ตร.ดูเองคดีจ้องบึ้ม พธม. ชี้รัฐยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่เข้าข่ายก่อการร้าย!

ผบช.น.ยืนยันไม่ส่งตัว 5 ผู้ต้องหาเตรียมวางระเบิดป่วนชุมนุมพันธมิตรฯ หรือโอนคดีให้ดีเอสไอดำเนินคดีในข้อหาก่อการร้าย เพราะรัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปแล้ว คดีนี้จึงไม่เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ พร้อมคุมตัว “ดำ เอี่ยมนาค” ฝากขังศาลอาญา รัชดาภิเษก ส่วนพวกอีก 4 ตำรวจโรงพักบางมดเจ้าของพื้นที่คุมฝากขังศาลอาญา ธนบุรี

วันนี้ (26 ม.ค.) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ นายธวัชชัย หรือดำ เอี่ยมนาค อายุ 37 ปี พร้อมพวกอีก 4 คน ผู้ต้องหาที่เตรียมก่อเหตุลอบวางระเบิดป่วนเมืองบริเวณข้างทำเนียบรัฐบาล และสะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ตามที่ทางตำรวจนครบาลได้จับกุมตัวผู้ต้องหา 5 คน ได้พร้อมอาวุธสงครามจำนวนมาก โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าเตรียมจะมาก่อเหตุในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งทางตำรวจจะไม่ส่งตัวผู้ต้องหา หรือโอนคดีให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินคดีในข้อหาก่อการร้าย เนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่กรุงเทพมหานครไปแล้ว โดยคดีดังกล่าวจึงไม่เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ หรือคดีเกี่ยวกับการก่อการร้ายเหมือนกับคดีที่ผ่านมา

พล.ต.ท.จักรทิพย์กล่าวด้วยว่า การดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดทางตำรวจจะเป็นผู้ดำเนินการเอง โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหามีอาวุธสงครามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อน และในวันเดียวกันนี้จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ไปฝากขังต่อศาลผลัดแรก โดยนายธวัชชัย ทาง สน.ดุสิต จะนำไปฝากขังต่อศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ส่วนผู้ต้องหาอีก 4 คน สน.บางมด เจ้าของพื้นที่จะคุมตัวไปฝากขังต่อศาลอาญา ธนบุรี และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอคัดค้านการประกันตัวด้วย อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจได้ทำการสอบสวนผู้ต้องหา เพื่อขยายผลหาผู้อยู่เบื้องหลังหรือร่วมขบวนการต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ พล.ต.ท.จักรทิพย์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา ตนและพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ได้ไปเจรจากับทางกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งเบื้องต้นรับว่าจะชุมนุมอยู่ใน 3-7 วัน จากนั้นจะประเมินว่าจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งยังไม่ชัดเจน อาจอยู่ต่อ หรือจะกลับก็เป็นไปได้ ซึ่งในเรื่องนี้เรามีการเจรจาอยู่แล้ว แต่จะได้ผลแค่ไหนก็อยู่ที่กลุ่มผู้ชุมนุมด้วยว่าจะเชื่อฟังเรา หรือเจอกันครึ่งทาง

ส่วนจะมีการปรับแผนหรือไม่ หลังจากพบมีการเตรียมป่วนสร้างสถานการณ์ความไม่สงบนั้น ผบช.น.กล่าวว่า ในส่วนนี้เราตั้งด่านเข้มขึ้น เพื่อรักษาความปลอดภัยกลุ่มผู้มาชุมนุม และต้องขอโทษพี่น้องประชาชนด้วยที่ต้องตั้งด่านจำนวนมาก ซึ่งเพื่อความปลอดภัยของประชาชนของทุกคน โดยการจราจรก็อาจติดขัดบ้าง

ย้ำปราบปรามอาชญากรรมตามเป้า

นอกจากนี้ ในเช้าวันนี้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ พร้อมรอง ผบช.น. ผบก.น.1-9, ผบก.อก., ผบก.จร., ผบก.สปพ., ผบก.อคฝ. ผบก.ประจำ บช.น., ผกก.กก.ดส. และ ผกก.ทุกนายในสังกัด บช.น.ได้ร่วมกันประชุมผู้บริหารประจำเดือนและมอบหมายนโยบาย

พล.ต.ท.จักรทิพย์กล่าวก่อนเข้าประชุมว่า ในการประชุมครั้งนี้เน้นย้ำ 2 เรื่อง คือ เรื่องแรกได้มอบนโยบายตั้งแต่วันแรกแล้ว ซึ่งแต่ก่อนจะมีประชุมบริหารตั้งแต่ระดับ ผกก.ขึ้นไปทุกเดือน ก็ปรับเปลี่ยนให้ ผบก.มาแทนและลงไปมอบนโยบาย แต่ระดับ ผกก.จะเรียกให้มาประชุม 3 เดือนครั้ง เพื่อเรียก ผกก.มาปรับทิศทางการทำงาน โดยครั้งนี้ครบวาระ 3 เดือนแล้ว จึงเรียกมาคุยว่าสถิติอาชญากรรมเป็นอย่างไร ทิศทางการทำงานเป็นอย่างไร โดยเน้นเรื่องประเด็นนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการประเมินหรือไม่ เพราะนโยบายของรัฐบาลกำหนดให้ลดอาชญากรรมให้ได้ 20 เปอร์เซ็นต์ ผบช.น.กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ 2 ที่เรียกมา โดยเป็นของขวัญชิ้นที่ 9 ประชาวิวัฒน์ ให้ลดได้ 20 เปอร์เซ็นต์