นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มทิสโก้ กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ปริมาณความต้องการสินเชื่ออาจจะชะลอตัวลงบ้าง จากวิกฤตน้ำท่วมที่เกิดขึ้นหลายพื้นที่ในประเทศไทย ซึ่งธนาคารเน้นการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ พบว่าเริ่มชะลอตัวลง เห็นได้จากบรรยากาศในงานรถยนต์คันแรกของรัฐบาลที่ไม่มีผู้ร่วมงานมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงเป้าหมายสินเชื่อรวมในปีนี้เติบโตขึ้น 25% โดยยอดสินเชื่อ 9 เดือนที่ผ่านมามีการเติบโตแล้วที่ 21%
นอกจากนี้ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ในช่วงสิ้นปีอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากโดยปกติจะมีความต้องการสินเชื่อในกลุ่มเกษตรกรมากขึ้น แม้ว่าในบางพื้นที่จะเผชิญกับปัญหาน้ำท่วม แต่จากปริมาณน้ำฝนในภาคอีสานที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นและสามารถทดแทนในส่วนที่เสียหายได้
ด้านส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM)ในขณะนี้เริ่มทรงตัวมากขึ้น โดยคาดว่าในสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 3.5% ซึ่งเป็นระดับ ณ สิ้นไตรมาส 3/54 ขณะที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยก็น่าจะทรงตัวเช่นกัน
**ยันลูกค้านิคมฯยังไม่กระทบ**
สำหรับกรณีที่เกิดอุทกภัยในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดอยุธยานั้น ขณะนี้ธนาคารยังไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีที่น้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากธนาคารไม่ได้มีการปล่อยสินเชื่อให้แก่นิคมในพื้นที่ดังกล่าว แต่ได้มีการปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มลูกค้าในพื้นที่นิคมฯมาบตาพุดและนิคมฯเหมราช ซึ่งยังไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากยังไม่มีภาวะน้ำท่วมเข้าพื้นที่แต่อย่างใด
นางอรนุชกล่าวอีกว่า ในส่วนของลูกค้าเช่าซื้อรถยนต์ซึ่งเป็นสินเชื่อหลักของธนาคารนั้น ขณะนี้พบว่ามีลูกค้าที่ได้รับผลกระทบประมาณ 200 ราย ซึ่งจะมีมาตรการออกมาช่วยเหลือเป็นขั้นตามความเหมาะสม อาทิ มาตรการพักชำระหนี้ และมาตรการยืดเวลาชำระหนี้ เป็นต้น
"ลูกค้าสินเช่าซื้อรถยนต์ของธนาคารนั้น ก็มีบางส่วนที่กระทบ แต่จากจำนวนผลกระทบที่ไม่มากนัก จึงไม่มีความเป็นห่วงต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ในอนาคต จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 1%"
และขณะนี้มีสาขาของธนาคารที่ได้รับผลกระทบและตั้งอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมได้มีการสั่งปิด 2 สาขา ได้แก่ สาขาในจังหวัดอยุธยาและสาขาในจังหวัดนครสวรรค์
ทั้งนี้ กลุ่มทิสโก้ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2554 มีกำไรสุทธิ 898 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 2,590 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ในช่วงสิ้นปีอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากโดยปกติจะมีความต้องการสินเชื่อในกลุ่มเกษตรกรมากขึ้น แม้ว่าในบางพื้นที่จะเผชิญกับปัญหาน้ำท่วม แต่จากปริมาณน้ำฝนในภาคอีสานที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นและสามารถทดแทนในส่วนที่เสียหายได้
ด้านส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM)ในขณะนี้เริ่มทรงตัวมากขึ้น โดยคาดว่าในสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 3.5% ซึ่งเป็นระดับ ณ สิ้นไตรมาส 3/54 ขณะที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยก็น่าจะทรงตัวเช่นกัน
**ยันลูกค้านิคมฯยังไม่กระทบ**
สำหรับกรณีที่เกิดอุทกภัยในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดอยุธยานั้น ขณะนี้ธนาคารยังไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีที่น้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากธนาคารไม่ได้มีการปล่อยสินเชื่อให้แก่นิคมในพื้นที่ดังกล่าว แต่ได้มีการปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มลูกค้าในพื้นที่นิคมฯมาบตาพุดและนิคมฯเหมราช ซึ่งยังไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากยังไม่มีภาวะน้ำท่วมเข้าพื้นที่แต่อย่างใด
นางอรนุชกล่าวอีกว่า ในส่วนของลูกค้าเช่าซื้อรถยนต์ซึ่งเป็นสินเชื่อหลักของธนาคารนั้น ขณะนี้พบว่ามีลูกค้าที่ได้รับผลกระทบประมาณ 200 ราย ซึ่งจะมีมาตรการออกมาช่วยเหลือเป็นขั้นตามความเหมาะสม อาทิ มาตรการพักชำระหนี้ และมาตรการยืดเวลาชำระหนี้ เป็นต้น
"ลูกค้าสินเช่าซื้อรถยนต์ของธนาคารนั้น ก็มีบางส่วนที่กระทบ แต่จากจำนวนผลกระทบที่ไม่มากนัก จึงไม่มีความเป็นห่วงต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ในอนาคต จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 1%"
และขณะนี้มีสาขาของธนาคารที่ได้รับผลกระทบและตั้งอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมได้มีการสั่งปิด 2 สาขา ได้แก่ สาขาในจังหวัดอยุธยาและสาขาในจังหวัดนครสวรรค์
ทั้งนี้ กลุ่มทิสโก้ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2554 มีกำไรสุทธิ 898 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 2,590 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน