ASTVผู้จัดการรายวัน-ครม.ตั้งกรรมการดูแลสถานการณ์การแพร่กระจายกัมมันตรังสี ย้ำหากเลวร้ายกว่าเดิมให้อพยพคนไทยออกจากญี่ปุ่นทันที ส่วนผลตรวจอาหารนำเข้าจากญี่ปุ่น 35 รายการยังมีค่าปกติ ไม่พบการปนเปื้อน
นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (22 มี.ค.) ว่า ครม.ได้มอบหมายให้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ขึ้นตรงกับกระทรวงการต่างประเทศ ให้มีหน้าที่ดูแลสถานการณ์เรื่องการแพร่กระจายรังสีที่เกี่ยวข้องกับคนไทย ดูแลแนวทางในการช่วยเหลือคนไทยในประเทศญี่ปุ่น โดยหากมีสถานการณ์ที่เลวร้ายลงกว่าเดิม ก็ให้กระทรวงการต่างประเทศอพยพคนไทยลงมาทางใต้ของประเทศญี่ปุ่น และเดินทางออกนอกประเทศ
สำหรับมาตรการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินทางนิวเคลียร์จากประเทศญี่ปุ่น ได้มอบให้สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้ทำการติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้บริการตรวจวัดสารกัมมันตรังสีแก่สิ่งแวดล้อม เช่น การตรวจวัดอากาศ การตรวจวัดอาหารที่นำเข้าจากญี่ปุ่น การตรวจวัดสารกัมมันตรังสีแก่บุคคลที่เดินทางมาจากญี่ปุ่น รวมไปถึงให้บริการแก่ประชาชนที่มาขอรับบริการ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการติดตามและการตรวจหาสารปนเปื้อนในอาหารนำเข้าที่สำนักงานงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ดำเนินการมาแล้ว 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. โดยมีการสุ่มตรวจอาหารทั้งหมด 35 รายการ ณ ด่านอาหารและยาทุกแห่ง เช่น สตอร์เบอร์รี่ มันเทศ ปลาสด หอย กุ้ง ปลาหมึก พลับแห้ง ทุกอย่างมีค่าปกติทั้งหมด พร้อมกันนี้ ได้เพิ่มจุดตรวจที่ท่าเรือแหลมฉบังและคลองเตยเพิ่มเติมด้วย
ส่วนการให้ความช่วยเหลือคนไทยในญี่ปุ่น จากการรายงานของทีมแพทย์ด้านสุขภาพจิตที่เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่พบว่าคนไทยค่อนข้างเครียดและวิตกกังวลปัญหาทั่วไป เช่น การซื้อหาอาหาร การติดต่อสื่อสาร ซึ่งแพทย์ได้เยียวให้ความช่วยเหลือไปแล้ว และล่าสุดทีมแพทย์ได้เดินทางกลับถึงเมืองไทยแล้ว และจากการตรวจหาสารปนเปื้อนกัมมันตรังสี ก็ไม่พบการปนเปื้อนแต่อย่างใด ทั้งนี้ สำหรับคนไทยที่เดินทางกลับด้วยเครื่องบินซี 130 จำนวน 39 คน พบว่ามี 4 คนที่มีภาวะเครียด ซึ่งต้องดูแลต่อไป
นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการอย.กล่าวว่า ที่มาของแหล่งอาหารที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ที่จะต้องคุมเข้มเป็นพิเศษตามที่ทางการญี่ปุ่นรายงาน คือ อาหารที่นำเข้าจาก จ.ฟูกิชิมา อิราบากิ โทอิชิ และกุมมะ
นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (22 มี.ค.) ว่า ครม.ได้มอบหมายให้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ขึ้นตรงกับกระทรวงการต่างประเทศ ให้มีหน้าที่ดูแลสถานการณ์เรื่องการแพร่กระจายรังสีที่เกี่ยวข้องกับคนไทย ดูแลแนวทางในการช่วยเหลือคนไทยในประเทศญี่ปุ่น โดยหากมีสถานการณ์ที่เลวร้ายลงกว่าเดิม ก็ให้กระทรวงการต่างประเทศอพยพคนไทยลงมาทางใต้ของประเทศญี่ปุ่น และเดินทางออกนอกประเทศ
สำหรับมาตรการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินทางนิวเคลียร์จากประเทศญี่ปุ่น ได้มอบให้สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้ทำการติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้บริการตรวจวัดสารกัมมันตรังสีแก่สิ่งแวดล้อม เช่น การตรวจวัดอากาศ การตรวจวัดอาหารที่นำเข้าจากญี่ปุ่น การตรวจวัดสารกัมมันตรังสีแก่บุคคลที่เดินทางมาจากญี่ปุ่น รวมไปถึงให้บริการแก่ประชาชนที่มาขอรับบริการ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการติดตามและการตรวจหาสารปนเปื้อนในอาหารนำเข้าที่สำนักงานงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ดำเนินการมาแล้ว 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. โดยมีการสุ่มตรวจอาหารทั้งหมด 35 รายการ ณ ด่านอาหารและยาทุกแห่ง เช่น สตอร์เบอร์รี่ มันเทศ ปลาสด หอย กุ้ง ปลาหมึก พลับแห้ง ทุกอย่างมีค่าปกติทั้งหมด พร้อมกันนี้ ได้เพิ่มจุดตรวจที่ท่าเรือแหลมฉบังและคลองเตยเพิ่มเติมด้วย
ส่วนการให้ความช่วยเหลือคนไทยในญี่ปุ่น จากการรายงานของทีมแพทย์ด้านสุขภาพจิตที่เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่พบว่าคนไทยค่อนข้างเครียดและวิตกกังวลปัญหาทั่วไป เช่น การซื้อหาอาหาร การติดต่อสื่อสาร ซึ่งแพทย์ได้เยียวให้ความช่วยเหลือไปแล้ว และล่าสุดทีมแพทย์ได้เดินทางกลับถึงเมืองไทยแล้ว และจากการตรวจหาสารปนเปื้อนกัมมันตรังสี ก็ไม่พบการปนเปื้อนแต่อย่างใด ทั้งนี้ สำหรับคนไทยที่เดินทางกลับด้วยเครื่องบินซี 130 จำนวน 39 คน พบว่ามี 4 คนที่มีภาวะเครียด ซึ่งต้องดูแลต่อไป
นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการอย.กล่าวว่า ที่มาของแหล่งอาหารที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ที่จะต้องคุมเข้มเป็นพิเศษตามที่ทางการญี่ปุ่นรายงาน คือ อาหารที่นำเข้าจาก จ.ฟูกิชิมา อิราบากิ โทอิชิ และกุมมะ