่วเหลือง ไม่ได้กำหนดจำนวนการซื้อเหมือนในช่วงที่ผ่านมา โดยลูกค้ามีกำลังซื้อเท่าไรก็สามารถมาซื้อได้อย่างเต็มที่ ตามที่ห้างมีสินค้าให้เท่านั้น ซึ่งประชาชนรายใดทราบว่าทางห้างมีสินค้าก็จะรีบเดินทางมาซื้อ เพราะสินค้ามีจำนวนจำกัด หากใครมาถึงก่อนก็จะได้สินค้าไปตามต้องการ หากใครมาช้าก็อาจจะไม่มีแล้ว
ด้าน นายวีรชาติ อรกุล พ่อค้าข้าวคลุกกะปิ ในตลาดศรีราชา กล่าวว่า ตนต้องใช้น้ำมันปาล์มและน้ำมันถั่วเหลือง เป็นจำนวนมาก และเมื่อทางห้างสรรพสินค้าเปิดจำหน่ายก็ต้องรีบมาซื้อ เตรียมไว้ เพราะหวั่นจะขาดตลาดอีก เพราะหากไม่มีน้ำมันดังกล่าว อาชีพที่ทำอยู่อาจจะหยุดชะงักไปชั่วคราว ดังนั้น จึงต้องรีบมาซื้อเก็บไว้ล่วงหน้า
ที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบบ้าง เนื่องจากกำหนดปริมาณการซื้อได้เพียง 1-2 ขวดเท่านั้น แต่ขณะนี้ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบ เปิดให้ซื้ออย่างเสรีโดยไม่กำหนดจำนวนขวด ดังนั้น จึงต้องรีบเดินทางมาซื้อตั้งแต่เช้า เพื่อเก็บไว้ก่อน เพราะช่วงสายๆสินค้าอาจหมดได้
ด้านนางสุเพ็ญ มัคครากุล ร้านขายส่ง จุ่งฮวด ศรีราชา กล่าวว่า หลังเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำมันปาล์มและน้ำมันถั่วเหลืองนั้น ทางร้านไม่เคยมีสินค้าดังกล่าวจำหน่ายให้ลูกค้าเลย เนื่องจากบริษัทที่จัดส่งสินค้าแจ้งว่าไม่มีสินค้าดังกล่าว ทำให้ทางร้านไม่มีสินค้าขายให้ลูกค้าทั้งที่เป็นขาประจำหรือลูกค้าขาจรแต่อย่างใด
“เมื่อไม่มีสินค้าจำหน่าย ทางร้านก็ไม่ขาย และไม่ดิ้นรนที่จะไปหาซื้อมาขายให้กับลูกค้า เพราะหากไปหาซื้อ ราคา 47 บาทแล้ว แต่จะมาขายเพื่อได้กำไร ก็จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม และปรับเงินเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เมื่อไม่มีก็ไม่ขาย เพื่อให้ประชาชนทั่วๆไปรับทราบว่า ปัญหาขาดแคลนน้ำมันปาล์มและน้ำมันถั่วเหลือง เพียงแค่นี้ทางรัฐบาลก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้เลย” นางสุเพ็ญ กล่าว
นางสุเพ็ญ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลและหน่วยงานที่รับผิดชอบ แจ้งว่า ปัญหาการขาดแคลนน้ำมันปาล์มและน้ำมันถั่วเหลือง ประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง เพราะรัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ แต่ในความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากในความเป็นจริงแล้ว ร้านขนาดเล็กหรือร้านขายส่งควรมีสินค้าดังกล่าววางจำหน่ายให้ประชาชนถึงจะถูกต้อง เพราะอยู่ใกล้ชิดกับประชาชนมากกว่าทางห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและเสียเวลาในการเดินทางไปซื้อสินค้า ดังนั้น ถือว่ารัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ตามที่ประกาศไว้