xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ "หากมหาดไทยไม่เดินเรื่อง... เขาจะเดินไปสู่สวรรค์หรือนรก ผมไม่ทราบแต่ก็คงไม่ไปด้วย"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - จากกรณีที่ “นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์” ร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) กรณีถูกย้ายจากอธิบดีกรมการปกครอง ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง โดยร้องว่าเหตุที่ถูกย้าย เนื่องจากปลัดกระทรวงมหาดไทย และที่ปรึกษารัฐมนตรีมหาดไทย ไม่พึงพอใจ 4 ประการ คือ

1.การแก้ไขทีโออาร์ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อผู้รับจ้างบางราย, กรณีการทุจริตสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ, กรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผอ.ศอฉ. สั่งการด้วยวาจาทางโทรศัพท์ให้สนับสนุนอาวุธปืนลูกซอง 5 นัด จำนวน 3,000 กระบอก พร้อมกระสุน ส่งมอบให้ ศอฉ., และความพยายามดึงงานการจัดซื้อบัตรสมาร์ทการ์ดกลับมายังกระทรวงมหาดไทย

ล่าสุด ก.พ.ค. พิจารณาแล้วเห็นว่า การย้ายนายวงศ์ศักดิ์เป็นการใช้ดุลยพินิจไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก.พ.ค. จึงมีมติให้กระทรวงมหาดไทยคืนตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองให้นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ มีโอกาสสนทนากับ “วงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์” ถึงความคิด ความรู้สึก และเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด

**จากกรณีที่คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) มีมติให้กระทรวงมหาดไทยคืนตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองให้ มีความคิดเห็นอย่างไรต่อเรื่องนี้

มีความรู้สึกว่าประเทศไทย โชคดีที่ระบบคุณธรรม ความโปร่งใส ความเป็นธรรม ยังเป็นของคู่บ้านคู่เมืองเราอยู่ จากอดีตที่ผ่านมาบอกว่า ใครทำดีไม่ได้ดี ใครทำชั่วกลับได้ดี พูดกันหนาหูจนติดปากไปจนถึงเด็กอนุบาล บัดนี้ เป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ความดีมันคู่กับบ้านเมืองของไทย พระสยามเทวาธิราชท่านก็ยังดูแลอยู่คู่เมืองไทยของเรา ผมก็ยังดีใจว่ายังมีองค์กรที่ยังให้ความเป็นธรรมกับข้าราชการอยู่ ข้าราชการมีอยู่ 2 ล้านกว่าคน ถือว่าเป็นเครื่องมือที่จะขับเคลื่อนการบริการ และภารกิจของรัฐบาลไปสู่ประชาชน เป็นสิ่งที่ผมมองมากกว่าตำแหน่งหน้าที่ ไม่ว่าใครจะอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ใดก็แล้วแต่ หากคำนึงถึงความเจริญ ความมั่นคงของประเทศชาติ และการบริการที่ดี สามารถสร้างความอบอุ่นให้ประชาชนได้ นั้นจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด บอกตรงๆ ว่าเมื่อ ก.พ.ค. มีมติตรงนี้ออกมาแล้ว ไม่ได้มีความรู้สึกว่าจะได้กลับไปตำแหน่งนั้น ตำแหน่งนี้ แต่สิ่งที่มองคือความมั่นคงของประเทศชาติ ความอยู่ดีกินดีของประชาชน

**คิดว่าจะมีขบวนการสกัดขัดขวางจนไม่สามารถกลับไปนั่งตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองได้เหมือนเดิมไหม

ก็สุดแล้วแต่, ส่วนตัวก็คิดว่าเราได้ร้องทุกข์ไปตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว อย่างข้าราชการที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม จากผู้บังคับบัญชา ไม่ว่าจะเป็นผู้บังคับบัญชาฝ่ายการเมือง หรือข้าราชการประจำก็แล้วแต่ กฎหมายก็ระบุว่าให้ไปร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) และเราเป็นข้าราชการที่ดี เคารพกฎหมาย ซึ่งเรามีความเชื่อว่าถ้าคนเราเคารพกฎหมายและปฏิบัติตาม บ้านเมืองก็จะเกิดความสงบสุข โดยตอนนั้นใช้เวลากว่า 10 เดือน ก็ได้แต่คิดว่าจะมีจริงหรือเปล่าหนอความเป็นธรรมในสังคมไทย ก็อยากรู้เหมือนกัน

จนได้มามีมติ ก.พ.ค. ชี้ว่า เราไม่มีความผิด แล้วการโยกย้ายของเราตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2553 มิชอบด้วยกฎหมาย ก็เลยออกคำสั่งว่าให้ยกเลิกคำสั่ง และให้เรากลับเข้ารับตำแหน่งเดิม ก็เท่ากับว่าผมยังเป็นอธิบดีกรมการปกครองโดยต่อเนื่องมา อันนี้ก็ถือว่าเราปฏิบัติตามกฎหมาย เมื่อ ก.พ.ค. มีผลชี้ออกมาแบบนี้แล้วเราก็ถือว่าสิ้นสุด ก็คือว่าสิ่งที่ย้ายผมมาจากตำแหน่งนี้โดยข้ออ้างต่างๆ นั้น ผมก็ได้เอาข้อเท็จจริงไปให้ดูว่าเรื่องนี้เป็นอย่างนี้ ฉะนั้น, มันก็ไม่ได้ตรงกับข้ออ้างทั้ง 3 ข้อ แล้วข้อเท็จจริงทั้ง 3 ข้อ ก็ได้สอบถามไปยังคนที่ได้โยกย้ายเรา พอไปสอบถาม ตรวจสอบว่าเป็นอย่างที่กล่าวหาหรือเปล่า มันก็ไม่เป็นอย่างที่กล่าวหา

ยกตัวอย่าง ที่อ้างว่ามีการชุมนุมของคนเสื้อแดง เสื้อเหลือง เสื้อน้ำเงิน อะไรต่างๆ พวกนี้ แล้วเขาก็ใช้ข้ออ้างว่าที่ต้องย้ายผมไป เพราะว่าต้องการผู้บริหารที่มีประสบการณ์ มีความสามารถมากำกับดูแลคนชุมนุม เขาก็ถามบอกว่านายวงศ์ศักดิ์ได้ทำหน้าที่ได้ดีหรือไม่ในเรื่องการชุมนุมทางการเมือง ก็ปรากฏว่าเราได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา และเราก็ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาไปโดยตลอดเวลา รวมทั้งผู้ย้ายก็ยังทำรายงานอยู่เลย

แต่พอบทจะย้ายแกก็คงทำเป็นไม่เห็น และมาบอกว่าเราไม่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ ถามว่าคนที่มาแทนเราได้ลงไปทำหน้าที่แบบเราหรือเปล่า ก็ปรากฏว่าไม่ได้ทำแบบเราอีกต่างหาก แล้วแถมยังไม่มีผลงานอะไรเลย สุดท้ายก็ให้คำตอบไม่ได้ว่าย้ายไปเพราะอะไร ก็ไปลงที่คำว่าเหมาะสมที่สุด ทีนี้ก็ต้องไปดูว่าเหมาะสมที่สุดคืออะไรมันต้องมีเครื่องชี้วัด เหมาะสมนี้เป็นเครื่องมือของผู้บริหารที่จะทำลายคนดี ในการช่วยเหลือพรรคพวก หรือจะเพื่อไว้ทำลายคนบางคนก็สุดแล้วแต่ แต่ในที่สุดก็สั่งให้เรากลับ เราก็ต้องถือตามนั้น

**ทางกระทรวงมหาดไทยมีท่าทีอย่างไรหรือยังเงียบอยู่ เกี่ยวกับเรื่องกลับคืนตำแหน่ง

ผมก็ไม่ทราบ คงต้องไปถามเขา แต่ตามกระบวนตามกฎหมาย ผมถือว่าสิ้นสุดแล้ว เมื่อ ก.พ.ค. มีมติออกมาแล้วถือว่าจบ ถามว่าหากทางกระทรวงมหาดไทยไม่เดินเรื่อง... เขาจะเดินไปสู่สวรรค์หรือนรก ผมก็ไม่ทราบ แต่ก็คงไม่ไปด้วย

**จะรอเวลาถึงเมื่อไหร่ ถึงจะดำเนินการ

ทุกอย่างมีเงื่อนเวลาของมันอยู่ ว่าตามระเบียบของ ก.พ.ค. ระบุไว้ว่าอย่างไร ว่ากี่วัน กี่เดือน ก็มีคนมาเล่าให้ฟังอยู่เหมือนกันว่าจะถูกลากไปจนเกษียณ ซึ่งวันสิ้นสุดในชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ก็สุดแล้วแต่ใครจะทำอะไร ใครทำดีก็ได้ดี ใครทำชั่วก็ได้ชั่ว ทุกวันนี้นักการเมืองดีก็มีเยอะ นักการเมืองเลวก็มีเหมือนกันส่วนน้อย เหมือนกับข้าราชการดีมีเยอะ ข้าราชการเลวมีน้อย ขณะเดียวกันหากนักการเมืองชั่ว มารวมกับข้าราชการเลว มาจับมือสร้างความปั่นป่วน ก็ว่ากันไป...

**แสดงว่าทั้งข้าราชการการเมือง และฝ่ายการเมือง จับมือรวมตัวกันกลั่นแกล้ง
 

แน่นอน, ผมยังยืนยันว่าถูกกลั่นแกล้ง ผมเสียดายเวลาที่ผ่านไป 10เดือน แทนที่ความเจริญก้าวหน้าในการปฏิบัติหน้าที่ของกรมการปกครอง หรือกระทรวงมหาดไทย ให้กับประชาชนได้รับประโยชน์ เช่น บัตรประชาชนที่ควรจะได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ก็กลับเป็นต้องมาใช้ 'บัตรเหลือง' มันน่าสังเวชมาก อีกทั้งคอมพิวเตอร์ทุกวันนี้ระบบก็ยังเก่าอยู่ ก็ยังไม่สามารถเดินหน้าได้

**หลังจากที่ถูกการเมืองกลั่นแกล้ง พอมานั่งตำแหน่งผู้ตรวจราชการฯ มองการเมืองเป็นอย่างไรบ้าง

การเมืองในกระทรวงมหาดไทย มองว่าเข้าขั้นวิกฤต และไม่ได้หมายถึงมหาดไทยเท่านั้น การเมืองในประเทศก็ถือว่าวิกฤตเช่นกัน คือผมจะแยกไว้ 2 ประเด็น คือการเมืองเป็นสิ่งบริสุทธิ์ การบ้านก็เป็นสิ่งบริสุทธิ์ แต่คนที่เข้ามาเล่นการเมืองสกปรก ก็เหมือนกับศาสนาทุกศาสนา ก็ยังมีคนที่ทำให้ศาสนามัวหมอง การเมืองก็เช่นกัน จะว่าไปแล้วการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ก็คือจะสร้างแต่สิ่งที่ดี มีคุณธรรม ก็คือธรรมาภิบาล แต่กลายเป็นว่าผู้ที่เข้ามาบริหารการเมือง ทำให้การเมืองวิกฤต พูดง่ายๆ คือ 'ชุ่ย' ก็เป็นอันตรายต่อประเทศชาติ

ส่วนข้าราชการก็เช่นกัน ถ้ายังไม่มีจิตสำนึกที่ดี ยังคอยรับใช้นักการเมืองที่ชั่วร้าย บ้านเมืองก็หายนะ เคยมีคนพูดว่านักการเมืองเลว ข้าราชการแย่ มาเจอกัน เหมือนกับ ฝนตกขี้หมูไหล คนจัญไรมาเจอกัน แต่ผมไม่ได้ว่าใครนะ มันเป็นปรัชญาชีวิต พูดอีกแง่หนึ่งก็ไม่ต่างกับ ผีเน่ากับโรงผุ ตามโบราณที่เขาพูดกันเอาไว้ ซึ่งแต่ก่อนผมไม่เคยสนใจเลย พอตอนนี้ก็ได้เห็นว่ามันเป็นวิกฤตของบ้านเมือง

**กลุ่มการเมืองในกระทรวงมหาดไทยที่สั่งย้าย ขณะนี้ยังคงมีอิทธิพลมากแค่ไหน

คำว่าอิทธิพล นักเลง หรืออันธพาล ก็คงไปแยกกันให้ออก เพราะผมก็ถือว่านิยมนักการเมืองนะ ไม่ใช่ไม่ฟังนักการเมือง แต่ต้องเป็นนักการเมืองที่มีคุณธรรม จะวิ่งไปกราบไหว้เลยทีเดียว ถ้าท่านสั่งงานมาจะรีบทำเลย จะสนองทำตามไม่ทันด้วยซ้ำไป เดี๋ยวจะหาว่าข้าราชการกระจอก เช้าชามเย็นชาม แต่ผมมองว่ามีนักการเมืองส่วนน้อยเท่านั้นที่มองแต่ประโยชน์ส่วนตน ที่คอยแต่สั่งงานผิดพลาดมาตลอดเวลา เพราะว่าผู้บริหารไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง หรือผู้บริหารข้าราชการ ผมมองอยู่ 3 อย่าง คือ ผู้บริหารประเภทคิดนอกกรอบ มีการพัฒนามีการเสนอความคิดเรื่อยๆ และเราเป็นข้าราชการเราต้องตามนักการเมืองแบบนี้ให้ทัน ซึ่งเรานิยมชมชื่นมาก ประเทศไทยต้องหาคนแบบนั้น

อีกประเภทคือ พวกคิดในกรอบ เช่น ทุกอย่างต้องระเบียบเป๊ะๆ มากกว่านี้ไม่ได้ น้อยกว่านี้ไม่ได้ พวกไม้บรรทัด แต่พวกนี้ก็คงไม่น่ากลัวเท่าประเภท นักการเมืองไม่มีกรอบ พวกนี้ไม่รู้เรื่อง แสวงหาผลประโยชน์อย่างเดียว ประเทศชาติ ประชาชนหายนะไม่เกี่ยว ประเภทหลังอันตรายมาก ผมถึงบอกว่าการเมืองมันวิกฤต

**ได้ยินมาว่าทุกวันนี้ คนที่จะเป็นใหญ่ในกระทรวงคลองหลอด ต้องเรียนเน และจบ ม.สยาม เป็นจริงอย่างที่เขาว่าหรือเปล่า

อันนี้ผมก็ไม่ทราบ มันแปลอะไรไปหลายอย่าง ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน (หัวเราะ) อันนี้เป็นสิ่งที่พวกเราต้องช่วยกัน ทั้งข้าราชการทั้งนักการเมืองต้องมีจิตสำนึกความเป็นผู้บริหาร อย่าเอาสิ่งที่ไม่ดีมารวมกัน ถ้าเอาสิ่งที่ไม่ดีมารวมกันประเทศชาติก็แย่

**ดูจากที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ประเทศชาติคงกำลังแย่แล้ว

ข้าราชการดีๆ เขาไม่อยากยุ่งไม่อยากตอแยกับใคร เขาก็จะอยู่นิ่งๆ เฉยๆ ถ้าสั่งมาก็ทำไป ถ้าไม่สั่งก็ไม่ทำ เพราะถ้าทำมากไปกว่านั้นก็หายนะ ก็รู้อยู่แก่ใจ ก็เลยกลายเป็นพลังเงียบไป

**เงียบฉี่เลย

แต่ส่วนมากที่แอคทีฟ ก็คือแอคทีฟวิ่งตามนักการเมือง เพราะให้คุณให้โทษได้ สิ่งเหล่านี้ไม่ควรมี

**ถ้าเป็นอย่างนี้เจ้ากระทรวงตัวจริงก็น่าสงสาร
 

กระทรวงไหน

**กระทรวงนี้

กระทรวงที่ผมอยู่นี้เหรอ ? โนคอมเมนต์!, แต่ที่จะคอมเมนต์ต่อไปคือผมถูกกลั่นแกล้ง ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงผูกคอตายแล้ว คงเงียบไปแล้ว แต่นี้ไม่ได้ เราถือว่าระเบียบกฎหมายมี เราก็อยากพิสูจน์ว่าคุณธรรมนั้นมีจริงหรือไม่ และในที่สุด สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดก็คือ ระบบคุณธรรมคู่บ้านคู่เมืองของไทยยังอยู่ ใครทำกรรมอย่างไรก็ได้อย่างนั้น ใครทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ส่วนกรรมนั้นทุกวันนี้ไม่ใช่กรรมสนองกรรมธรรมดา ทุกวันนี้ไม่ใช่กรรมติดจรวจ แต่มันเป็นกรรมออนไลน์ มันไวมาก!

**เมื่อ ก.พ.ค. มีมติออกมาอย่างนี้ แล้วอธิบดีคนปัจจุบันจะทำอย่างไร เพราะตามกฎหมายท่านก็ยังเป็นอธิบดีอยู่

ก็แน่นอนว่าผมยังเป็น (อธิบดีกรมการปกครอง) อยู่

**ถ้าอย่างนั้นอธิบดีคนปัจจุบันก็ต้องไปอยู่ที่อื่น

ก็ไม่เป็นไร, เป็นอธิบดีพลัดถิ่นก็ได้ แต่บางทีก็รู้สึกแวบขึ้นมา คือเสียดายเวลา, เสียดายสิ่งที่อยากจะคิดอยากจะทำเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชน

**แสดงว่าช่วงระยะเวลาที่ถูกย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการฯ หรือช่วงที่ไม่อยู่ ไม่มีการทำอะไรขึ้นมาที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน

มีแต่คนด่า, ด่าว่าอันนั้นอยากให้เป็นอย่างนี้ บางทีมีโทรศัพท์มาด่า เขาคงจะเปิดหาเบอร์อธิบดี แล้วบังเอิญมาเจอเบอร์เก่าของผม อยู่ๆ เขาก็ด่าขึ้นมาเลยว่า “ชุ่ย” ผมถามเขาว่าอะไรชุ่ยครับ เขาบอกอธิบดีนั่นแหละชุ่ย ผมถามเขาว่าชุ่ยเรื่องอะไรครับ เขาบอกทุกวันนี้กูใช้บัตรเหลืองอยู่นะ อะไรอย่างนี้ ผมจะตอบยังไง คงจะไปชี้แจงกับคนที่กำลังโมโหยาก นอกจากบอกครับๆ แล้วก็ปิดเครื่องไป เพราะว่าใครทำคนนั้นก็รับไป ใครไม่ทำก็ไม่ต้องรับ

**กลัวไหมว่าถ้ากลับเข้าไปจะโดนสกัดหรือโดนเจาะยาง

เราก็ใช้ยางตันก็ได้ (หัวเราะ) เราไม่ต้องอัดลมก็ได้ ของเรามันยางหนักแน่นอยู่แล้ว

**คิดว่าขบวนการยื้อทำได้ไหม หมายความว่าไม่ให้ท่านกลับเข้าไปนั่งในตำแหน่งเดิม

มันต้องให้สังคมดู ใครทำอะไรก็ทำไปเถอะ ใครกำลังเดินทางไปสู่นรก ใครกำลังเดินทางไปสู่สวรรค์ ประชาชนเขารู้นะทุกวันนี้, เขารู้! โดยเฉพาะอย่ายิ่งสื่อเขารู้มานานแล้ว ท่านก็รู้อยู่แล้วว่าขณะนี้มันเป็นอย่างไร เขารู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง

**แล้วอย่างนี้จะฟ้องกลับนายมานิต (วัฒนเสน) ไหม

ก็ต้องดูนะว่า... ที่ว่าจะฟ้องกลับ คือเราไม่ได้ดูบุคคล เราจะดูว่าถ้าเราไม่ได้รับความเป็นธรรมเราก็ต้องเดินตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่ว่าเรานิ่งเฉย ถ้านิ่งเฉยแล้วมันเหมือนกับว่า ประเทศชาตินี้ไม่ใช่ของข้าคนเดียว อย่างนี้คิดผิดแล้ว ก็ต้องบอกว่าประเทศชาตินี้เป็นของเราด้วย อย่างน้อยที่สุด ให้ประชาชนได้รู้ว่าอะไรมันเกิดขึ้นอย่างไร เพราะว่าเราจะต้องมีจิตสำนึกในการเป็นข้าราชการ

**ตอนนี้ปัญหา 4 ข้อตามที่ร้องเรียนไปเป็นอย่างไรบ้าง อย่างเรื่องคอมพิวเตอร์ หรือเรื่องทุจริตสอบเข้า ร.ร.นายอำเภอ

เรื่องคอมพิวเตอร์นี้ทราบว่า ที่ผมไม่เซ็นแล้วก็ย้ายผมออกมาวันที่ 28 (เมษายน 2553), วันที่ 28 ก็มีการทดสอบระบบคุณภาพของคอมพิวเตอร์สำหรับผู้รับจ้าง ขณะนี้เรื่องนี้ดีเอสไอบอกว่ามีมูลความผิด ก็คือการจัดซื้อจัดจ้างไม่โปร่งใส ที่ผมไม่เซ็นให้ ที่ผมเชื่อแน่ว่าเป็นหนึ่งในจำนวนมูลเหตุในการถูกย้าย ขณะนี้ทราบว่า ป.ป.ช. (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) ตั้งอนุกรรมการไต่สวน ซึ่งมีการอนุมัติ หรือมีการเซ็นสัญญา ถามว่าเช่าหรือยัง ก็คงยังไม่เช่า หยุดอยู่กับที่ ก็ไม่รู้จะเดินหน้าหรือถอยหลังอย่างไรเราก็ไม่ทราบ อันนี้คือเรื่องคอมพิวเตอร์

อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่อง สมาร์ทการ์ด ก็แก้กฎกระทรวงไปแล้ว ใครจะเซ็นหรือไม่เซ็นไม่สำคัญ แต่สำคัญว่าเซ็นไปแล้วประชาชนได้รับประโยชน์ ประเทศชาติมั่นคง ก็ถือว่าโอเค และอีกเรื่องคือเรื่องโรงเรียนนายอำเภอ ตอนนี้ทาง ป.ป.ช. ก็อยู่ระหว่างการสอบว่าใครทุจริต ใครไม่ทุจริต แล้วก็เรื่องอาวุธปืน ก็ผ่านไปแล้วล่ะ เรื่องชุมนุม ก็ไม่มีอะไร แต่เท่าที่ทราบก็คือไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของเราที่จะไปสั่งผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะสมัยนั้นเป็นอธิบดี, อธิบดีสั่งผู้ว่าไม่ได้ เพราะฐานะเท่ากัน

**ตอนนี้ก็ต้องรอเวลาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ผมไม่ได้รอ ก็เพียงแต่ว่าได้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ถึงที่สุดแล้ว ก็บอกตรงๆ ว่าไม่ได้ยึดติดที่ตำแหน่ง แต่ยึดติดที่ประโยชน์ของประชาชนและเพื่อประเทศชาติ, เสียดายเวลา และจะเสียดายไปอีกนานแค่ไหนก็สุดแล้วแต่, แต่ขณะนี้มติ ก.พ.ค. ถือว่าถึงที่สิ้นสุดแล้ว และก็อยู่ในใจของเราเองแล้วว่า เราคืออธิบดีกรมการปกครอง

**แล้วประชาชนเขาจะไม่สับสน หรือ งง กันหรือว่ามีอธิบดีกรมการปกครอง 2 คน

ไม่รู้ประชาชนเขาจะคิดอย่างไร ก็ต้องไปถามเขา

**แล้วการทำงานจะไม่มีปัญหาหรือ

คือตอนนี้เราไม่ได้ทำงานในหน้าที่นั้น เขาก็ทำหน้าที่ไป ผมก็ทำหน้าที่ไป แต่ตอนนี้ผมเคว้ง ไม่มีใครมามอบงานอธิบดีให้ทำ ตอนนี้หัวหน้าผู้ตรวจฯ กับผู้ตรวจกระทรวงฯ เขาบอกว่าแล้วตกลงไม่รู้จะให้ท่านไปตรวจอะไรหรือเปล่า เพราะว่า ก.พ.ค. ชี้ออกมาแล้วว่าท่านเป็นอธิบดี ก็เลยนั่งแต่เสียดายโอกาสที่ผ่านไป เสียดาย, แทนที่จะได้ทำประโยชน์

**แล้วคำพูดของนายกฯ ทำให้มั่นใจมากไหม

อยากทราบเหมือนกันว่าทานนายกฯ พูดว่าอย่างไร เห็นมีคนโทร.มาบอกว่า ท่านนายกฯ บอกว่าจะต้องดำเนินการ

**ท่านนายกฯ บอกว่าต้องคืนตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองให้ตามมติ ก.พ.ค

ได้ยินข่าวว่าจะเอากลับเข้าไปแค่ 1 วินาที เห็นเขาส่งข่าวมาอย่างนั้น กลับเข้าไปแล้วอาจจะย้ายมาเป็นผู้ตรวจฯ รอบสองก็ได้ อยากให้ดีต้องย้ายไปเป็นผู้ว่าเลย ย้ายลงไปเป็นผู้ว่าเลย และในฐานะที่ว่าเป็นคนที่ไม่มีความเหมาะสมก็ต้องย้ายไปเป็นผู้ว่าจังหวัดเล็กๆ สิ เอาแม่ฮ่องสอน เอาจังหวัดที่เล็กที่สุด...

**สุดท้าย ถ้า ก.พ.ค. มีมติว่าท่านไม่ผิด ก็แสดงว่าต้องมีคนถูกลงโทษ

คุณถามฉลาดมาก หมายความว่าจะเจ๊ากันไปไม่ได้ใช่ไหม, จะเจ๊าไม่ได้! คือขึ้นต่อยมวยกันแล้วมันต้องมีผู้แพ้ผู้ชนะ ใช่ไหม, ที่จริงมันก็ต้องเป็นอย่างนั้นแหละ จริงๆ แล้วอย่างเรื่องคอมพิวเตอร์ ถ้าว่าทางโน้นถูก ผมก็ต้องผิด ในทางตรงกันข้าม ถ้าผมไม่ผิด ทางโน้นก็ต้องผิด ต้องรับผิดชอบ อะไรทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่เจ๊าหรอก มันเป็นกฎธรรมชาติ...
กำลังโหลดความคิดเห็น