ASTVผู้จัดการรายวัน-"อดิศร เพียงเกษ"แกนนำแดงหนีคุก ประเดิมมอบตัวรายแรก อ้างไม่ผิด 9 เดือนอยู่ใน กทม."ธาริต"อ้างมาตรฐานศาล ให้ประกันตัว 6 แสน ทำขู่ถอนประกันแกนนำแดงร่วมม็อบ 12 มี.ค."อารี ไกรนรา"หัวหน้าการ์ด นปช.นัดมอบตัวเพิ่มวันนี้
วานนี้(10 มี.ค.)เวลา 10.00 น.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ นายอดิศร เพียงเกษ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และแกนนำกลุ่ม นปช. พร้อมด้วยนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ และทนายความส่วนตัวได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีก่อการร้าย โดยยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด จำนวน 6 แสนบาท เพื่อประกันตัว
นายอดิศร กล่าวว่า ตนเดินทางมามอบตัว เนื่องจากเห็นว่าประเทศเข้าสู่ภาวะปกติ จึงติดต่อเข้ามอบตัวตามกฎหมาย โดยได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด จำนวน 6 แสนบาท ซึ่งในวันที่ 28 มี.ค. ตนจะเดินทางมาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนอีกครั้ง ซึ่งได้เตรียมเอกสารต่างๆ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ส่วนแกนนำกลุ่ม นปช. รายอื่นหลบหนีไปอยู่ที่ใดนั้น ตนไม่ทราบ ซึ่งตอนนี้เอาแค่ตัวเองรอดก็พอแล้ว
นายอดิศร กล่าวต่อไปว่า ขณะที่หายไป 9 เดือนนั้น ตนไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศตามที่เป็นข่าว ซึ่งตนอยู่ในกรุงเทพฯตลอด เพราะไม่ได้กระทำความผิดอะไร เนื่องจากได้ยุติการชุมนุมเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 53 ซึ่งคิดว่าคนที่ยังหลบหนีควรเดินทางมามอบตัวได้แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมไม่มอบตัวพร้อมแกนนำ นปช. หลังเกิดเหตุการณ์ตั้งแต่แรก นายอดิศร กล่าวว่า กรณีที่ไม่เดินทางมอบตัว เนื่องจากไม่อยากถูกคุมขังในเรือนจำเช่นเดียวกับแกนนำทั้ง 7 คน
เมื่อถามว่า ในวันที่ 12 มี.ค. จะเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช. หรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า ตนจะไม่เดินทางไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดง เพราะยังอยากอยู่เงียบ ๆ คนเดียว เพราะอยากให้บ้านเมืองเดินทางเข้าสู่ความปรองดอง โดยสิ่งใดที่หนักก็ไม่ทำให้หนัก เพื่อจะเดินไปได้ด้วยความจริงใจ
**"ธาริต"อ้างศาลให้ประกัน 6 แสน
นายธาริต กล่าวว่า จากการสอบสวนนายอดิศร ให้การปฏิเสธ แต่แจ้งว่าจะมาให้การเพิ่มเติมอีกครั้ง สำหรับการขอประกันตัวพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาได้ติดต่อเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนด้วยตนเอง ประกอบกับศาลอาญาได้มีคำสั่งให้ประกันตัวแกนนำคนอื่น ๆ แล้ว ดังนั้น ในชั้นนี้ดีเอสไอจึงอนุญาตให้ประกันตัว โดยพิจารณาหลักทรัพย์เช่นเดียวกับศาลในวงเงินประกัน 600,000 บาท และกำหนดเงื่อนไขการประกันตัวเช่นเดียวกับศาล และเนื่องจากคดีนี้ดีเอสไอได้ส่งสำนวนไปยังสำนักงานอัยการคดีพิเศษแล้ว จึงนัดส่งตัวนายอดิศรให้อัยการในวันที่ 29 มี.ค.นี้
**เดินสายมอบตัวคดีหมิ่น"ชวน"
ต่อมาเวลา 11.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายอดิศร เพียงเกษ ได้เข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 กรณีที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งความดำเนินคดี ในข้อหา “หมิ่นประมาท” ที่ สน.ชนะสงคราม หลังจากได้ขึ้นเวทีปราศรัย เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2551 ที่บริเวณสนามหลวง โดยมี พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) มาต้อนรับ หลังจากนั้น นายอดิศร เข้ารับทราบข้อหากับ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) รับผิดชอบงานด้านกฎหมายและสอบสวน เพื่อแจ้งข้อหาและสอบปากคำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงที่มีคดีก่อการร้ายติดตัวได้หลบหนีไปไหน นายอดิศร กล่าวว่า ตนไม่ได้หลบหนีไปไหน แค่หลบอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่ง 10 ปี ตนเชื่อว่าก็ยังหาตนเองไม่เจอ แต่เหตุที่ตนไม่เข้ามามอบตัวตั้งแต่แรก เพราะไม่อยากติดคุกเหมือนแกนนำคนอื่นๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอดิศร ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อหา โดยแจ้งว่าจะมาให้การเพิ่มเติมในวันต่อไป เพื่อขอรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ภายใน 30 วัน และได้ใช้หลักทรัพย์เงินสด 200,000 บาท ประกันตัว
**หัวหน้าการ์ด นปช. นัดมอบตัวต่อดีเอสไอวันนี้
แหล่งข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รับการประสานจากนายอารี ไกรนรา หัวหน้าการ์ดนปช. ซึ่งทำหน้าที่ดูแลการ์ดนปช.และเวทีการชุมนุมของคนเสื้อแดง ซึ่งจะเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ในวันที่ 11 มี.ค. เวลา 09.00 น. และมีแนวโน้มที่แกนนำคนเสื้อแดงจะทยอยเดินทางเข้ามอบตัวเร็วๆนี้ เนื่องจากมีความชัดเจนว่า ดีเอสไอ จะให้ประกันตัวกับผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัวต่อสู้คดี สำหรับผู้ต้องหาในคดีก่อการร้ายที่ยังหลบหนีหมายจับ ประกอบด้วย พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายพายัพ ปั้นเกตุ นายอารี ไกรนรา และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ส่วนผู้ต้องหาในคดีร่วมกันบุกรุกรัฐสภา ขู่บังคับรัฐบาล ปราศรัยปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งยังไม่เข้ามอบตัว ประกอบด้วย นายธนกฤต ชะเอมน้อม หรือนายวันชนะ เกิดดี นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายพายัพ ปั้นเกตุ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายวิสา คัญทัพ นางไพจิตร อักษรณรงค์ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย นางกัญญภัค มณีจักร หรือดีเจอ้อม
**ธาริตหวั่นแดงชุมนุม 12 มี.ค.ยืดเยื้อ
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าวว่า การชุมนุมใหญ่ ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ของนปช. ทางการข่าวของดีเอสไอ มีความเป็นห่วงว่า การชุมนุมครั้งนี้อาจจะยืดเยื้อยาวเหมือนดังเช่นที่เคยชุมนุมเมื่อปีก่อนได้ เพราะจากสถานการณ์หลายอย่างเอื้ออำนวยให้คนเสื้อแดง รุกหนักอีกครั้งได้ ซึ่งหากมีการชุมนุมยืดเยื้อจริง ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีเหตุวุ่นวายปั่นป่วนเกิดขึ้นจากมือที่สาม ซึ่ง ดีเอสไอ ได้เฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิดแล้ว
สำหรับ 7 แกนนำ ที่ศาลมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวนั้น หากเข้าร่วมการชุมนุม และมีการปราศรัยทำให้เกิดความเสียหาย และส่วนตัวคิดว่า ทั้ง 7 คนเข้าข่ายผิดเงื่อนไขของศาลอย่างชัดเจนแล้ว ซึ่งหากว่า วันที่ 12 มี.ค.นี้ มีการกระทำการใดๆ ที่ขัดต่อคำสั่งศาล ก็จะยื่นร้องต่อศาล ให้เพิกถอนการประกันตัวต่อไป
**"นายกฯ"ยันรัฐ-กองทัพสัมพันธ์ยังดี
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ฝ่ายค้านอ้างมีคลิปเด็ดการสลายการชุมนุม เรื่องนี้ก็ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง ส่วนที่ก่อนหน้านี้ทั้ง ผบ.ทบ. และ ผบ.ทอ. ออกมาระบุว่า นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทยพูดเท็จนั้น เจ้าหน้าที่ก็ถูกกล่าวหลายครั้ง ฝ่ายค้านเองก็พยายามนำขยายผล อะไรเป็นประโยชน์ก็เอามาขยาย อะไรที่ไม่เป็นคุณก็กล่าวหาคนอื่น ดังนั้นเจ้าหน้าที่เองก็มีสิทธิที่จะมาให้ข้อมูลที่ปกป้องตัวเอง ข้อมูลเรื่องสลายการชุมนุมเคยนั้นก็เคยมีการอภิปรายและนายจตุพรก็พยายามพูดไม่จริงซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ผู้สื่อข่าวถามว่านายจตุพรต้องการให้แตกแยกในทุกเรื่องหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า "ดูเหมือนจะตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น คุณจตุพร พูดในประเด็นการเมืองเพื่อขยายความขัดแย้ง ผมอยากให้ประชาชนฟังอภิปรายและพิจารณาว่าจะเลือกพรรคการเมืองที่แก้ปัญหา พาประเทศเดินหน้าไปได้ หรือจะเลือกพรรคการเมืองที่วนเวียนนอยู่ในความขัดแย้ง"นายอภิสิทธิ์กล่า
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ขณะนี้มีกลุ่มคนพยายามพูดให้กองทัพและรัฐบาลแตกแยกเพื่อหวังผลในปฏิวัติหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มีบางคนพยายามให้เป็นเช่นนั้น แต่ยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพและรัฐบาลยังดี ตลอดที่ตนทำงานมาสองปี แม้จะมีความเห็นที่ไม่ตรงกันบ้าง แต่ทุกฝ่ายก็ทำตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง
**"สุเทพ"ชี้เสื้อแดงใช้ พคท.โมเดล จัดตั้งมวลชน
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ระบุว่าจะขอถอนประกัน7 แกนนำคนเสื้อแดง รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ตนไม่ทราบ การให้ประกันเป็นดุลยพินิจของศาล โดยศาลมีเงื่อนไขต้องไม่ไปก่อความวุ่นวาย ถ้าเขาปฏิบัติตามนั้นคงไปคัดค้านเพิกถอนไม่ได้ แต่ถ้าไปทำผิดเงื่อนไข เช่นศาลห้ามไม่ให้ขึ้นเวทีไปปลุกระดมประชาชน แต่ไปขึ้นอย่างนี้ก็มีเหตุผลที่จะไปถอนประกัน แต่ทั้งนี้ตนไม่ได้ติดตามว่าเงื่อนไขที่ศาลกำหนดมีกี่ข้ออย่างไรบ้าง และหลังจากนั้นเขาทำอะไรบ้าง ตนไม่ได้ดูจริง ๆ ส่วนที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ออกมายอมรับว่าการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ตนว่าการจัดตั้งของเขาดีได้ผล ยุทธวิธีที่แกนนำคนเสื้อแดงใช้ มันเหมือนสิ่งที่พรรคคอมมิวนิสต์ทำในอดีต เพียงแต่ในสมัยก่อนที่พรรคคอมมิวนิสต์ทำในการปรับทุกข์ผูกมิตรจัดตั้งสร้างเครือข่ายเขาต้องแอบทำอยู่ใต้ดิน เพราะมีพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์คอยป้องกันเอาไว้ แต่วันนี้คอมมิวนิสต์ส่วนนั้นก็กลับเข้ามานั่งในวอร์รูมวางแผนดำเนินการ โดยมีจุดมุ่งหมายเดิมเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศไทย อย่างที่เคยคิดตอนเป็นคอมมิวนิสต์ วันนี้กลับมาใช้อิทธิพลและเงินของพ.ต.ท.ทักษิณ ( ชินวัตร ) ทำกันอย่างเปิดเผย เพราะกฎหมายคอมมิวนิสต์ไม่มี
**เทือก ปัดพูดเสื้อแดงวิ่งใส่กระสุนปืน
นายสุเทพ กล่าวถึงกรณีที่มีการฟอร์เวิร์ดเมลล์ที่ระบุคำพูดของตนเองที่พูดระหว่างการสัมนาของยุวประชาธิปัตย์ ถึงการเสียชีวิตของคนเสื้อแดงในการชุมนุมที่ผ่านมาว่าทหารไม่ได้ยิง แต่ผู้ชุมนุมวิ่งเข้ามาหาลูกกระสุนเอง ว่า ตนไม่เคยไปพูดที่ไหน ทุกวันตนจะพูดกับสื่อที่ทำเนียบที่เดียวเท่านั้น และวันละครั้งเท่านั้น ตนไม่เที่ยวพูดพร่ำเพรื่อ ตนเข้าใจว่าคนที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้คงจะพยายามบิดเบือน สิ่งที่ตนให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบวันใด วันหนึ่ง เกี่ยวกับ 91 ศพของคนเสื้อแดง ซึ่งได้ชี้แจงไปว่าทหารไม่ได้ทำไม่ได้เข้าไปสลายหรือถือปืนไล่ฆ่าประชาชน แต่ส่วนหนึ่งที่มีประชาชนเสียชีวิตเพราะมีการตั้งป้อม ตั้งด่านของเจ้าหน้าที่แต่มีการเข้ามาโจมตี ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ต้องป้องกันด่านหรือป้อมไว้
**คาด 12 มี.ค.แดง28,000
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ศอ.รส. แถลงผลการประชุม ศอ.รส. ว่า กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 12 มี.ค.นี้ว่า เชื่อว่าวันดังกล่าวจะมีกลุ่มคนเสื้อแดงมาร่วมการชุมนุมจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้มีการรวมตัวกันประมาณ 28,000 คน แต่ครั้งนี้น่าจะมากกว่าเดิมอีก 10,000 คน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความเข้มงวดกับบุคคลที่จะเข้ามาชุมนุม โดยจะมีการประสานไปยังแกนนำเพื่อกำหนดจุดตรวจค้น และตั้งจุดตรวจโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ไม่หวังดีนำอาวุธเข้ามาเพื่อสร้างความวุ่นวาย
**ทบ.สั่งจับตาแดงอยู่ยาว
วันเดียวกันพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ได้เป็นประธานการประชุม ผู้บังคับหน่วยขึ้นตรง ทบ.โดยแจ้งให้ผู้บังคับหน่วยทุกคนเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะการชุมนุมของหลายกลุ่ม ณ เวลานี้ โดยคาดว่าสถานการณ์ต่อจากนี้ไปจะสู่จุดของความขัดแย้งที่รุนแรง เพราะการชุมนุมไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม นปช. เสื้อแดง กลุ่มพันธมิตรฯ กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ ที่ต่างพยายามหายุทธวิธีให้รัฐบาลและกองทัพแตกความสามัคคีกัน รวมถึงมีการปลุกปั้นยั่วยุให้ทหารเข้าไปรัฐประหารซึ่งถือว่าเป็น อันตรายอย่างมาก
ขณะที่ยังมีการประเมินการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่ 12 มี.ค. โดยทางกองทัพคาดว่าน่าจะมีคนเสื้อแดงเข้าร่วมชุมนุมไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นคน และการชุมนุมวันดังกล่าวทางแกนนำทั้งหมดที่ได้รับปล่อยตัวมาจะขึ้นร่วมปราศรัย โดยจะมีกลุ่มคนเสื้อแดงที่ต้องการมาพบกับแกนนำเหล่านี้ และมีกระแสข่าวว่าทางพรรคเพื่อไทยจะระดมคนเข้าร่วมชุมนุมอีกส่วน และได้สั่งให้จับตาการการปราศรัยของ แกนนำ นปช.บนเวที ที่อาจจะส่อไปในเชิงพาดพิงสถาบัน นอกจากนี้ กอ.รมน. ได้มอบหมายให้กองทัพบก ตั้งวอร์รูมขึ้นมาติดตามการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างใกล้ชิด.
วานนี้(10 มี.ค.)เวลา 10.00 น.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ นายอดิศร เพียงเกษ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และแกนนำกลุ่ม นปช. พร้อมด้วยนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ และทนายความส่วนตัวได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีก่อการร้าย โดยยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด จำนวน 6 แสนบาท เพื่อประกันตัว
นายอดิศร กล่าวว่า ตนเดินทางมามอบตัว เนื่องจากเห็นว่าประเทศเข้าสู่ภาวะปกติ จึงติดต่อเข้ามอบตัวตามกฎหมาย โดยได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด จำนวน 6 แสนบาท ซึ่งในวันที่ 28 มี.ค. ตนจะเดินทางมาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนอีกครั้ง ซึ่งได้เตรียมเอกสารต่างๆ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ส่วนแกนนำกลุ่ม นปช. รายอื่นหลบหนีไปอยู่ที่ใดนั้น ตนไม่ทราบ ซึ่งตอนนี้เอาแค่ตัวเองรอดก็พอแล้ว
นายอดิศร กล่าวต่อไปว่า ขณะที่หายไป 9 เดือนนั้น ตนไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศตามที่เป็นข่าว ซึ่งตนอยู่ในกรุงเทพฯตลอด เพราะไม่ได้กระทำความผิดอะไร เนื่องจากได้ยุติการชุมนุมเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 53 ซึ่งคิดว่าคนที่ยังหลบหนีควรเดินทางมามอบตัวได้แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมไม่มอบตัวพร้อมแกนนำ นปช. หลังเกิดเหตุการณ์ตั้งแต่แรก นายอดิศร กล่าวว่า กรณีที่ไม่เดินทางมอบตัว เนื่องจากไม่อยากถูกคุมขังในเรือนจำเช่นเดียวกับแกนนำทั้ง 7 คน
เมื่อถามว่า ในวันที่ 12 มี.ค. จะเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช. หรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า ตนจะไม่เดินทางไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดง เพราะยังอยากอยู่เงียบ ๆ คนเดียว เพราะอยากให้บ้านเมืองเดินทางเข้าสู่ความปรองดอง โดยสิ่งใดที่หนักก็ไม่ทำให้หนัก เพื่อจะเดินไปได้ด้วยความจริงใจ
**"ธาริต"อ้างศาลให้ประกัน 6 แสน
นายธาริต กล่าวว่า จากการสอบสวนนายอดิศร ให้การปฏิเสธ แต่แจ้งว่าจะมาให้การเพิ่มเติมอีกครั้ง สำหรับการขอประกันตัวพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาได้ติดต่อเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนด้วยตนเอง ประกอบกับศาลอาญาได้มีคำสั่งให้ประกันตัวแกนนำคนอื่น ๆ แล้ว ดังนั้น ในชั้นนี้ดีเอสไอจึงอนุญาตให้ประกันตัว โดยพิจารณาหลักทรัพย์เช่นเดียวกับศาลในวงเงินประกัน 600,000 บาท และกำหนดเงื่อนไขการประกันตัวเช่นเดียวกับศาล และเนื่องจากคดีนี้ดีเอสไอได้ส่งสำนวนไปยังสำนักงานอัยการคดีพิเศษแล้ว จึงนัดส่งตัวนายอดิศรให้อัยการในวันที่ 29 มี.ค.นี้
**เดินสายมอบตัวคดีหมิ่น"ชวน"
ต่อมาเวลา 11.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายอดิศร เพียงเกษ ได้เข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 กรณีที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งความดำเนินคดี ในข้อหา “หมิ่นประมาท” ที่ สน.ชนะสงคราม หลังจากได้ขึ้นเวทีปราศรัย เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2551 ที่บริเวณสนามหลวง โดยมี พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) มาต้อนรับ หลังจากนั้น นายอดิศร เข้ารับทราบข้อหากับ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) รับผิดชอบงานด้านกฎหมายและสอบสวน เพื่อแจ้งข้อหาและสอบปากคำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงที่มีคดีก่อการร้ายติดตัวได้หลบหนีไปไหน นายอดิศร กล่าวว่า ตนไม่ได้หลบหนีไปไหน แค่หลบอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่ง 10 ปี ตนเชื่อว่าก็ยังหาตนเองไม่เจอ แต่เหตุที่ตนไม่เข้ามามอบตัวตั้งแต่แรก เพราะไม่อยากติดคุกเหมือนแกนนำคนอื่นๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอดิศร ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อหา โดยแจ้งว่าจะมาให้การเพิ่มเติมในวันต่อไป เพื่อขอรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ภายใน 30 วัน และได้ใช้หลักทรัพย์เงินสด 200,000 บาท ประกันตัว
**หัวหน้าการ์ด นปช. นัดมอบตัวต่อดีเอสไอวันนี้
แหล่งข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รับการประสานจากนายอารี ไกรนรา หัวหน้าการ์ดนปช. ซึ่งทำหน้าที่ดูแลการ์ดนปช.และเวทีการชุมนุมของคนเสื้อแดง ซึ่งจะเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ในวันที่ 11 มี.ค. เวลา 09.00 น. และมีแนวโน้มที่แกนนำคนเสื้อแดงจะทยอยเดินทางเข้ามอบตัวเร็วๆนี้ เนื่องจากมีความชัดเจนว่า ดีเอสไอ จะให้ประกันตัวกับผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัวต่อสู้คดี สำหรับผู้ต้องหาในคดีก่อการร้ายที่ยังหลบหนีหมายจับ ประกอบด้วย พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายพายัพ ปั้นเกตุ นายอารี ไกรนรา และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ส่วนผู้ต้องหาในคดีร่วมกันบุกรุกรัฐสภา ขู่บังคับรัฐบาล ปราศรัยปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งยังไม่เข้ามอบตัว ประกอบด้วย นายธนกฤต ชะเอมน้อม หรือนายวันชนะ เกิดดี นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายพายัพ ปั้นเกตุ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายวิสา คัญทัพ นางไพจิตร อักษรณรงค์ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย นางกัญญภัค มณีจักร หรือดีเจอ้อม
**ธาริตหวั่นแดงชุมนุม 12 มี.ค.ยืดเยื้อ
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าวว่า การชุมนุมใหญ่ ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ของนปช. ทางการข่าวของดีเอสไอ มีความเป็นห่วงว่า การชุมนุมครั้งนี้อาจจะยืดเยื้อยาวเหมือนดังเช่นที่เคยชุมนุมเมื่อปีก่อนได้ เพราะจากสถานการณ์หลายอย่างเอื้ออำนวยให้คนเสื้อแดง รุกหนักอีกครั้งได้ ซึ่งหากมีการชุมนุมยืดเยื้อจริง ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีเหตุวุ่นวายปั่นป่วนเกิดขึ้นจากมือที่สาม ซึ่ง ดีเอสไอ ได้เฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิดแล้ว
สำหรับ 7 แกนนำ ที่ศาลมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวนั้น หากเข้าร่วมการชุมนุม และมีการปราศรัยทำให้เกิดความเสียหาย และส่วนตัวคิดว่า ทั้ง 7 คนเข้าข่ายผิดเงื่อนไขของศาลอย่างชัดเจนแล้ว ซึ่งหากว่า วันที่ 12 มี.ค.นี้ มีการกระทำการใดๆ ที่ขัดต่อคำสั่งศาล ก็จะยื่นร้องต่อศาล ให้เพิกถอนการประกันตัวต่อไป
**"นายกฯ"ยันรัฐ-กองทัพสัมพันธ์ยังดี
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ฝ่ายค้านอ้างมีคลิปเด็ดการสลายการชุมนุม เรื่องนี้ก็ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง ส่วนที่ก่อนหน้านี้ทั้ง ผบ.ทบ. และ ผบ.ทอ. ออกมาระบุว่า นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทยพูดเท็จนั้น เจ้าหน้าที่ก็ถูกกล่าวหลายครั้ง ฝ่ายค้านเองก็พยายามนำขยายผล อะไรเป็นประโยชน์ก็เอามาขยาย อะไรที่ไม่เป็นคุณก็กล่าวหาคนอื่น ดังนั้นเจ้าหน้าที่เองก็มีสิทธิที่จะมาให้ข้อมูลที่ปกป้องตัวเอง ข้อมูลเรื่องสลายการชุมนุมเคยนั้นก็เคยมีการอภิปรายและนายจตุพรก็พยายามพูดไม่จริงซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ผู้สื่อข่าวถามว่านายจตุพรต้องการให้แตกแยกในทุกเรื่องหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า "ดูเหมือนจะตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น คุณจตุพร พูดในประเด็นการเมืองเพื่อขยายความขัดแย้ง ผมอยากให้ประชาชนฟังอภิปรายและพิจารณาว่าจะเลือกพรรคการเมืองที่แก้ปัญหา พาประเทศเดินหน้าไปได้ หรือจะเลือกพรรคการเมืองที่วนเวียนนอยู่ในความขัดแย้ง"นายอภิสิทธิ์กล่า
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ขณะนี้มีกลุ่มคนพยายามพูดให้กองทัพและรัฐบาลแตกแยกเพื่อหวังผลในปฏิวัติหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มีบางคนพยายามให้เป็นเช่นนั้น แต่ยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพและรัฐบาลยังดี ตลอดที่ตนทำงานมาสองปี แม้จะมีความเห็นที่ไม่ตรงกันบ้าง แต่ทุกฝ่ายก็ทำตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง
**"สุเทพ"ชี้เสื้อแดงใช้ พคท.โมเดล จัดตั้งมวลชน
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ระบุว่าจะขอถอนประกัน7 แกนนำคนเสื้อแดง รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ตนไม่ทราบ การให้ประกันเป็นดุลยพินิจของศาล โดยศาลมีเงื่อนไขต้องไม่ไปก่อความวุ่นวาย ถ้าเขาปฏิบัติตามนั้นคงไปคัดค้านเพิกถอนไม่ได้ แต่ถ้าไปทำผิดเงื่อนไข เช่นศาลห้ามไม่ให้ขึ้นเวทีไปปลุกระดมประชาชน แต่ไปขึ้นอย่างนี้ก็มีเหตุผลที่จะไปถอนประกัน แต่ทั้งนี้ตนไม่ได้ติดตามว่าเงื่อนไขที่ศาลกำหนดมีกี่ข้ออย่างไรบ้าง และหลังจากนั้นเขาทำอะไรบ้าง ตนไม่ได้ดูจริง ๆ ส่วนที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ออกมายอมรับว่าการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ตนว่าการจัดตั้งของเขาดีได้ผล ยุทธวิธีที่แกนนำคนเสื้อแดงใช้ มันเหมือนสิ่งที่พรรคคอมมิวนิสต์ทำในอดีต เพียงแต่ในสมัยก่อนที่พรรคคอมมิวนิสต์ทำในการปรับทุกข์ผูกมิตรจัดตั้งสร้างเครือข่ายเขาต้องแอบทำอยู่ใต้ดิน เพราะมีพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์คอยป้องกันเอาไว้ แต่วันนี้คอมมิวนิสต์ส่วนนั้นก็กลับเข้ามานั่งในวอร์รูมวางแผนดำเนินการ โดยมีจุดมุ่งหมายเดิมเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศไทย อย่างที่เคยคิดตอนเป็นคอมมิวนิสต์ วันนี้กลับมาใช้อิทธิพลและเงินของพ.ต.ท.ทักษิณ ( ชินวัตร ) ทำกันอย่างเปิดเผย เพราะกฎหมายคอมมิวนิสต์ไม่มี
**เทือก ปัดพูดเสื้อแดงวิ่งใส่กระสุนปืน
นายสุเทพ กล่าวถึงกรณีที่มีการฟอร์เวิร์ดเมลล์ที่ระบุคำพูดของตนเองที่พูดระหว่างการสัมนาของยุวประชาธิปัตย์ ถึงการเสียชีวิตของคนเสื้อแดงในการชุมนุมที่ผ่านมาว่าทหารไม่ได้ยิง แต่ผู้ชุมนุมวิ่งเข้ามาหาลูกกระสุนเอง ว่า ตนไม่เคยไปพูดที่ไหน ทุกวันตนจะพูดกับสื่อที่ทำเนียบที่เดียวเท่านั้น และวันละครั้งเท่านั้น ตนไม่เที่ยวพูดพร่ำเพรื่อ ตนเข้าใจว่าคนที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้คงจะพยายามบิดเบือน สิ่งที่ตนให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบวันใด วันหนึ่ง เกี่ยวกับ 91 ศพของคนเสื้อแดง ซึ่งได้ชี้แจงไปว่าทหารไม่ได้ทำไม่ได้เข้าไปสลายหรือถือปืนไล่ฆ่าประชาชน แต่ส่วนหนึ่งที่มีประชาชนเสียชีวิตเพราะมีการตั้งป้อม ตั้งด่านของเจ้าหน้าที่แต่มีการเข้ามาโจมตี ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ต้องป้องกันด่านหรือป้อมไว้
**คาด 12 มี.ค.แดง28,000
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ศอ.รส. แถลงผลการประชุม ศอ.รส. ว่า กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 12 มี.ค.นี้ว่า เชื่อว่าวันดังกล่าวจะมีกลุ่มคนเสื้อแดงมาร่วมการชุมนุมจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้มีการรวมตัวกันประมาณ 28,000 คน แต่ครั้งนี้น่าจะมากกว่าเดิมอีก 10,000 คน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความเข้มงวดกับบุคคลที่จะเข้ามาชุมนุม โดยจะมีการประสานไปยังแกนนำเพื่อกำหนดจุดตรวจค้น และตั้งจุดตรวจโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ไม่หวังดีนำอาวุธเข้ามาเพื่อสร้างความวุ่นวาย
**ทบ.สั่งจับตาแดงอยู่ยาว
วันเดียวกันพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ได้เป็นประธานการประชุม ผู้บังคับหน่วยขึ้นตรง ทบ.โดยแจ้งให้ผู้บังคับหน่วยทุกคนเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะการชุมนุมของหลายกลุ่ม ณ เวลานี้ โดยคาดว่าสถานการณ์ต่อจากนี้ไปจะสู่จุดของความขัดแย้งที่รุนแรง เพราะการชุมนุมไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม นปช. เสื้อแดง กลุ่มพันธมิตรฯ กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ ที่ต่างพยายามหายุทธวิธีให้รัฐบาลและกองทัพแตกความสามัคคีกัน รวมถึงมีการปลุกปั้นยั่วยุให้ทหารเข้าไปรัฐประหารซึ่งถือว่าเป็น อันตรายอย่างมาก
ขณะที่ยังมีการประเมินการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่ 12 มี.ค. โดยทางกองทัพคาดว่าน่าจะมีคนเสื้อแดงเข้าร่วมชุมนุมไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นคน และการชุมนุมวันดังกล่าวทางแกนนำทั้งหมดที่ได้รับปล่อยตัวมาจะขึ้นร่วมปราศรัย โดยจะมีกลุ่มคนเสื้อแดงที่ต้องการมาพบกับแกนนำเหล่านี้ และมีกระแสข่าวว่าทางพรรคเพื่อไทยจะระดมคนเข้าร่วมชุมนุมอีกส่วน และได้สั่งให้จับตาการการปราศรัยของ แกนนำ นปช.บนเวที ที่อาจจะส่อไปในเชิงพาดพิงสถาบัน นอกจากนี้ กอ.รมน. ได้มอบหมายให้กองทัพบก ตั้งวอร์รูมขึ้นมาติดตามการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างใกล้ชิด.