นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ปัญหากำแพงภาษีที่ค่อนข้างสูงทำให้กระบวนการลักลอบนำเข้าและจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมาย ยังคงเป็นปัญหาเรื้อรังที่ยังแก้ไม่ตกโดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มสุราและยาสูบ
“ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553ถึงมกราคม 2554 กรมสรรพสามิตมีสถิติจับกุมผู้กระทำผิด พ.ร.บ.สุราได้ 8,360 คดี มีค่าปรับ 28,968,750.66 บาท และจับกุมผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ยาสูบได้ 2,448 คดี มีค่าปรับ 88,574,210.27 บาท โดยเขตแดนที่มีการลักลอบการะทำผิดมากคือ จังหวัดสระแก้วและจังหวัดตามแนวชายแดน และทางภาคใต้ เช่น สงขลาและสตูล ส่วนยาดองและเหล้าขาวจับได้มากที่เขตชานเมืองกรุงเทพมหานคร เช่นบางบอน ส่วนต่างจังหวัดจับได้มากที่ภาคเหนือในจังหวัดแพร่ พะเยา และลำปาง”
ขณะที่ในปีงบประมาณ 2553 ตั้งแต่ตุลาคม 2552 ถึงกันยายน 2553 นั้น สถิติการจับกุมผู้กระทำผิด พ.ร.บ.สุรามีจำนวนมากถึง 27,401 คดี มีค่าปรับ 88,212,106.21 ล้านบาท และสถิติการจับกุมผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ยาสูบของปีงบประมาณเดียวกันอยู่ที่ 9,483 คดี มีค่าปรับ 197,067,949.37 ล้านบาท
สถิติที่เพิ่มสูงขึ้นในทุกปี กรมสรรพสามิตได้ปรับตัวเพื่อให้เท่าทันกับผู้ลักลอบกระทำผิด โดยนอกจากจะมีแผนงานประจำปีในโครงการป้องกันและปราบปรามสุราเถื่อน และบุหรี่เถื่อนปี 5254 แล้ว ยังต้องมีการจัดทำแผนเชิงรุกเฉพาะกิจด้านการป้องกันและปราบปรามสุราเถื่อนและบุหรี่เถื่อนปี 2554 ด้วย รวมทั้งแผนบูรณาการตั้งจุดสกัดผู้กระทำผิดพระราชบัญญัติสุรา (สุราชุมชน) ด้วยการตั้งด่านสกัดในเขตพื้นที่ที่มีการลักลอบกระทำผิด รวมถึงแผนเร่งรณรงค์ให้ประชาชนลดการบริโภคสุราเถื่อน บุหรี่เถื่อน และระวังการบริโภคของเถื่อนผิดกฎหมาย ที่มีอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคมากกว่าบุหรี่และสุราโดยทั่วไป
ทั้งนี้ ได้จัดทำแผนเฉพาะกิจปราบปรามผู้ประทำผิดกฎหมายสรรพสามิต โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจสำนักตรวจสอบ ป้องกัน และปราบปราม และเจ้าหน้าที่สรรพสามิตทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเขตชายแดนที่มีการลักลอบนำสินค้าเข้ามาอย่างชายฝั่งทะเลทั้งด้านอ่าวไทยและอันดามัน
ผลจากการดำเนินงานในปี 2554 นั้น คาดว่าในเดือนพฤษภาคม 2554 จะสามารถเก็บรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 425,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 387,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 หรือราว 38,000 ล้านบาท
นอกจากสุราและยาสูบแล้ว กรมสรรพสามิตยังได้นำระบบเรือเร็ว รวมถึงระบบ GPS ในการควบคุมติดตามการส่งออกน้ำมันทั้งทางบกและทางทะเลมาใช้การทำงานด้วย เพราะราคาน้ำมันที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ นั้นส่งผลให้มีการลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว และหากพบการกระทำผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแสผู้กระทำความผิดได้ที่ call center 1713 ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกรมสรรพสามิตจะปกปิดข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสเป็นความลับและมอบสินบนนำจับให้ภายหลังจากคดีเสร็จสิ้น.
วันเดียวกันนี้ นายพงษ์ภาณุ ได้แถลงผลจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขายสุราเถื่อนได้สองราย พร้อมของกลาง สุราต่างประเทศ ยี่ห้อจอห์นนี้วอคเกอร์เรดเลเบิ้ล ขนาดบรรจุ 1 ลิตร จำนวน 1,380 ขวด และสุราต่างประเทศ ยี่ห้อจอห์นนี่วอคเกอร์แบลคเลเบิ้ล ขนาดบรรจุ 1 ลิตร จำนวน 300 ขวด รวมทั้งสิ้น 1,680 ขวดซึ่งหากสุราจำนวนดังกล่าวออกไปขายตามท้องตลาดทั่วไปจะสร้างความเสียหายประมาณ 1,313,760 บาท
“ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553ถึงมกราคม 2554 กรมสรรพสามิตมีสถิติจับกุมผู้กระทำผิด พ.ร.บ.สุราได้ 8,360 คดี มีค่าปรับ 28,968,750.66 บาท และจับกุมผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ยาสูบได้ 2,448 คดี มีค่าปรับ 88,574,210.27 บาท โดยเขตแดนที่มีการลักลอบการะทำผิดมากคือ จังหวัดสระแก้วและจังหวัดตามแนวชายแดน และทางภาคใต้ เช่น สงขลาและสตูล ส่วนยาดองและเหล้าขาวจับได้มากที่เขตชานเมืองกรุงเทพมหานคร เช่นบางบอน ส่วนต่างจังหวัดจับได้มากที่ภาคเหนือในจังหวัดแพร่ พะเยา และลำปาง”
ขณะที่ในปีงบประมาณ 2553 ตั้งแต่ตุลาคม 2552 ถึงกันยายน 2553 นั้น สถิติการจับกุมผู้กระทำผิด พ.ร.บ.สุรามีจำนวนมากถึง 27,401 คดี มีค่าปรับ 88,212,106.21 ล้านบาท และสถิติการจับกุมผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ยาสูบของปีงบประมาณเดียวกันอยู่ที่ 9,483 คดี มีค่าปรับ 197,067,949.37 ล้านบาท
สถิติที่เพิ่มสูงขึ้นในทุกปี กรมสรรพสามิตได้ปรับตัวเพื่อให้เท่าทันกับผู้ลักลอบกระทำผิด โดยนอกจากจะมีแผนงานประจำปีในโครงการป้องกันและปราบปรามสุราเถื่อน และบุหรี่เถื่อนปี 5254 แล้ว ยังต้องมีการจัดทำแผนเชิงรุกเฉพาะกิจด้านการป้องกันและปราบปรามสุราเถื่อนและบุหรี่เถื่อนปี 2554 ด้วย รวมทั้งแผนบูรณาการตั้งจุดสกัดผู้กระทำผิดพระราชบัญญัติสุรา (สุราชุมชน) ด้วยการตั้งด่านสกัดในเขตพื้นที่ที่มีการลักลอบกระทำผิด รวมถึงแผนเร่งรณรงค์ให้ประชาชนลดการบริโภคสุราเถื่อน บุหรี่เถื่อน และระวังการบริโภคของเถื่อนผิดกฎหมาย ที่มีอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคมากกว่าบุหรี่และสุราโดยทั่วไป
ทั้งนี้ ได้จัดทำแผนเฉพาะกิจปราบปรามผู้ประทำผิดกฎหมายสรรพสามิต โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจสำนักตรวจสอบ ป้องกัน และปราบปราม และเจ้าหน้าที่สรรพสามิตทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเขตชายแดนที่มีการลักลอบนำสินค้าเข้ามาอย่างชายฝั่งทะเลทั้งด้านอ่าวไทยและอันดามัน
ผลจากการดำเนินงานในปี 2554 นั้น คาดว่าในเดือนพฤษภาคม 2554 จะสามารถเก็บรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 425,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 387,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 หรือราว 38,000 ล้านบาท
นอกจากสุราและยาสูบแล้ว กรมสรรพสามิตยังได้นำระบบเรือเร็ว รวมถึงระบบ GPS ในการควบคุมติดตามการส่งออกน้ำมันทั้งทางบกและทางทะเลมาใช้การทำงานด้วย เพราะราคาน้ำมันที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ นั้นส่งผลให้มีการลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว และหากพบการกระทำผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแสผู้กระทำความผิดได้ที่ call center 1713 ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกรมสรรพสามิตจะปกปิดข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสเป็นความลับและมอบสินบนนำจับให้ภายหลังจากคดีเสร็จสิ้น.
วันเดียวกันนี้ นายพงษ์ภาณุ ได้แถลงผลจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขายสุราเถื่อนได้สองราย พร้อมของกลาง สุราต่างประเทศ ยี่ห้อจอห์นนี้วอคเกอร์เรดเลเบิ้ล ขนาดบรรจุ 1 ลิตร จำนวน 1,380 ขวด และสุราต่างประเทศ ยี่ห้อจอห์นนี่วอคเกอร์แบลคเลเบิ้ล ขนาดบรรจุ 1 ลิตร จำนวน 300 ขวด รวมทั้งสิ้น 1,680 ขวดซึ่งหากสุราจำนวนดังกล่าวออกไปขายตามท้องตลาดทั่วไปจะสร้างความเสียหายประมาณ 1,313,760 บาท
