ASTVผู้จัดการรายวัน- ตำรวจระดมกำลัง 5 กองร้อย ไล่กลุ่มผู้ชุมนุมกองทัพธรรม ขอคืนพื้นที่สะพานชมัยมรุเชฐ เปิดทางให้"มาร์ค" เข้าทำเนียบฯ เตรียมลุยเปิดถนนเพิ่มอ้างต้องจัดงานกาชาด ขณะที่เทศกิจลงพื้นที่ไล่รื้อแผงค้า - ส้วมหน้าศธ.ถูกแม่ค้าไล่ตะเพิด "เทือก" ชมตำรวจทำได้ถูกใจ ด้าน"จำลอง"โวยถูกรัฐบาลกลั่นแกล้ง หลังถูกเปิดโปงแก้ปัญหาชาติล้มเหลวไปที่ไหนก็มีแต่คนโห่ไล่ เลยพาลมาไล่ผู้ชุมนุม ลั่นต้องยึดคืนแน่ ขณะที่สังคมเฟซบุ๊กตั้งฉายา"มาร์ค"ได้สุดแสบถึงกึ๋น
เวลา 05.30 น. วานนี้ (7 มี.ค.) พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รองผบ.ช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ. วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล รองผบก.น.1 พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ รองผบก.อคฝ. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 5 กองร้อย ( บก.น.1, 2, 3,อคฝ.และ ตชด.อย่างละ 1 กองร้อย ) พร้อมโล่และเครื่องป้องกัน เข้าทำการยึดขอคืนพื้นที่จากกลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ถนนพิษณุโลก
โดยกำลังเจ้าหน้าที่ได้ทำการรื้อถอนแผงเหล็กกั้นและเต็นท์ของกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ตั้งอยู่บริเวณกลางสะพานดังกล่าวออก และผลักดันให้กลุ่มผู้ชุมนุมถอยร่นไปอยู่ตรงบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ฝั่งทำเนียบรัฐบาล เพื่อเปิดการจราจรบริเวณถนนทางเข้าด้านหน้าทำเนียบฯ พร้อมกับนำแท่งปูน รั้วลวดหนาม และแผงกั้นเหล็กมาทำเป็นแนวกั้น 3 ชั้น เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมรุกล้ำกลับเข้ามายึดพื้นที่คืนอีก รวมถึงมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนประจำการตลอดแนวกั้น
ทั้งนี้ ในการขอคืนพื้นที่จากกลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายประชาชนไทยฯนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้เปิดเส้นทางเดินเท้าให้กับนักเรียน และประชาชนที่เรียนและทำงานอยู่ในละแวกดังกล่าวให้สามารถเดินผ่านเจ้าหน้าที่และกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปได้ ซึ่งภายหลังทันทีที่มีการขอคืนพื้นที่เรียบร้อยแล้วขบวนรถของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ใช้เส้นทางดังกล่าวผ่านเข้าไปปฏิบัติงานในทำเนียบฯทันที หลังจากที่ต้องเข้าทางสะพานอรทัยมาเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน
**หวังขอคืนพื้นที่จุดอื่นๆ ต่อไป
พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวภายหลังตรวจความเรียบร้อย บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขอคืนพื้นได้สำเร็จ ว่า ขออย่าให้การชุมนุมมาปิดกั้นการทำหน้าที่อีก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยให้ชุมนุมมาระยะหนึ่งแล้ว และเข้าใจด้วยว่า ประชาชนทั้งโลกเข้าใจในสิ่งที่ผู้ชุมนุมเรียกร้องแล้ว
ส่วนการขอคืนพื้นที่อื่นๆ นั้น ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า จะพยายามขอคืนพื้นที่ต่อไป แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป และต้องดูจำนวนผู้ชุมนุมด้วย ส่วนกระแสข่าวที่รัฐบาลต้องการให้ดำเนินการ ขอคืนพื้นที่ให้เสร็จก่อนวันที่ 15 มี.ค.นั้น พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะจะมีการจัดงานกาชาด ในวันที่ 15 มี.ค. จึงต้องมีการแบ่งพื้นที่ร่วมกัน นอกจากนี้ ยังต้องมีการขอคืนพื้นที่ส่วนอื่น ที่มีการชุมนุมด้วย ซึ่งหากพูดคุยกันเป็นไปด้วยดี ผู้ชุมนุมก็ต้องออกจากพื้นที่
**อ้างจัดการจราจรรับงานกาชาด
ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) กล่าวว่าการขอคืนพื้นที่ เพื่อเปิดเส้นทางจราจรให้ข้าราชการ และลูกจ้าง สามารถเข้าไปทำงานภายในทำเนียบรัฐบาลได้ โดยหลังจากนี้จะเดินหน้าเจรจากับผู้ชุมนุม เพื่อขอคืนพื้นที่บริเวณ ถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่แยกสวนมิสกวัน ถึงลานพระบรมรูปทรงม้า (ลานพระราชวังดุสิต) เนื่องจากเป็นสถานที่ใช้จัดงานกาชาดประจำปี 2554
ทั้งนี้ ในการจัดงานกาชาด ผู้ประกอบการจะต้องเข้าไปเริ่มสร้างอาคารร้านค้า ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.นี้ โดยได้มีการแจ้งให้แกนนำทราบแล้ว แต่ยังไม่ได้รับความร่วมมือ ซึ่งตนอยากให้เข้าใจถึงความสำคัญของการจัดงานดังกล่าว และคิดถึงความเหมาะสม แม้จะอ้างว่าการชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญก็ตาม
"ยอมรับว่า รู้สึกหนักใจในการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร ซึ่งเชื่อว่าสังคมจับตาดูการดำเนินการของทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ตลอด ว่าฝ่ายใดกระทำถูกหรือผิด" ผบก.น.1 กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ได้ขึ้นเวทีที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อแจ้งกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า อย่าตื่นตกใจ ให้ใจเย็นๆ นั่งฟังคำปราศรัยต่อไป
" ยาวให้เป็น เย็นเรื่อยไป ไขความจริงออกมาให้มากๆ ตำรวจไล่เรา แต่คำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ ไม่ช้าก็เร็ว เรายืนยันจะกลับมาที่เดิม ให้มันรู้ไปว่าเราจะกลับที่เดิมไม่ได้ เพราะที่นี่คือดินแดนไทย พี่น้องที่อยู่ที่บ้าน หรือกำลังดูโทรทัศน์อยู่ มันไม่ได้เป็นเรื่องที่หนักหนาสำหรับเรา พันธมิตรฯ ที่นี่รับมือได้ ยังไม่ต้องออกมา ตอนนี้รัฐบาลยังไม่ได้เป่านกหวีด แค่คลอๆ หากรัฐบาลเป่าเมื่อไร เราค่อยออกมาให้เต็มแผ่นดิน"
**เทศกิจบุกรื้อแผงค้าเจอแม่ค้าไล่กระเจิง
ต่อมาเวลาประมาณ 10.30 น. บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ พื้นที่การชุมนุมของพันธมิตรฯได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่เทศกิจประมาณ 50 คน ได้นำรถกระบะ 4 คันเข้ามาในพื้นที่ เพื่อเตรียมรื้อถอนแผงค้าบนทางเท้า รอบรั้วกระทรวงศึกษาธิการ ตามที่ได้แจ้งประกาศให้ผู้ค้ารื้อถอนออกภายในวันที่ 7 ม.ค. แต่ปรากฏว่า ผู้ค้าส่วนใหญ่ไม่ยอมปฏิบัติตาม โดยอ้างว่าได้ชำระค่าปรับต่อกทม.แล้ว รวมทั้งยังมีผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ บางส่วนออกมาร่วมต่อต้านการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ด้วย เนื่องจากเกรงว่าเจ้าหน้าที่เทศกิจจะรื้อถอนห้องสุขาจำนวน 48 ห้อง ริมรั้วกระทรวงศึกษาธิการไปด้วย จึงทำให้เจ้าหน้าที่เทศกิจดังกล่าวไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ และต้องเดินทางกลับ ทำให้เหตุการณ์สงบลง
**"จำลอง"ลั่นพร้อมกลับมายึดพื้นที่คืน
ด้านพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เปิดแถลงข่าวประจำวัน ต่อสื่อมวลชนถึงเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้ายึดพื้นที่ การชุมนุมของกองทัพธรรม ถ.พิษณุโลก ด้านสะพานชมัยมรุเชฐ ว่า ในช่วงเช้ามืดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้ามาไล่พวกเรา ซึ่งตนเคยบอกไว้แล้วว่าขอให้พวกเราอยู่กันเช่นนนี้ เพราะควมปลอดภัยของผู้ชุมนุมสำคัญที่สุด อย่าพยายามกลั่นแกล้งเราเช่นนี้ เพราะไล่พวกเราออกจากตรงไหน เราก็จะกลับไปอยู่ที่เดิม เป็นเรื่องที่ตนพยายามย้ำตลอด ตนเชื่อว่าเป็นคำสั่งของรัฐบาลที่บังคับให้ตำรวจมาทำเช่นนี้ เพื่อให้เราอยู่ไม่สุข และยุติการชุมนุม จึงส่งกำลังตำรวจมากมายมาไล่ออกจากสะพานชมัยมรุเชฐ และรื้อเต้นท์ พร้อมนำแท่งคอนกรีตมาวางขวางไว้ พอตำรวจทำเช่นนี้ การชุมนุมก็จะไม่มีความปลอดภัย เพราะตำรวจไม่ได้ตรวจอาวุธ แต่อาสาสมัครองเราตรวจตราอย่างละเอียด ทั้งอาวุธและของมึนเมา ไม่ให้นำเข้ามาในพื้นที่การชุมนุม
พล.ต.จำลอง ได้ชี้ให้ดูพื้นที่บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ที่มีเพียงรั้วกั้นถนน 2 เลน โดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนประจำการอยู่ พร้อมกล่าวว่า ตำรวจเคยบอกไว้ว่า เมื่อเปิดการจราจรแล้ว จะนำกำลังตำรวจมาประจำการเพื่อรักษาความปลอดภัยให้เต็มที่ แต่ตอนนี้กลับไม่มีสักคนเดียว หากเป็นเช่นนี้ ก็จะไม่มีความปลอดภัย หากผู้ไม่หวังดีนำระเบิดขว้างเข้ามาในพื้นที่การชุมนุม ก็สามารถทำได้
" เราอยู่ตรงนี้ไม่ได้ชุมนุมเพื่อประโยชน์ของตัวเอง หรือหมู่คณะไหน แต่มาเพื่อปกป้องแผ่นดินให้ ทั้งตำรวจ และรัฐบาลเมื่อมากลั่นแกล้งเราเช่นนี้ ไล่เราออกจากที่ไหน เราก็จะกลับมาที่เดิม โดยสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปตามที่ได้คาดหมายไว้อยู่แล้ว" พล.ต.จำลองกล่าว
** ชี้นายกฯกำลังถูกสังคมต่อต้าน
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า รัฐบาลนี้ไม่สามารถอยู่ได้ เพราะพันธมิตรฯ มาชุมนุมปักหลักพักค้าง พร้อมเปิดโปงความจริง ตามแนวคิด “ยาวให้เป็น เย็นเรื่อยไป ไขความจริงออกมาให้มากๆหมดๆ ” โดยเปิดโปงในสิ่งที่รัฐบาลพลาดและล้มเหลว ทำให้ชาติเสียหาย เสียนดินแดน ข้าวยากหมากแพง และการทุจริต คอร์รัปชัน ทำให้รัฐบาลไม่สามารถอยู่ได้ พอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไปที่ไหน ก็จะมีคนออกมาต่อต้าน เพราะเขารู้ความจริง จากการติดตามข่าวการชุมนุมของพันธมิตรฯ เช่น เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่หอประชุมธรรมศาสตร์ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งไปแสดงออก ต่อต้านนายกฯ ด้วยความสุภาพ โดยชูป้ายระบุว่า นายกฯ ดีแต่พูด อย่างนี้เรียกว่าเป็นการต่อต้านโดยสังคม หรือ Social Sanctions
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกำหนดที่จะเข้าไปยึดพื้นที่สะพานชมัยมรุเชฐ คืนจากทางตำรวจหรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่ของตำรวจ หรือรัฐบาล แต่การที่ตำรวจมาไล่ ทั้งที่เรายืนยันว่า เพื่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุม จึงขออยู่ในพื้นที่เช่นเดิม ดังนั้นภาคประชาชนก็จะกลับไปที่เดิม แต่ไม่สามารถระบุเวลาได้
** สังคมเฟซบุ๊คตั้งฉายา"มาร์ค"สุดแสบ
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวว่า จากการที่นายกฯพยายามมาทวงคืนพื้นที่จากประชาชน หรือรื้อห้องสุขาของผู้ชุมนุม แทนที่จะไปสนใจการทวงคืนดินแดนจากกัมพูชานั้น ทำให้ขณะนี้ในสังคมเฟซบุ๊ค ได้วิพากษ์วิจารณ์โดยขนานนามให้นายฮุนเซน เป็น "สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเตโชฮุนเซน ผู้พิชิต 4.6 ตร.กม." แต่นายอภิสิทธิ์ ได้รับการขนานนามว่า "เจ้าพระยาสุขาวินาศ พิชิตทวิเลน มหาถุงยาง เสนาบดีเตโชฮุนมะสิทธิ์"
" กลายเป็นชื่อที่ถูกล้อเลียนว่านายกฯ มัวแต่สนใจเรื่องเล็กๆ ทำกับประชาชนคนไทยที่อ่อนแอกว่า แต่กับคนที่มารุกล้ำอธิปไตยของชาติ กลับไม่สนใจ คนจึงไปพูดกันว่า นายกฯไปที่ไหน ส้วมแตกที่นั่น" นายปานเทพ กล่าว
** "เทือก"ชมตำรวจทำงานได้ถูกใจ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การแก้ปัญหาการชุมนุมของกลุ่มต่างๆว่ารัฐบาลพยายามแก้ปัญหาด้วยความอดทนอดกลั้น เพราะเห็นแก่ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองเป็นสำคัญ ไม่ต้องการให้เกิดเหตุบานปลาย ลุกลาม ร้าวฉาน เพราะว่าที่เป็นมาจนถึงขนาดนี้ ก็เสียหายมากแล้วสำหรับประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้ขอคืนพื้นที่สะพานชมัยมรุเชฐได้เพียงนิดเดียว แต่ขณะนี้ สะพานอรทัย ก็ถูกปิดด้วยกลุ่มผู้ชุมนุมอีกแล้ว นายสุเทพกล่าวว่า ก็ต้องแก้กันไป เดี๋ยวจะต้องดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่ามีการมองว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีความเด็ดขาด ยกกำลังมาแล้วก็กลับไป นายสุเทพ กล่าวว่า เขาทำได้ดีมากแล้วตำรวจชุดนี้ ตนก็ให้คะแนนว่าทำได้ดี เพียงแต่ไม่ถูกใจคนดูเท่านั้นเอง ตนก็ต้องให้เขาพยายามต่อไป
เวลา 05.30 น. วานนี้ (7 มี.ค.) พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รองผบ.ช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ. วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล รองผบก.น.1 พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ รองผบก.อคฝ. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 5 กองร้อย ( บก.น.1, 2, 3,อคฝ.และ ตชด.อย่างละ 1 กองร้อย ) พร้อมโล่และเครื่องป้องกัน เข้าทำการยึดขอคืนพื้นที่จากกลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ถนนพิษณุโลก
โดยกำลังเจ้าหน้าที่ได้ทำการรื้อถอนแผงเหล็กกั้นและเต็นท์ของกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ตั้งอยู่บริเวณกลางสะพานดังกล่าวออก และผลักดันให้กลุ่มผู้ชุมนุมถอยร่นไปอยู่ตรงบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ฝั่งทำเนียบรัฐบาล เพื่อเปิดการจราจรบริเวณถนนทางเข้าด้านหน้าทำเนียบฯ พร้อมกับนำแท่งปูน รั้วลวดหนาม และแผงกั้นเหล็กมาทำเป็นแนวกั้น 3 ชั้น เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมรุกล้ำกลับเข้ามายึดพื้นที่คืนอีก รวมถึงมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนประจำการตลอดแนวกั้น
ทั้งนี้ ในการขอคืนพื้นที่จากกลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายประชาชนไทยฯนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้เปิดเส้นทางเดินเท้าให้กับนักเรียน และประชาชนที่เรียนและทำงานอยู่ในละแวกดังกล่าวให้สามารถเดินผ่านเจ้าหน้าที่และกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปได้ ซึ่งภายหลังทันทีที่มีการขอคืนพื้นที่เรียบร้อยแล้วขบวนรถของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ใช้เส้นทางดังกล่าวผ่านเข้าไปปฏิบัติงานในทำเนียบฯทันที หลังจากที่ต้องเข้าทางสะพานอรทัยมาเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน
**หวังขอคืนพื้นที่จุดอื่นๆ ต่อไป
พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวภายหลังตรวจความเรียบร้อย บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขอคืนพื้นได้สำเร็จ ว่า ขออย่าให้การชุมนุมมาปิดกั้นการทำหน้าที่อีก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยให้ชุมนุมมาระยะหนึ่งแล้ว และเข้าใจด้วยว่า ประชาชนทั้งโลกเข้าใจในสิ่งที่ผู้ชุมนุมเรียกร้องแล้ว
ส่วนการขอคืนพื้นที่อื่นๆ นั้น ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า จะพยายามขอคืนพื้นที่ต่อไป แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป และต้องดูจำนวนผู้ชุมนุมด้วย ส่วนกระแสข่าวที่รัฐบาลต้องการให้ดำเนินการ ขอคืนพื้นที่ให้เสร็จก่อนวันที่ 15 มี.ค.นั้น พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะจะมีการจัดงานกาชาด ในวันที่ 15 มี.ค. จึงต้องมีการแบ่งพื้นที่ร่วมกัน นอกจากนี้ ยังต้องมีการขอคืนพื้นที่ส่วนอื่น ที่มีการชุมนุมด้วย ซึ่งหากพูดคุยกันเป็นไปด้วยดี ผู้ชุมนุมก็ต้องออกจากพื้นที่
**อ้างจัดการจราจรรับงานกาชาด
ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) กล่าวว่าการขอคืนพื้นที่ เพื่อเปิดเส้นทางจราจรให้ข้าราชการ และลูกจ้าง สามารถเข้าไปทำงานภายในทำเนียบรัฐบาลได้ โดยหลังจากนี้จะเดินหน้าเจรจากับผู้ชุมนุม เพื่อขอคืนพื้นที่บริเวณ ถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่แยกสวนมิสกวัน ถึงลานพระบรมรูปทรงม้า (ลานพระราชวังดุสิต) เนื่องจากเป็นสถานที่ใช้จัดงานกาชาดประจำปี 2554
ทั้งนี้ ในการจัดงานกาชาด ผู้ประกอบการจะต้องเข้าไปเริ่มสร้างอาคารร้านค้า ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.นี้ โดยได้มีการแจ้งให้แกนนำทราบแล้ว แต่ยังไม่ได้รับความร่วมมือ ซึ่งตนอยากให้เข้าใจถึงความสำคัญของการจัดงานดังกล่าว และคิดถึงความเหมาะสม แม้จะอ้างว่าการชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญก็ตาม
"ยอมรับว่า รู้สึกหนักใจในการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร ซึ่งเชื่อว่าสังคมจับตาดูการดำเนินการของทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ตลอด ว่าฝ่ายใดกระทำถูกหรือผิด" ผบก.น.1 กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ได้ขึ้นเวทีที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อแจ้งกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า อย่าตื่นตกใจ ให้ใจเย็นๆ นั่งฟังคำปราศรัยต่อไป
" ยาวให้เป็น เย็นเรื่อยไป ไขความจริงออกมาให้มากๆ ตำรวจไล่เรา แต่คำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ ไม่ช้าก็เร็ว เรายืนยันจะกลับมาที่เดิม ให้มันรู้ไปว่าเราจะกลับที่เดิมไม่ได้ เพราะที่นี่คือดินแดนไทย พี่น้องที่อยู่ที่บ้าน หรือกำลังดูโทรทัศน์อยู่ มันไม่ได้เป็นเรื่องที่หนักหนาสำหรับเรา พันธมิตรฯ ที่นี่รับมือได้ ยังไม่ต้องออกมา ตอนนี้รัฐบาลยังไม่ได้เป่านกหวีด แค่คลอๆ หากรัฐบาลเป่าเมื่อไร เราค่อยออกมาให้เต็มแผ่นดิน"
**เทศกิจบุกรื้อแผงค้าเจอแม่ค้าไล่กระเจิง
ต่อมาเวลาประมาณ 10.30 น. บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ พื้นที่การชุมนุมของพันธมิตรฯได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่เทศกิจประมาณ 50 คน ได้นำรถกระบะ 4 คันเข้ามาในพื้นที่ เพื่อเตรียมรื้อถอนแผงค้าบนทางเท้า รอบรั้วกระทรวงศึกษาธิการ ตามที่ได้แจ้งประกาศให้ผู้ค้ารื้อถอนออกภายในวันที่ 7 ม.ค. แต่ปรากฏว่า ผู้ค้าส่วนใหญ่ไม่ยอมปฏิบัติตาม โดยอ้างว่าได้ชำระค่าปรับต่อกทม.แล้ว รวมทั้งยังมีผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ บางส่วนออกมาร่วมต่อต้านการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ด้วย เนื่องจากเกรงว่าเจ้าหน้าที่เทศกิจจะรื้อถอนห้องสุขาจำนวน 48 ห้อง ริมรั้วกระทรวงศึกษาธิการไปด้วย จึงทำให้เจ้าหน้าที่เทศกิจดังกล่าวไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ และต้องเดินทางกลับ ทำให้เหตุการณ์สงบลง
**"จำลอง"ลั่นพร้อมกลับมายึดพื้นที่คืน
ด้านพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เปิดแถลงข่าวประจำวัน ต่อสื่อมวลชนถึงเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้ายึดพื้นที่ การชุมนุมของกองทัพธรรม ถ.พิษณุโลก ด้านสะพานชมัยมรุเชฐ ว่า ในช่วงเช้ามืดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้ามาไล่พวกเรา ซึ่งตนเคยบอกไว้แล้วว่าขอให้พวกเราอยู่กันเช่นนนี้ เพราะควมปลอดภัยของผู้ชุมนุมสำคัญที่สุด อย่าพยายามกลั่นแกล้งเราเช่นนี้ เพราะไล่พวกเราออกจากตรงไหน เราก็จะกลับไปอยู่ที่เดิม เป็นเรื่องที่ตนพยายามย้ำตลอด ตนเชื่อว่าเป็นคำสั่งของรัฐบาลที่บังคับให้ตำรวจมาทำเช่นนี้ เพื่อให้เราอยู่ไม่สุข และยุติการชุมนุม จึงส่งกำลังตำรวจมากมายมาไล่ออกจากสะพานชมัยมรุเชฐ และรื้อเต้นท์ พร้อมนำแท่งคอนกรีตมาวางขวางไว้ พอตำรวจทำเช่นนี้ การชุมนุมก็จะไม่มีความปลอดภัย เพราะตำรวจไม่ได้ตรวจอาวุธ แต่อาสาสมัครองเราตรวจตราอย่างละเอียด ทั้งอาวุธและของมึนเมา ไม่ให้นำเข้ามาในพื้นที่การชุมนุม
พล.ต.จำลอง ได้ชี้ให้ดูพื้นที่บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ที่มีเพียงรั้วกั้นถนน 2 เลน โดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนประจำการอยู่ พร้อมกล่าวว่า ตำรวจเคยบอกไว้ว่า เมื่อเปิดการจราจรแล้ว จะนำกำลังตำรวจมาประจำการเพื่อรักษาความปลอดภัยให้เต็มที่ แต่ตอนนี้กลับไม่มีสักคนเดียว หากเป็นเช่นนี้ ก็จะไม่มีความปลอดภัย หากผู้ไม่หวังดีนำระเบิดขว้างเข้ามาในพื้นที่การชุมนุม ก็สามารถทำได้
" เราอยู่ตรงนี้ไม่ได้ชุมนุมเพื่อประโยชน์ของตัวเอง หรือหมู่คณะไหน แต่มาเพื่อปกป้องแผ่นดินให้ ทั้งตำรวจ และรัฐบาลเมื่อมากลั่นแกล้งเราเช่นนี้ ไล่เราออกจากที่ไหน เราก็จะกลับมาที่เดิม โดยสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปตามที่ได้คาดหมายไว้อยู่แล้ว" พล.ต.จำลองกล่าว
** ชี้นายกฯกำลังถูกสังคมต่อต้าน
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า รัฐบาลนี้ไม่สามารถอยู่ได้ เพราะพันธมิตรฯ มาชุมนุมปักหลักพักค้าง พร้อมเปิดโปงความจริง ตามแนวคิด “ยาวให้เป็น เย็นเรื่อยไป ไขความจริงออกมาให้มากๆหมดๆ ” โดยเปิดโปงในสิ่งที่รัฐบาลพลาดและล้มเหลว ทำให้ชาติเสียหาย เสียนดินแดน ข้าวยากหมากแพง และการทุจริต คอร์รัปชัน ทำให้รัฐบาลไม่สามารถอยู่ได้ พอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไปที่ไหน ก็จะมีคนออกมาต่อต้าน เพราะเขารู้ความจริง จากการติดตามข่าวการชุมนุมของพันธมิตรฯ เช่น เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่หอประชุมธรรมศาสตร์ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งไปแสดงออก ต่อต้านนายกฯ ด้วยความสุภาพ โดยชูป้ายระบุว่า นายกฯ ดีแต่พูด อย่างนี้เรียกว่าเป็นการต่อต้านโดยสังคม หรือ Social Sanctions
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกำหนดที่จะเข้าไปยึดพื้นที่สะพานชมัยมรุเชฐ คืนจากทางตำรวจหรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่ของตำรวจ หรือรัฐบาล แต่การที่ตำรวจมาไล่ ทั้งที่เรายืนยันว่า เพื่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุม จึงขออยู่ในพื้นที่เช่นเดิม ดังนั้นภาคประชาชนก็จะกลับไปที่เดิม แต่ไม่สามารถระบุเวลาได้
** สังคมเฟซบุ๊คตั้งฉายา"มาร์ค"สุดแสบ
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวว่า จากการที่นายกฯพยายามมาทวงคืนพื้นที่จากประชาชน หรือรื้อห้องสุขาของผู้ชุมนุม แทนที่จะไปสนใจการทวงคืนดินแดนจากกัมพูชานั้น ทำให้ขณะนี้ในสังคมเฟซบุ๊ค ได้วิพากษ์วิจารณ์โดยขนานนามให้นายฮุนเซน เป็น "สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเตโชฮุนเซน ผู้พิชิต 4.6 ตร.กม." แต่นายอภิสิทธิ์ ได้รับการขนานนามว่า "เจ้าพระยาสุขาวินาศ พิชิตทวิเลน มหาถุงยาง เสนาบดีเตโชฮุนมะสิทธิ์"
" กลายเป็นชื่อที่ถูกล้อเลียนว่านายกฯ มัวแต่สนใจเรื่องเล็กๆ ทำกับประชาชนคนไทยที่อ่อนแอกว่า แต่กับคนที่มารุกล้ำอธิปไตยของชาติ กลับไม่สนใจ คนจึงไปพูดกันว่า นายกฯไปที่ไหน ส้วมแตกที่นั่น" นายปานเทพ กล่าว
** "เทือก"ชมตำรวจทำงานได้ถูกใจ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การแก้ปัญหาการชุมนุมของกลุ่มต่างๆว่ารัฐบาลพยายามแก้ปัญหาด้วยความอดทนอดกลั้น เพราะเห็นแก่ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองเป็นสำคัญ ไม่ต้องการให้เกิดเหตุบานปลาย ลุกลาม ร้าวฉาน เพราะว่าที่เป็นมาจนถึงขนาดนี้ ก็เสียหายมากแล้วสำหรับประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้ขอคืนพื้นที่สะพานชมัยมรุเชฐได้เพียงนิดเดียว แต่ขณะนี้ สะพานอรทัย ก็ถูกปิดด้วยกลุ่มผู้ชุมนุมอีกแล้ว นายสุเทพกล่าวว่า ก็ต้องแก้กันไป เดี๋ยวจะต้องดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่ามีการมองว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีความเด็ดขาด ยกกำลังมาแล้วก็กลับไป นายสุเทพ กล่าวว่า เขาทำได้ดีมากแล้วตำรวจชุดนี้ ตนก็ให้คะแนนว่าทำได้ดี เพียงแต่ไม่ถูกใจคนดูเท่านั้นเอง ตนก็ต้องให้เขาพยายามต่อไป