ASTV ผู้จัดการรายวัน - สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนเปิดเฟซบุ๊คหาแนวร่วมชาว กทม. ยื่นฟ้องศาลปกครองให้มีคำสั่งยุติหรือยับยั้ง “โครงการซุปเปอร์สกายวอล์ก” ทันทีหาก กทม.ยังไม่ทบทวนโครงการ ด้านรองผู้ว่าฯ กทม.แจงระเอียดยิบมูลค่าโครงการ 1.5หมื่นล้าน ประกวดราคาเฟส 1 เส้นทางสุขุมวิท 12 กม. 43,000 บาท ต่อ ตร.ม. ฉุนขาดถามสกายวอล์กกทม. “อุจาดตาตรงไหน” ตอกไม่ควรเอาความรู้สึกแง่ลบเป็นตัวตั้งตัดสิน ลั่นไม่มีปัญหาหาบเร่ ค้านประชาภิวัฒน์เอาใจแม่ค้า เชื่อร้านค้าขายดีขึ้น
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า เนื่องจากมีแนวร่วมคนกรุงเทพฯจำนวนมากติดต่อมายังสมาคมว่าเห็นด้วยกับการออกมาเคลื่อนไหวคัดค้าน “โครงการซุปเปอร์สกายวอล์ก หรือทางเดินเท้าลอยฟ้า กทม.” ของสมาคมฯ แต่ไม่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันได้สะดวกมากนัก จึงได้มีการเปิดบล็อกในระบบโซเซียลเน็ตเวิร์คของเฟซบุ๊คดังกล่าวในชื่อ “กลุ่ม ค้านซุปเปอร์สกายวอร์ก” เพื่อใช้เป็นช่องทางในการสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับแนวร่วมชาวกรุงเทพฯ ที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว
“หาก กทม.ไม่มีการทบทวนโครงการดังกล่าวและจะยังคงเดินหน้าโครงการดังกล่าวต่อไป สมาคมฯคงไม่มีหนทางอื่นใดที่จะยับยั้งโครงการดังกล่าวได้ จึงต้องขอใช้อำนาจศาลปกครองเพื่อยุติปัญหาดังกล่าว โดยขอเชิญชวนผู้ที่สนใจ หรือผู้ที่เดือดร้อนหรือเสียหายจากโครงการดังกล่าวของ กทม. ในปัจจุบันและในอนาคตที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ร่วมฟ้องร้องยุติโครงการดังกล่าวโดยการปริ๊นแบบฟอร์มใบแต่งตั้งผู้ฟ้องคดีในเว็บไซต์ของสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน นาม www.thaisgwa.com หรือ “??http://thaisgwa.com/แบบฟอร์มฟ้อง” พร้อมส่งสำเนาบัตรประชาชนส่งไปให้สมาคมฯ เพื่อที่สมาคมฯจะได้รวบรวมนำไปยื่นฟ้องศาลปกครอง เพื่อยุติหรือยับยั้งโครงการดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้การร่วมฟ้องร้องดังกล่าวผู้ร่วมฟ้องคดีแต่ละรายจะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น” นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า กทม.ได้สอบถามความต้องการเบื้องต้นของประชาชนที่อยู่ในย่านดังกล่าวแล้ว พบว่า ประชาชนมีความต้องการใช้สกายวอล์กมากขึ้น กทม.จึงได้อนุมัติโครงการเพิ่มขึ้น ซึ่งเมืองที่พัฒนาแล้วอย่างแวนคูเวอร์เมืองน่าท่องเที่ยวอันดับ 1 ของโลกก็ยังมีสกายวอล์ก อันดับ 2 กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียก็มีสกายวอล์ก อันดับ 3-4 ก็มีสกายวอล์กเช่นกัน ถามว่าสกายวอล์กที่กทม.จะสร้างนั้นมันอุจาดตาตรงไหน เมืองเก่าแก่อย่างเวียนนายังไม่อุจาดเลย สังคมไทยไม่ควรเอาความรู้สึกแง่ลบเป็นตัวตั้งแทนที่จะวิจัยค้นคว้า ซึ่งเป็นเวลาปีเศษที่กทม.รวบรวมข้อมูลวิจัยค้นคว้า
นายธีระชน กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องงบประมาณการก่อสร้างนั้น กทม.ใช้ราคาต่ำสุดของเอกชนมาเป็นฐานราคากลางตารางเมตรละ 50,000 บาท งบประมาณเบื้องต้นเท่ากับ 5,443 ล้านบาท แยกเป็นงบสกายวอล์ก 4,256 ล้านบาท งบก่อสร้างลิฟท์สำหรับผู้พิการ ผู้สูงวัยจำนวน 56 ชุดทุกสถานีรถไฟฟ้าสายสีลมและสุขุมวิท และปรับปรุงทางเท้าบนถนนสุขุมวิท ซึ่งใช้งบประมาณในส่วนนี้ 1,187 ล้านบาท เมื่อรวมกับเฟสที่ 2 ระยะทาง 32 กม. ซึ่งคิดราคาก่อสร้างแบบเทียบบัญญัติไตรยางค์คือเอาราคากลางตั้งคูณด้วย 2 คูณด้วยอัตราเงินเฟ้อ 1.05 จำนวน 2 ปี แล้วคูณด้วยอัตราดอกเบี้ย 1% ซึ่งกทม.วางแผนผ่อนชำระ 10 ปีจึงเป็น 1.1% แสดงวิธีทำดังนี้ 4,256 ล้านบาท x2x1.05x1.05x1.1 = 10,322 ล้านบาท รวม 2 เฟสมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท ถือว่าโปร่งใสแน่นอน
นายธีระชน กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ สภากทม.ได้ผ่านเป็นข้อบัญญัติงบประมาณประจำปี 2554 จำนวน 5,443 ล้านบาท จากนั้นเมื่อเข้าสู่ปีงบประมาณ 2554 เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมาสำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) กทม.ก็ดำเนินการกำหนดร่าง TOR ราคากลางตามระเบียบพัสดุของกทม.เหลือมูลค่า 5,200 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 4 มี.ค.ได้ประกวดราคาสกายวอล์กเฟสที่ 1 เส้นทางสุขุมวิทระยะทาง 12 กม.เหลือเพียง 43,000 บาท ต่อตร.ม.
ดังนั้นเฉพาะค่าก่อสร้างสกายวอล์กเส้นทางนี้มูลค่า 2,508 ล้านบาท โดยผู้รับเหมาคือบริษัทยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ส่วนสายฝั่งธนฯ ได้มีการเจรจาด้วยวิธีพิเศษกับผู้รับเหมาก่อสร้างบีทีเอสเส้นบางหว้าคือกลุ่มกิจการร่วมค้าเอสทีเอเอสไปพร้อมกับการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า และอีก 2 เส้นทางในเฟสนี้คืออนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแยกปทุมวัน และม.รามคำแหงถึงสนามราชมังคลากีฬาสถานอยู่ระหว่างดำเนินการ
นายธีระชน กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ กทม.ได้มอบบ.กรุงเทพธนาคม (จำกัด) บริหารจัดการโครงการรวมทั้งหาแหล่งเงินทุน แม้ว่ากทม.จะใช้งบประมาณกทม.แต่เป็นการผ่อนชำระ 10 ปี เบื้องต้นทราบว่ามีสถาบันการเงินหลายแห่งอาทิ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน หรือแม้แต่สถาบันการเงินจากญี่ปุ่นก็เสนอตัวที่จะให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำด้วย
“จากที่ให้เอกชนดำเนินการในเส้นแรกก็ไม่มีปัญหาหาบเร่ นอกจากนี้เราจะไม่ทิ้งบาทวิถีแม้ส่วนตัวจะไม่เห็นด้วยกับโครงการประชาภิวัฒน์แต่จะพยายามจัดระเบียบโดยเฉพาะจุดกวดขันพิเศษ 5 จุด และจะไม่เป็นผลกระทบต่อผู้ค้ารายย่อยเพราะในชิคาโกพิสูจน์ชัดแล้วว่าค้าขายดีขึ้นโดยเฉพาะร้านค้าที่ไม่มีที่จอดรถ”นายธีระชนกล่าว.
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า เนื่องจากมีแนวร่วมคนกรุงเทพฯจำนวนมากติดต่อมายังสมาคมว่าเห็นด้วยกับการออกมาเคลื่อนไหวคัดค้าน “โครงการซุปเปอร์สกายวอล์ก หรือทางเดินเท้าลอยฟ้า กทม.” ของสมาคมฯ แต่ไม่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันได้สะดวกมากนัก จึงได้มีการเปิดบล็อกในระบบโซเซียลเน็ตเวิร์คของเฟซบุ๊คดังกล่าวในชื่อ “กลุ่ม ค้านซุปเปอร์สกายวอร์ก” เพื่อใช้เป็นช่องทางในการสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับแนวร่วมชาวกรุงเทพฯ ที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว
“หาก กทม.ไม่มีการทบทวนโครงการดังกล่าวและจะยังคงเดินหน้าโครงการดังกล่าวต่อไป สมาคมฯคงไม่มีหนทางอื่นใดที่จะยับยั้งโครงการดังกล่าวได้ จึงต้องขอใช้อำนาจศาลปกครองเพื่อยุติปัญหาดังกล่าว โดยขอเชิญชวนผู้ที่สนใจ หรือผู้ที่เดือดร้อนหรือเสียหายจากโครงการดังกล่าวของ กทม. ในปัจจุบันและในอนาคตที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ร่วมฟ้องร้องยุติโครงการดังกล่าวโดยการปริ๊นแบบฟอร์มใบแต่งตั้งผู้ฟ้องคดีในเว็บไซต์ของสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน นาม www.thaisgwa.com หรือ “??http://thaisgwa.com/แบบฟอร์มฟ้อง” พร้อมส่งสำเนาบัตรประชาชนส่งไปให้สมาคมฯ เพื่อที่สมาคมฯจะได้รวบรวมนำไปยื่นฟ้องศาลปกครอง เพื่อยุติหรือยับยั้งโครงการดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้การร่วมฟ้องร้องดังกล่าวผู้ร่วมฟ้องคดีแต่ละรายจะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น” นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า กทม.ได้สอบถามความต้องการเบื้องต้นของประชาชนที่อยู่ในย่านดังกล่าวแล้ว พบว่า ประชาชนมีความต้องการใช้สกายวอล์กมากขึ้น กทม.จึงได้อนุมัติโครงการเพิ่มขึ้น ซึ่งเมืองที่พัฒนาแล้วอย่างแวนคูเวอร์เมืองน่าท่องเที่ยวอันดับ 1 ของโลกก็ยังมีสกายวอล์ก อันดับ 2 กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียก็มีสกายวอล์ก อันดับ 3-4 ก็มีสกายวอล์กเช่นกัน ถามว่าสกายวอล์กที่กทม.จะสร้างนั้นมันอุจาดตาตรงไหน เมืองเก่าแก่อย่างเวียนนายังไม่อุจาดเลย สังคมไทยไม่ควรเอาความรู้สึกแง่ลบเป็นตัวตั้งแทนที่จะวิจัยค้นคว้า ซึ่งเป็นเวลาปีเศษที่กทม.รวบรวมข้อมูลวิจัยค้นคว้า
นายธีระชน กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องงบประมาณการก่อสร้างนั้น กทม.ใช้ราคาต่ำสุดของเอกชนมาเป็นฐานราคากลางตารางเมตรละ 50,000 บาท งบประมาณเบื้องต้นเท่ากับ 5,443 ล้านบาท แยกเป็นงบสกายวอล์ก 4,256 ล้านบาท งบก่อสร้างลิฟท์สำหรับผู้พิการ ผู้สูงวัยจำนวน 56 ชุดทุกสถานีรถไฟฟ้าสายสีลมและสุขุมวิท และปรับปรุงทางเท้าบนถนนสุขุมวิท ซึ่งใช้งบประมาณในส่วนนี้ 1,187 ล้านบาท เมื่อรวมกับเฟสที่ 2 ระยะทาง 32 กม. ซึ่งคิดราคาก่อสร้างแบบเทียบบัญญัติไตรยางค์คือเอาราคากลางตั้งคูณด้วย 2 คูณด้วยอัตราเงินเฟ้อ 1.05 จำนวน 2 ปี แล้วคูณด้วยอัตราดอกเบี้ย 1% ซึ่งกทม.วางแผนผ่อนชำระ 10 ปีจึงเป็น 1.1% แสดงวิธีทำดังนี้ 4,256 ล้านบาท x2x1.05x1.05x1.1 = 10,322 ล้านบาท รวม 2 เฟสมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท ถือว่าโปร่งใสแน่นอน
นายธีระชน กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ สภากทม.ได้ผ่านเป็นข้อบัญญัติงบประมาณประจำปี 2554 จำนวน 5,443 ล้านบาท จากนั้นเมื่อเข้าสู่ปีงบประมาณ 2554 เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมาสำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) กทม.ก็ดำเนินการกำหนดร่าง TOR ราคากลางตามระเบียบพัสดุของกทม.เหลือมูลค่า 5,200 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 4 มี.ค.ได้ประกวดราคาสกายวอล์กเฟสที่ 1 เส้นทางสุขุมวิทระยะทาง 12 กม.เหลือเพียง 43,000 บาท ต่อตร.ม.
ดังนั้นเฉพาะค่าก่อสร้างสกายวอล์กเส้นทางนี้มูลค่า 2,508 ล้านบาท โดยผู้รับเหมาคือบริษัทยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ส่วนสายฝั่งธนฯ ได้มีการเจรจาด้วยวิธีพิเศษกับผู้รับเหมาก่อสร้างบีทีเอสเส้นบางหว้าคือกลุ่มกิจการร่วมค้าเอสทีเอเอสไปพร้อมกับการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า และอีก 2 เส้นทางในเฟสนี้คืออนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแยกปทุมวัน และม.รามคำแหงถึงสนามราชมังคลากีฬาสถานอยู่ระหว่างดำเนินการ
นายธีระชน กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ กทม.ได้มอบบ.กรุงเทพธนาคม (จำกัด) บริหารจัดการโครงการรวมทั้งหาแหล่งเงินทุน แม้ว่ากทม.จะใช้งบประมาณกทม.แต่เป็นการผ่อนชำระ 10 ปี เบื้องต้นทราบว่ามีสถาบันการเงินหลายแห่งอาทิ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน หรือแม้แต่สถาบันการเงินจากญี่ปุ่นก็เสนอตัวที่จะให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำด้วย
“จากที่ให้เอกชนดำเนินการในเส้นแรกก็ไม่มีปัญหาหาบเร่ นอกจากนี้เราจะไม่ทิ้งบาทวิถีแม้ส่วนตัวจะไม่เห็นด้วยกับโครงการประชาภิวัฒน์แต่จะพยายามจัดระเบียบโดยเฉพาะจุดกวดขันพิเศษ 5 จุด และจะไม่เป็นผลกระทบต่อผู้ค้ารายย่อยเพราะในชิคาโกพิสูจน์ชัดแล้วว่าค้าขายดีขึ้นโดยเฉพาะร้านค้าที่ไม่มีที่จอดรถ”นายธีระชนกล่าว.
