xs
xsm
sm
md
lg

maiผสานความร่วมมือ TOKYO AIM

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเท็ทสึทาโร มูรากิ ประธานและซิอีโอ ตลาดหลักทรัพย์ TOKYO AIM (Tokyo Alternative Investment Market) กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ TOKYO AIM ได้ลงนามความร่วมมือกับตลาด เอ็ม เอ ไอ เพื่อมุ่งสนับสนุนธุรกิจที่มีศักยภาพให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น โดยการแลกเปลี่ยข้อมูลและบุคลากรระหว่างกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและการพัฒนาทั้งสองตลาด โดยการลงนามในครั้งนี้ ถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการที่บริษัทไทยจะเข้าไประดมทุน จากที่กระบวนการในการเข้าไปจดทะเบียนนั้นมีความรวดเร็ว มีมาตรฐานทางบัญชี ค่าใช้จ่ายต่ำในการเข้าไประดมทุน และทางที่ปรึกษาทางการเงินนั้นก็จะมีการช่วยเหลือในเรื่องแผนการดำเนินการและปรับกลยุทธ์ในการเข้าจดทะเบียน และทางตลาดหลักทรัพย์ TOKYO AIM จะมีการช่วยประชาสัมพันธ์ให้บริษัทที่จะเข้าไปจดทะเบียนที่สนใจด้วย
ขณะเดียวกัน หากบริษัทไทยต้องการที่จะเข้าไปลงทุนโดยการควบรวมกิจการนั้นทางตลาด TOKYO AIM ก็พร้อมที่จะสนับสนุนเนื่องจากการดำเนินการดังกล่าว เพราะถือว่าเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่จะทำให้บริษัทไทยเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหุ้น TOKYO AIM ได้เร็วกว่าการจดทะเบียน โดยการใช้วิธีการแลกหุ้น
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มสายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า การเซ็นMOU กับทาง TOKYO AIM ครั้งนี้หวังว่าบริษัทไทยจะมีการใช้ตลาดทุนไทยในการระดมทุนเพื่อที่จะไปขยายธุรกิจให้มีการเติบโตในญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันบริษัทจดทะเบียนของไทยมี 500 กว่าบริษัทนั้น มีญี่ปุ่นถือหุ้นสัดส่วน 20-30% อยู่มากกว่า 20 บริษัท จึงถือว่าเป็นโอกาสที่ทางญี่ปุ่นจะเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นไทยเช่นกัน
ทั้งนี้ ทางกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ยืนยันว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ ไม่มีผลกระทบต่อทิศทางขยายธุรกิจ และการลงทุนต่างประเทศของบริษัทญี่ปุ่น ส่วนของสินค้าที่ผลิตในไทย ซึ่งจำเป็นต้องนำเข้าชิ้นส่วนหรือวัตถุดิบจากญี่ปุ่น ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่า ความล่าช้าจากการขนส่ง เพื่อการผลิตดังดล่าว จะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและญี่ปุ่นอย่างไร แต่มั่นใจว่าจะไม่เป็นอุปสรรคต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและญี่ปุ่นในอนาคต
ด้านนายยาสุโอะ ฮายาชิ ประธานและซีอีโอ เจโทร กล่าวว่า ระยะสั้นอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นอาจจะชะลอตัวลง แต่ระยะยาว เชื่อว่า การค้า การลงทุนระหว่างไทย-ญี่ปุ่น จะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เนื่องจากไทยเป็นฐานผลิตสำคัญของอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เพื่อส่งออกไปยังประเทศในเอเชียและประเทศอื่นๆ ขณะเดียวกัน รัฐบาลญี่ปุ่นมีความจำเป็นต้องเร่งอัดฉีดเงินมหาศาล เพื่อฟื้นฟูภาคพลังงาน และเศรษฐกิจภายในประเทศ ก็ยิ่งต้องเดินหน้าส่งเสริมการลงทุนภายในญี่ปุ่น เพื่อให้มีเม็ดเงินไหลเวียนในระบบเศรษฐกิจมากที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น