ASTVผู้จัดการรายวัน - ประเมินผลกระทบจากข่าวกัมมันตภาพรังสีรั่วในประเทศญี่ปุ่น มีผลด้านจิตวิทยา อาจทำให้นักท่องเที่ยวงดเดินทางไปยังประเทศใกล้เคียงด้วย ขณะที่สถานการณ์ลำดับต่อไปหลังทุกอย่างสงบ เชื่อกระแสชาตินิยม มีผลให้ชาวญี่ปุ่นเดินทางออกนอกประเทศน้อยลง คาด 3 เดือน ไทยสูญรายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท แต่ยังมีลุ้น เป็นพื้นที่รองรับชาวญี่ปุ่นอพยพ
นายอภิชาติ สังฆอารี คณะกรรมการธุรกิจท่องเที่ยว หอการค้าไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์วิกฤติที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ภายหลังการเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 มี.ค.54 อย่างเช่น การเกิดอาฟเตอร์ช็อค และ ระเบิดของเตาปฎิกรณ์นิวเคลียร์ จนทำให้มีสารกัมมันตรังสีรั่วไหล จนเป็นข่าวแพร่ออกไปทั่วโลก ทั้งหมดดังที่กล่าวมาอาจมีผลด้านจิตวิทยาต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่จะเดินทางมายังประเทศในแถบเอเชีย ที่อยู่บริเวณโดยรอบประเทศญี่ปุ่น เช่น จีน เกาหลี ฟิลิปปินส์ เพราเกรงเรื่องของกระแสลมที่จะพัดนำสารกัมมันตรังสีแพร่กระจายออกมา
ถึงแม้รัฐบาลญี่ปุ่นจะควบคุมสถานการณ์ ได้จนเป็นปกติซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นเมื่อใด แต่สิ่งที่จะตามมาลำดับต่อไป คือจำนวนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นจะเดินทางออกเทศนอกประเทสลดลงอย่างแน่นอน เนื่องจากชาวญี่ปุ่นมีความรักชาติสูงและเชื่อว่ารัฐบาลญี่ปุ่นเองก็จะปลุกกระแสชาตินิยมโปรโมตให้ชาวญี่ปุ่นเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเพื่อรัดเข็มขัดและช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ คงมีแต่กลุ่มนักธุรกิจที่ยังคงจำเป็นต้องเดินทางติดต่อธุรกิจในต่างประเทศบ้าง
“เราดูตัวอย่างที่ผ่านมาของชาวญี่ปุ่น ภายหลังเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวญี่ปุ่นเข้าพร้อมใจกันช่วยกอบกู้ประเทศ ให้เจริญเติบโตขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ครั้งนี้ก็คงเช่นเดียวกัน ดังนั้น ทำใจได้เลยว่า ประเทศใดที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศญี่ปุ่น จะต้องมีจำนวนลดลงอย่างแน่นอน ซึ่งได้ย่านเอเชียก็ได้แก่ ไทย จีน และเกาหลี ”
ดังนั้นเมื่อกลับมาประเมินนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นของประเทศไทย นับจากนี้ไป คาดว่าจะสูญเสียตัวเลข นักท่องเที่ยวจากตลาดนี้กว่า 2-3 แสนคน หรือเฉลี่ยเดือนละ 1 แสนคน ซึ่งการชะลอการเดินทางจะต้องไม่น้อยกว่า 3 เดือน สูญเสียโอกาสสร้างรายได้คิดเป็นเงินประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยคิดจากอัตราการใช้จ่ายต่อคนที่ 4 หมื่นบาทต่อทริป จึงเป็นไปได้สูงที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากตลาดญี่ปุ่นปีนี้ คงไม่ถึง 1.2 ล้านคน ตามที่ ตั้งเป้าหมายไว้
อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลญี่ปุ่นยังไม่สามารถควบคุมการรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสีได้ ก็มีแนวโน้มว่ารัฐบาลญี่ปุ่น ต้องจัดเตรียมพื้นที่สำรองให้ประชาชนได้อยู่อาศัย ซึ่งกรณีนี้อาจมีการเปิดเจรจาระหว่างรัฐกับรัฐ โดยรัฐบาลญี่ปุ่นอาจต้องตั้งงบประมาณพิเศษ ในการอพยพผู้คนออกนอกประเทศ ซึ่งหากรูปการณ์เป็นเช่นนี้ มองว่าประเทศไทยก็มีโอกาสสูงที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะมองไว้เป็นประเทศสำหรับรองรับชาวญี่ปุ่นที่จะอพยพมา เพราะเป็นเขตพื้นที่อบอุ่น และมีต้นทุนค่าครองชีพถูกกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
นายอภิชาติ กล่าว ทิ้งท้ายว่า จากการเฝ้าดูสถานการณ์วิกฤตของประเทศญี่ปุ่น ที่จะมากระทบประเทศอื่นๆ ในเอเชียนั้น ล่าสุด ยังไม่มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรป ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่อย่างใด ทุกอย่างคงเป็นปกติ มีเพียง สายการบินเริ่มมีความกังวลต่ออาฟเตอร์ช็อค จึงทยอยยกเลิกเที่ยวบินไปญี่ปุ่นบ้างแล้ว
นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นในพัทยาลด 50%
นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ผลจากภัยพิบัติ ที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ทำให้สถานการณ์นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางเข้ามาเที่ยวประทเศไทย และเมืองพัทยา ลดลงราว 50% จากปีก่อน จะมีชาวญี่ปุ่นเดินทางมาเที่ยวพัทยาราว 7-8 หมื่นคนต่อปี ซึ่งทางเมืองพัทยาจะช่วยกันประคองตลาดนี้ไม่ให้อยู่ในระดับ 5 หมื่นคนในปีนี้
ทั้งนี้จากการเฝ้าดูสถานการณ์นักท่องเที่ยว พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาพัทยา ตลาดยุโรป อังกฤษ เยอรมัน ยังคงมีจำนวนเป็นปกติ แต่มองว่า ประเทศที่อยู่ใกล้กันกับญี่ปุ่นอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ด้วยมีผลทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง เช่น ประเทศ ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลี
นายอภิชาติ สังฆอารี คณะกรรมการธุรกิจท่องเที่ยว หอการค้าไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์วิกฤติที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ภายหลังการเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 มี.ค.54 อย่างเช่น การเกิดอาฟเตอร์ช็อค และ ระเบิดของเตาปฎิกรณ์นิวเคลียร์ จนทำให้มีสารกัมมันตรังสีรั่วไหล จนเป็นข่าวแพร่ออกไปทั่วโลก ทั้งหมดดังที่กล่าวมาอาจมีผลด้านจิตวิทยาต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่จะเดินทางมายังประเทศในแถบเอเชีย ที่อยู่บริเวณโดยรอบประเทศญี่ปุ่น เช่น จีน เกาหลี ฟิลิปปินส์ เพราเกรงเรื่องของกระแสลมที่จะพัดนำสารกัมมันตรังสีแพร่กระจายออกมา
ถึงแม้รัฐบาลญี่ปุ่นจะควบคุมสถานการณ์ ได้จนเป็นปกติซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นเมื่อใด แต่สิ่งที่จะตามมาลำดับต่อไป คือจำนวนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นจะเดินทางออกเทศนอกประเทสลดลงอย่างแน่นอน เนื่องจากชาวญี่ปุ่นมีความรักชาติสูงและเชื่อว่ารัฐบาลญี่ปุ่นเองก็จะปลุกกระแสชาตินิยมโปรโมตให้ชาวญี่ปุ่นเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเพื่อรัดเข็มขัดและช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ คงมีแต่กลุ่มนักธุรกิจที่ยังคงจำเป็นต้องเดินทางติดต่อธุรกิจในต่างประเทศบ้าง
“เราดูตัวอย่างที่ผ่านมาของชาวญี่ปุ่น ภายหลังเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวญี่ปุ่นเข้าพร้อมใจกันช่วยกอบกู้ประเทศ ให้เจริญเติบโตขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ครั้งนี้ก็คงเช่นเดียวกัน ดังนั้น ทำใจได้เลยว่า ประเทศใดที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศญี่ปุ่น จะต้องมีจำนวนลดลงอย่างแน่นอน ซึ่งได้ย่านเอเชียก็ได้แก่ ไทย จีน และเกาหลี ”
ดังนั้นเมื่อกลับมาประเมินนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นของประเทศไทย นับจากนี้ไป คาดว่าจะสูญเสียตัวเลข นักท่องเที่ยวจากตลาดนี้กว่า 2-3 แสนคน หรือเฉลี่ยเดือนละ 1 แสนคน ซึ่งการชะลอการเดินทางจะต้องไม่น้อยกว่า 3 เดือน สูญเสียโอกาสสร้างรายได้คิดเป็นเงินประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยคิดจากอัตราการใช้จ่ายต่อคนที่ 4 หมื่นบาทต่อทริป จึงเป็นไปได้สูงที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากตลาดญี่ปุ่นปีนี้ คงไม่ถึง 1.2 ล้านคน ตามที่ ตั้งเป้าหมายไว้
อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลญี่ปุ่นยังไม่สามารถควบคุมการรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสีได้ ก็มีแนวโน้มว่ารัฐบาลญี่ปุ่น ต้องจัดเตรียมพื้นที่สำรองให้ประชาชนได้อยู่อาศัย ซึ่งกรณีนี้อาจมีการเปิดเจรจาระหว่างรัฐกับรัฐ โดยรัฐบาลญี่ปุ่นอาจต้องตั้งงบประมาณพิเศษ ในการอพยพผู้คนออกนอกประเทศ ซึ่งหากรูปการณ์เป็นเช่นนี้ มองว่าประเทศไทยก็มีโอกาสสูงที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะมองไว้เป็นประเทศสำหรับรองรับชาวญี่ปุ่นที่จะอพยพมา เพราะเป็นเขตพื้นที่อบอุ่น และมีต้นทุนค่าครองชีพถูกกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
นายอภิชาติ กล่าว ทิ้งท้ายว่า จากการเฝ้าดูสถานการณ์วิกฤตของประเทศญี่ปุ่น ที่จะมากระทบประเทศอื่นๆ ในเอเชียนั้น ล่าสุด ยังไม่มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรป ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่อย่างใด ทุกอย่างคงเป็นปกติ มีเพียง สายการบินเริ่มมีความกังวลต่ออาฟเตอร์ช็อค จึงทยอยยกเลิกเที่ยวบินไปญี่ปุ่นบ้างแล้ว
นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นในพัทยาลด 50%
นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ผลจากภัยพิบัติ ที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ทำให้สถานการณ์นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางเข้ามาเที่ยวประทเศไทย และเมืองพัทยา ลดลงราว 50% จากปีก่อน จะมีชาวญี่ปุ่นเดินทางมาเที่ยวพัทยาราว 7-8 หมื่นคนต่อปี ซึ่งทางเมืองพัทยาจะช่วยกันประคองตลาดนี้ไม่ให้อยู่ในระดับ 5 หมื่นคนในปีนี้
ทั้งนี้จากการเฝ้าดูสถานการณ์นักท่องเที่ยว พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาพัทยา ตลาดยุโรป อังกฤษ เยอรมัน ยังคงมีจำนวนเป็นปกติ แต่มองว่า ประเทศที่อยู่ใกล้กันกับญี่ปุ่นอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ด้วยมีผลทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง เช่น ประเทศ ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลี
