นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการที่ตนเองได้ทำการอภิปราย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ผ่านมานั้น ตนคิดว่านายชวรัตน์ มีพฤติกรรม ส่อว่ากระทำผิดต่อหน้าที่ ไร้ประสิทธิภาพไม่ปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล ทำให้กระทรวงมหาดไทยยุคนี้ตกต่ำที่สุด ซึ่งการทำงานกับงบประมาณที่ได้ตั้งแต่ปี 53 ไม่มีความคืบหน้าใดๆ เพราะฉะนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล จะต้องทำการรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น
ด้านนายไพจิตร ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม กล่าวว่า จากการที่ตนได้อภิปรายถึงความล้มเหลวด้านการบริหารประชาชนจากโครงการบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ของกระทรวงมหาดไทยนั้น ตนคิดว่านายชวรัตน์ เป็นคนที่ไม่มีความรัรับผิดชอบกับปัญหาที่เกิดขึ้น ปล่อยปละละเลยปัญหา และเป็นบุคคลที่มีความบกพร่องในการบริหารงานอย่างแท้จริง ซึ่งตนยังคงมีความกังวลในเรื่องของการใช้บัตรเหลืองในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้น อาจก่อให้เกิดการทุจริตได้ เพราะฉะนั้นตนจึงเรียกร้องให้มีการดำเนินการแก้ไขเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด
นายไพจิตร กล่าวว่า ปัญหาจากภัยแล้งที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา ก็แสดงให้เห็นว่า พรรคภูมิใจไทย มีการทุจริตเงินงบประมาณอย่างชัดเจน เห็นได้จากการจัดสรรเงินลงไปในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และไม่มีการกระจายเงินดังกล่าวไปยังจังหวัดใกล้เคียงเลย
ด้านนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ภายหลังจากการที่ตนได้อภิปรายถึงความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อที่ดินของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ในจ.กระบี่ เนื่องจากมีราคาสูงเกินจริง และมีอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องว่า ตนยังขอยืนยันในหลักฐานที่ตนเสนอไปในสภาฯ และจะเห็นได้ว่านายชวรัตน์ ไม่สามารถตอบคำถามของตนได้เลย เพราะฝ่ายค้านมีหลักฐานในเรื่องนี้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ตนคิดว่ายังมีที่ดินทั่วประเทศอีกหลายแห่งที่ถูกดำเนินการเช่นนี้ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นนายอภิสิทธิ์ จะต้องปฎิบัติตามกฎเหล็ก 9 ข้อ ที่รัฐมนตรีทุกคนจะต้องยินดีให้มีการตรวจสอบ อีกทั้งตนคิดว่า นายอภิสิทธิ์ ควรที่จะมีปรับเปลี่ยนตำแหน่งของนายชวรัตน์ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งด้วย
ส่วนกรณีที่ได้มีผู้ช่วยของนายอรรถวิทย์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปอยู่ในห้องของคณะกรรมการตรวจสอบหลักฐานนั้น ตนคิดว่าสุภาพสตรีคนดังกล่าว อาจจะไม่ได้มีเจตนาจะทุจริต แต่ทั้งนี้ก็เป็นการกระทำที่ไม่สมควร เพราะฉะนั้น นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทราษฎร และนายอภิสิทธิ์ จะต้องดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้
ด้านนายไพจิตร ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม กล่าวว่า จากการที่ตนได้อภิปรายถึงความล้มเหลวด้านการบริหารประชาชนจากโครงการบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ของกระทรวงมหาดไทยนั้น ตนคิดว่านายชวรัตน์ เป็นคนที่ไม่มีความรัรับผิดชอบกับปัญหาที่เกิดขึ้น ปล่อยปละละเลยปัญหา และเป็นบุคคลที่มีความบกพร่องในการบริหารงานอย่างแท้จริง ซึ่งตนยังคงมีความกังวลในเรื่องของการใช้บัตรเหลืองในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้น อาจก่อให้เกิดการทุจริตได้ เพราะฉะนั้นตนจึงเรียกร้องให้มีการดำเนินการแก้ไขเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด
นายไพจิตร กล่าวว่า ปัญหาจากภัยแล้งที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา ก็แสดงให้เห็นว่า พรรคภูมิใจไทย มีการทุจริตเงินงบประมาณอย่างชัดเจน เห็นได้จากการจัดสรรเงินลงไปในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และไม่มีการกระจายเงินดังกล่าวไปยังจังหวัดใกล้เคียงเลย
ด้านนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ภายหลังจากการที่ตนได้อภิปรายถึงความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อที่ดินของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ในจ.กระบี่ เนื่องจากมีราคาสูงเกินจริง และมีอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องว่า ตนยังขอยืนยันในหลักฐานที่ตนเสนอไปในสภาฯ และจะเห็นได้ว่านายชวรัตน์ ไม่สามารถตอบคำถามของตนได้เลย เพราะฝ่ายค้านมีหลักฐานในเรื่องนี้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ตนคิดว่ายังมีที่ดินทั่วประเทศอีกหลายแห่งที่ถูกดำเนินการเช่นนี้ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นนายอภิสิทธิ์ จะต้องปฎิบัติตามกฎเหล็ก 9 ข้อ ที่รัฐมนตรีทุกคนจะต้องยินดีให้มีการตรวจสอบ อีกทั้งตนคิดว่า นายอภิสิทธิ์ ควรที่จะมีปรับเปลี่ยนตำแหน่งของนายชวรัตน์ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งด้วย
ส่วนกรณีที่ได้มีผู้ช่วยของนายอรรถวิทย์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปอยู่ในห้องของคณะกรรมการตรวจสอบหลักฐานนั้น ตนคิดว่าสุภาพสตรีคนดังกล่าว อาจจะไม่ได้มีเจตนาจะทุจริต แต่ทั้งนี้ก็เป็นการกระทำที่ไม่สมควร เพราะฉะนั้น นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทราษฎร และนายอภิสิทธิ์ จะต้องดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้
