xs
xsm
sm
md
lg

KTBมั่นใจสินเชื่อโต7-8%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) กล่าวว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น คงมีผลต่อการส่งออกของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก(เอสเอ็มอี)ของธนาคารในส่วนที่มีการส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นบ้าง แต่มีสัดส่วนที่ไม่มากนัก จึงเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อภาพรวมของธนาคาร
"เป็นเรื่องที่น่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ผลกระทบต่อแบงก์นั้น เท่าที่ทราบขณะนี้พบว่าออเดอร์สั่งสินค้าเริ่มมีการหยุดชะงักชั่วคราว แต่ในส่วนลูกค้าธนาคารยังไม่ได้มีการยุติการผลิตแต่อย่างใด เนื่องจากเชื่อว่าเมื่อประเทศมีการฟื้นฟูจำเป็นต้องใช้สินค้าที่มากขึ้น และน่าจะต้องสั่งสินค้าของประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่การลงทุนระยะยาวนั้นจะชะลอลงระยะหนึ่ง"
ส่วนภาคการท่องเที่ยวและโรงแรมของไทยเชื่อว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวมากนัก แต่หากมีลูกค้าในกลุ่มโรงแรมได้รับผลกระทบ ธนาคารก็จะพิจารณาช่วยเหลทอเป็นรายกรณี
**คงเป้าสินเชื่อปีนี้โต7-8%**
สำหรับการขยายตัวของสินเชื่อรวมปีนี้จะยังเป็นไปตามเป้าหมายที่เติบโตอย่างน้อย 7-8% โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มูลค่ายอดสินเชื่อเพิ่มสูงขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ และดีกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลจากการที่ธนาคารได้มีการอนุมัติสินเชื่อขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก และแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อขนาดใหญ่ปีนี้ ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะทำให้สัดส่วนสินเชื่อภาคเอกชนจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสัดส่วนสินเชื่อภาครัฐ โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาจะมีการปล่อยสินเชื่อขนาดใหญ่มากขึ้นกว่า 4-5 หมื่นล้านบาท แต่ก็มีสินเชื่อภาครัฐชำระคืนมาประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท
ด้านราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับเพิ่มขึ้น ว่าโดยภาพรวมคงไม่กระทบต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) เนื่องจาก NPL จะเกิดขึ้นในภาวะที่เศรษฐกิจที่ไม่ดี แต่ในขณะนี้เศรษฐกิจไทยยังคงสามารถเติบโตได้ดี โดยคาดว่าในปีนี้จีดีพี จะอยู่ที่ประมาณ 4% ดังนั้นจึงไม่น่าเป็นห่วงผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว
"การปรับขึ้นดอกเบี้ยก็เชื่อว่าไม่กระทบต่อรายย่อย เนื่องจากวิธีการชำระหนี้ยังคงมีอัตราเท่าเดิมทุกเดือน หากลูกค้ายังไม่พร้อมที่เพิ่มค่างวด ก็จะชำระเท่าเดิมแต่เป็นส่วนเงินต้นลดลง ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และยืดระยะเวลาชำระหนี้ออกไป"
**ยันไม่รีบขายหุ้นนกแอร์**
กรณีความคืบหน้าการซื้อขายหุ้นสายการบิน นกแอร์ ว่า ขณะนี้ได้หยุดเจรจาไปแล้ว โดยที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายได้มีการเตรียมข้อมูลด้านของโมเดลราคา โดยพบว่าตัวเลขคาดการณ์กำไรต่างๆ ไม่แตกต่างกันมากนัก และการประเมินราคาเบื้องต้นออกมาในรูปแบบที่เท่ากัน แต่ทั้งนี้ในส่วนของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ซึ่งเป็นผู้ขอซื้อได้ยื่นข้อเสนอที่ต้องการมีส่วนลด 20% เป็นอย่างน้อย ซึ่งธนาคารมองว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับลดราคา เนื่องจากยังไม่มีความจำเป็นต้องรีบขายหุ้นดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น