xs
xsm
sm
md
lg

แปลงค่าปรับบุหรี่เป็นทุน!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"เป็นเรื่องร้อนขึ้นมาจนได้" กรณีบริษัทบุหรี่ยักษ์ใหญ่ถูกดีเอสไอฟ้องดำเนินคดีว่ากระทำผิด พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2569 และพ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ.2509 ข้อหาแสดงราคานำเข้าบุหรี่ต่ำกว่าปกติ เพื่อชำระภาษีต่อกรมสรรพสามิตต่ำกว่าความเป็นจริง แต่อัยการมี "สั่งไม่ฟ้อง" เรื่องก็เลยแดงแจ๋...

ย้อนอดีตให้เห็นภาพคร่าวๆ ช่วงปี 2544-46 กรมศุลกากรได้ตั้งข้อสังเกตว่าบุหรี่ยี่ห้อมาร์โบโรและแอลเอ็มที่นำเข้าจากฟิลิปปินส์ อาจสำแดงราคาต้นทุนนำเข้าต่ำกว่าความเป็นจริง จึงส่งเรื่องให้ดีเอสไอสอบเป็นคดีพิเศษเมื่อปี 2549 การสอบสวนพบว่า มาร์ลโบโร แจ้งต้นทุนนำเข้าซองละ 7.76 บาท แต่ขายให้คิงเพาเวอร์ 27.46 บาท ส่วนแอลเอ็มต้นทุน 5.88 บาท ขายคิง เพาเวอร์ 16.81 บาท ชัด! การแจ้งราคาต่ำ สรุปเบ็ดเสร็จ ทำให้รัฐเสียหายแค่ 6.8 หมื่นล้าน!!!...

ปฏิบัติการพลิกค่าปรับเป็นทุน (การเมือง) ก็เลยเริ่มต้นขึ้น???...

การสร้างแรงกดดันเพื่ออัพค่าตัว เกิดขึ้นหลังจากที่ ปชป.เข้ามาเป็นรัฐบาล กระทรวงตาชั่งส่งเรื่องถึงพาณิชย์ ถามตรงๆ "บ.ฟิลลิปฯ" ทำผิดสนธิสัญญาไมตรีไทย-สหรัฐฯ และผิดกฎหมายคนต่างด้าว หรือไม่? พาณิชย์ตอบกลับว่า "ผิดในข้อหาแจ้งทำธุรกิจสำรวจตลาดสินค้าไทยเอาไปขายที่สหรัฐและเอาสินค้าสหรัฐมาขายให้ไทย" แต่พวกดันไปขายบุหรี่...

ตรงนี้เอง กลายเป็นอาวุธให้ ปชป.ฟันหรือไถ! หารู้ไม่?@!@

พูดถึงเรื่อง WTO ที่ "ฟิลลิปฯ ฟิลิปปินส์" ฟ้องไทย ตอนนี้ตัดสินไปแล้วว่า "ไทยผิด" เพราะละเมิดข้อกำหนดที่ให้สมาชิกต้องรับราคาส่งออกเป็นราคาศุลกากร ไม่ว่าผู้ซื้อผู้ขาย จะเกี่ยวดองกันหรือไม่ ตรงนี้คงจะไปค้านอะไรไม่ได้ เพราะบริษัทแม่ บริษัทลูก มันจะขายกันยังไง ราคาเท่าไร ไม่มีใครว่า แต่ที่มันเฮงซวยจนรับไม่ได้ ก็คือ "ขายให้บริษัทลูกถูกๆ เพื่อเลี่ยงภาษี" ดันมีแต่คนมาช่วย แต่ทีขายคนอื่นแพงๆ กลับทำได้ พอถูกโวย ก็เลยไปแกล้งให้ทำมาหากินไม่ได้ บุหรี่เลยหายไปจากชั้นวาง "คิงเพาเวอร์!!.."

พอมีข้อมูลชัดเจนและเห็นช่อง บิ๊กทำเนียบ ก็เลยสั่งให้เสี่ย "ก" ปฏิบัติการ เรียกหน่วยงานที่รับผิดชอบมาหารือ กล่อมกันยังไง อีท่าไหน สุดท้ายสวาปาล์ม ส่วนจะเท่าไหร่? "ใครรู้บอกที!@!@.."

กลับมาที่ปัญหาปากท้องพี่น้องกันดีก่า ขอแสดงความยินดีกับประชาชนคนไทยที่ปัญหาน้ำมันปาล์มที่ดูเหมือนว่าจะมาถึงตอนจบแล้ว บอร์ดปาล์มชุด "เทือก" เป็นประธานฯ พูดชัด สถานการณ์เข้าสู่ปกติ ไม่จำเป็นต้องนำเข้าเพิ่ม ให้ไปซื้อหาในประเทศมาผลิตเอง โดยรัฐยังชดเชยให้โรงกลั่นอีก กก.ละ 2.50 บาท เพื่อคุมราคาไม่ให้เกิน 47 บาท โรงกลั่นได้กับได้อีกแล้ว "ว่าแต่มีใครไปขอแบ่งบ้างหรือยัง? 555..."

ส่วนเรื่องน้ำตาลตึงตัว "เฮียชัยวุฒิ บรรณวัฒน์" พูดชัด ถ้าไม่พอจริงๆ ก็จะเพิ่มโควตาบริโภคในประเทศให้อีก เพิ่มให้ชนิดที่กินกันจนเป็นเบาหวานไปเลย แต่ถ้าเพิ่มให้แล้ว พอขนออกจากโรงงาน ยังหายอีก จะมาโทษไม่ได้ เพราะไม่ใช่หน้าที่ ใครดูแลก็ว่ากันไป ส่วนน้ำตาลถุง 1 กก. ที่ 4 โรงงานขายให้กับห้างจะเพิ่มได้อีกหรือไม่ "เฮียชัยวุฒิ" ตอบแบบไม่ง้อใคร "ถ้าเขาไม่ทำเพราะต้นทุนแพง เดี๋ยวผมทำเอง" ให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลซื้อมาใส่ถุงขายเอง แต่พอถามจะเอาเครื่องจักรที่ไหนมาบรรจุถุง เฮียอ้ำอึ้งก่อนตอบ ก็ทำง่ายๆ เอามามัดหนังยางขายเอา โอววว แม่เจ้า "คิดได้ไงเนี่ย!?@!@"

ปิดท้ายที่กระทรวงหูกวาง "ปลัดสุพจน์ ทรัพย์ล้อม" ยืนยันข้อมูลรับอภิปรายเตรียมไว้ครบถ้วนแล้ว ทั้ง รฟม. ทอท. แต่เจ้ากระทรวงกลับเงียบผิดสังเกต "โสภณ ซาเล้ง" เจอหน้าสื่อช่วงนี้ เอาแต่คุยเล่นไม่เป็นข่าว กระจอกข่าวป้อนคำถามอะไรไปก็ออกอาการบ่ายเบี่ยง โดนรุกหนักเข้าก็เลี่ยง บอกให้พูดและเขียนข่าวเองเลย สงสัยกลัวข้อสอบ (อภิปราย) ที่เก็งไว้ จะรั่ว! เพราะพรรคเพื่อแม้วขู่ว่ามีทีเด็ดไว้ฟันซาเล้ง "คริคริ?!#@..."
กำลังโหลดความคิดเห็น