ตอนแรกพรรคเพื่อไทกำหนดเวลาถล่มกระทรวงมหาดไทยไว้ช่วงไพรม์ไทม์ในวันที่ 2 ของศึกซักฟอก หวังวางให้เป็น “ไฮไลต์” ประจำวัน แต่กว่าจะถึงคิวก็ล่วงเลยเวลากลายเป็นหนังรอบดึกไปเสียฉิบ
แต่ก็ไม่ได้ทำให้ “ปู่จิ้น” ชวรัตน์ ชาญวีรกุล เจ้ากระทรวงคลองหลอด สบายตัวขึ้นเลย เมื่อเจอ 3 ประสาน “ชวลิต วิชยสุทธิ์-ไพจิต ศรีวรขาน-ประชา ประสพดี” ซึ่งถือเป็นมวยดีจากค่ายเพื่อไทย เรียงหน้าถล่มแบบไม่เหลือชิ้นดี ทั้งๆ ที่ข้อมูลในการอภิปรายไม่ต่างจากข่าวที่ปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์และเป็นที่รู้กันทั่วแล้ว
โดยฝ่ายค้านใช้เวลาลำดับเรื่องราวไล่ทุบนายชวรัตน์ยาวนานกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งนายชวรัตน์ทำได้เพียง “ตีกรรเชียง” หลบเลี่ยงที่จะชี้แจงตรงๆ
โดยข้อหาการโยกย้ายที่ไม่ชอบก็อ้างว่า ตัวเองไม่มีอำนาจในการแต่งตั้งโยกย้ายใดๆ ยกเว้นการแต่งตั้งปลัดกระทรวงเท่านั้น และท้ากลับให้ฝ่ายค้านเปิดใบเสร็จหลักฐานซื้อ-ขายเก้าอี้ในกระทรวงคลองหลอดอีกด้วย ซึ่งใครก็รู้ว่าเรื่องพรรค์นี้ไม่มีใบเสร็จแน่
ส่วนเรื่อง “ทุจริตคอมพ์ฉาว” ก็ชี้แจงว่าทำตามระเบียบทุกขั้นตอน พร้อมตอกกลับว่าหากมีความผิดจริง ก็เป็นความผิดเรื้อรังมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลยุคไทยรักไทย ที่มีการประกวดราคาที่แพงกว่าตอนนี้ด้วยซ้ำ แล้วดึงชื่อ สตง. และดีเอสไอมาการันตีหลังจากที่ได้ตั้งคณะกรรมการสอบร่วมกันไปแล้ว
ขณะที่กรณีการคืนตำแหน่งให้ “วงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์” ตามที่คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) มีคำสั่งมา นายชวรัตน์ก็ยังลอยตัวโบ้ยว่าเป็นการดำเนินการของปลัดกระทรวงมหาดไทยคนเก่า และกรณีตั้งคณะกรรมการเพื่อดูวิธีปฏิบัติคืนตำแหน่งแล้ว
รวมทั้งยังตะแบงแบบ “โยนขี้” ให้เพื่อนโดยกล่าวโทษกระทรวงไอซีที ฐานออกบัตรสมาร์ทการ์ดผิดสเปค ทำให้โครงการสะดุด ทั้งที่เรื่องนี้ ครม.และฝ่ายค้านเห็นตรงกันว่า แค่นายชวรัตน์นั่งหัวโต๊ะแก้กฎกระทรวง ปัญหาก็จบ เพราะบัตรสมาร์ทการ์ดที่ว่าไม่ตรงกับกฎกระทรวงมหาดไทยนั้นสเปคสูงกว่าที่กำหนดไว้ด้วยซ้ำ
“ปู่จิ้น” มาหมดสภาพสุดๆ เมื่อนายประชา ส.ส.ปากน้ำ เดินหน้าซัดเรื่องการจัดซื้อที่ดินแพงเกินราคาของ กฟภ. โดยหยิบตัวอย่างที่ จ.กระบี่ ซึ่งตกลงซื้อแพงถึงไร่ละ 8 แสนบาท ทั้งที่เป็นที่ทุรกันดาร รวมมูลค่าแล้วกว่า 70 ล้านบาท แต่นายชวรัตน์ก็ “เด้งเชือก” หลบโดยบอกเพียงได้ตั้งกรรมการสอบเรื่องนี้แล้วเท่านั้น
จนนายประชาโวยเสียงดังว่า อภิปรายมาชั่วโมงกว่า แต่ มท.1 กลับตอบด้วยกระดาษแผ่นเดียว ทำเอานายชวรัตน์เข้าตาจนหันหน้าเลิ่กลั่ก ถึงขนาดต้องส่งสายตาวิงวอนให้ “อาคม เอ่งฉ้วน” ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่และมีคนในครอบครัวร่วมเสนอราคาขายที่ดินให้แก่ กฟภ.ด้วยต้องลุกขึ้นมาช่วยแก้ต่างให้แทน
แม้จะไม่ทำให้เห็นผลถึงเก้าอี้กระเด็น แต่อย่างน้อยก็ต้องปรบมือให้กับ 3 ส.ส.ทีมซักฟอกของพรรคเพื่อไทย ที่เล่นงาน “ปู่จิ้น” จนสิ้นสภาพ
หมดราศีเจ้ากระทรวงเกรดเอกันเลยทีเดียว
แต่ก็ไม่ได้ทำให้ “ปู่จิ้น” ชวรัตน์ ชาญวีรกุล เจ้ากระทรวงคลองหลอด สบายตัวขึ้นเลย เมื่อเจอ 3 ประสาน “ชวลิต วิชยสุทธิ์-ไพจิต ศรีวรขาน-ประชา ประสพดี” ซึ่งถือเป็นมวยดีจากค่ายเพื่อไทย เรียงหน้าถล่มแบบไม่เหลือชิ้นดี ทั้งๆ ที่ข้อมูลในการอภิปรายไม่ต่างจากข่าวที่ปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์และเป็นที่รู้กันทั่วแล้ว
โดยฝ่ายค้านใช้เวลาลำดับเรื่องราวไล่ทุบนายชวรัตน์ยาวนานกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งนายชวรัตน์ทำได้เพียง “ตีกรรเชียง” หลบเลี่ยงที่จะชี้แจงตรงๆ
โดยข้อหาการโยกย้ายที่ไม่ชอบก็อ้างว่า ตัวเองไม่มีอำนาจในการแต่งตั้งโยกย้ายใดๆ ยกเว้นการแต่งตั้งปลัดกระทรวงเท่านั้น และท้ากลับให้ฝ่ายค้านเปิดใบเสร็จหลักฐานซื้อ-ขายเก้าอี้ในกระทรวงคลองหลอดอีกด้วย ซึ่งใครก็รู้ว่าเรื่องพรรค์นี้ไม่มีใบเสร็จแน่
ส่วนเรื่อง “ทุจริตคอมพ์ฉาว” ก็ชี้แจงว่าทำตามระเบียบทุกขั้นตอน พร้อมตอกกลับว่าหากมีความผิดจริง ก็เป็นความผิดเรื้อรังมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลยุคไทยรักไทย ที่มีการประกวดราคาที่แพงกว่าตอนนี้ด้วยซ้ำ แล้วดึงชื่อ สตง. และดีเอสไอมาการันตีหลังจากที่ได้ตั้งคณะกรรมการสอบร่วมกันไปแล้ว
ขณะที่กรณีการคืนตำแหน่งให้ “วงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์” ตามที่คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) มีคำสั่งมา นายชวรัตน์ก็ยังลอยตัวโบ้ยว่าเป็นการดำเนินการของปลัดกระทรวงมหาดไทยคนเก่า และกรณีตั้งคณะกรรมการเพื่อดูวิธีปฏิบัติคืนตำแหน่งแล้ว
รวมทั้งยังตะแบงแบบ “โยนขี้” ให้เพื่อนโดยกล่าวโทษกระทรวงไอซีที ฐานออกบัตรสมาร์ทการ์ดผิดสเปค ทำให้โครงการสะดุด ทั้งที่เรื่องนี้ ครม.และฝ่ายค้านเห็นตรงกันว่า แค่นายชวรัตน์นั่งหัวโต๊ะแก้กฎกระทรวง ปัญหาก็จบ เพราะบัตรสมาร์ทการ์ดที่ว่าไม่ตรงกับกฎกระทรวงมหาดไทยนั้นสเปคสูงกว่าที่กำหนดไว้ด้วยซ้ำ
“ปู่จิ้น” มาหมดสภาพสุดๆ เมื่อนายประชา ส.ส.ปากน้ำ เดินหน้าซัดเรื่องการจัดซื้อที่ดินแพงเกินราคาของ กฟภ. โดยหยิบตัวอย่างที่ จ.กระบี่ ซึ่งตกลงซื้อแพงถึงไร่ละ 8 แสนบาท ทั้งที่เป็นที่ทุรกันดาร รวมมูลค่าแล้วกว่า 70 ล้านบาท แต่นายชวรัตน์ก็ “เด้งเชือก” หลบโดยบอกเพียงได้ตั้งกรรมการสอบเรื่องนี้แล้วเท่านั้น
จนนายประชาโวยเสียงดังว่า อภิปรายมาชั่วโมงกว่า แต่ มท.1 กลับตอบด้วยกระดาษแผ่นเดียว ทำเอานายชวรัตน์เข้าตาจนหันหน้าเลิ่กลั่ก ถึงขนาดต้องส่งสายตาวิงวอนให้ “อาคม เอ่งฉ้วน” ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่และมีคนในครอบครัวร่วมเสนอราคาขายที่ดินให้แก่ กฟภ.ด้วยต้องลุกขึ้นมาช่วยแก้ต่างให้แทน
แม้จะไม่ทำให้เห็นผลถึงเก้าอี้กระเด็น แต่อย่างน้อยก็ต้องปรบมือให้กับ 3 ส.ส.ทีมซักฟอกของพรรคเพื่อไทย ที่เล่นงาน “ปู่จิ้น” จนสิ้นสภาพ
หมดราศีเจ้ากระทรวงเกรดเอกันเลยทีเดียว
