xs
xsm
sm
md
lg

สูญอีก9แสนล. ถล่มลิเบียดันน้ำมันพุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ราคาน้ำมันดิบพุ่งจากเหตุสู้รบที่ลิเบีย ปตท.ชี้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในตะวันออกกลางเพียงพอต่อความต้องการใช้หากไม่ลามไปยังประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ ส่วนราคาจะปรับขึ้นต่อเนื่องคาดเดายาก ชี้ปีนี้ไทยใช้เงินเกือบ 3 หมื่นล้านเหรียญนำเข้าน้ำมัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 20-30%

นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เหตุการณ์ที่สหรัฐฯร่วมกับกลุ่มชาติตะวันตกโจมตีทางอากาศในลิเบีย ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบตลาดดูไบอยู่ที่ 110 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ปรับตัวสูงขึ้นจากวันที่ 17 มี.ค.ประมาณ 4 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนราคาจะปรับขึ้นต่อเนื่องหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยความวิตกกังวล
ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก โดยเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะใช้เวลาระยะหนึ่ง แต่หากพิจารณาในด้านปริมาณการผลิตน้ำมันพบว่ายังเพียงพอต่อความต้องการใช้ในตลาดโลก จึงไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันราคาน้ำมันให้พุ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามหากเหตุการณ์ประท้วงที่เกิดขึ้นในหลายประเทศแถบตะวันออกกลางลามไปสู่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อย่างซาอุดิอาระเบีย อิหร่าน อิรัก และคูเวต เชื่อว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะพุ่งเกินระดับ 150 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลแน่นอน แต่เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น เนื่องจากซาอุดิอาระเบีย และคูเวตเป็นประเทศที่สหรัฐฯให้การสนับสนุนอยู่แล้ว

ปัจจุบันไทยนำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางคิดเป็นสัดส่วน 70%ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมด โดยปตท.ได้พยายามสร้างเครือข่ายการจัดหาพลังงานโดยมีการเปิดสำนักงานที่สิงคโปร์ ดูไบและอื่นๆ เพื่อให้จัดหาพลังงานได้ทันท่วงทีในหลายพื้นที่ ที่ผ่านมาไทยนำเข้าน้ำมันดิบจากUAEเป็นจำนวนมาก แต่ก็มีการนำเข้าจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย และออสเตรเลียด้วย

ส่วนกรณีภัยพิบัติที่ญี่ปุ่น ทำให้ธุรกิจการกลั่นได้รับประโยชน์ในระยะสั้น จากค่าการกลั่นที่ดีขึ้น ซึ่งปัจจุบันราคาน้ำมันเตาและดีเซลปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากซัปพลายลดลง แต่ระยะยาวอาจจะได้รับผลกระทบในทางลบ หากภาคอุตสาหกรรมในญี่ปุ่นหยุดชะงักเป็นเวลานาน ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันและปิโตรเคมีลดลง และหากราคาน้ำมันยังยืนในระดับสูงเกินไป
ก็จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวสหรัฐฯและสหภาพยุโรปให้ช้าลง ขณะที่รัฐบาลจีนเองก็ต้องการชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจประเทศ

ในช่วง 3 เดือนแรกปีนี้ ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยที่นำเข้าอยู่ที่ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล สูงกว่าปีก่อนที่เฉลี่ยต่ำกว่า 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยปีที่แล้วมีปริมาณนำเข้าน้ำมัน 7 แสนล้านบาร์เรล คิดเป็นมูลค่า 2.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หากราคาน้ำมันดิบทรงตัวในระดับสูงเฉลี่ย 100 เหรียญสหรัฐไปจนถึงสิ้นปี มูลค่าการนำเข้าพลังงานของไทยจะใกล้ 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐสูงกว่าปีก่อน 20-30% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อดุลการค้าของประเทศ

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบงวดส่งมอบเดือนเมษายนที่ตลาดสิงคโปร์ช่วงเที่ยงวันที่ 21 มี.ค. ดีดขึ้น 1.82 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ซื้อขายที่ 102.89 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์ ปรับขึ้น 1.83 ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อขายที่ 115.76 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
กำลังโหลดความคิดเห็น