xs
xsm
sm
md
lg

โชว์ใบเสร็จมัด"มาร์ค" เอื้อบริษัทบุหรี่เลี่ยงภาษี6.8หมื่นล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า น่าจะมีขึ้นในสัปดาห์ถัดไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภา เพื่อที่จะให้มีการตรวจสอบตามระบบรัฐสภาต่อไป
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเลื่อนวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ดูเหมือนว่ายังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่า อยากจะถามไปยังนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าความชัดเจนในเรื่องนี้อยู่ ณ ตรงไหน รวมไปถึงนายชัย ต้องแสดงความรับผิดชอบว่า มีการอภิปรายได้เมื่อใด ตนต้องการเรียกร้องไปยังฟากรัฐบาลให้หยุดเล่นเกมทางการเมือง เพราะรัฐบาลต้องการยื้อเวลา เพื่อรอให้ข้อสอบรั่วไหล แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีข้อสอบรั่วออกไป รัฐบาลจึงพยายามถ่วงเวลาออกไปเรื่อยๆ เหมือนคนไม่มีน้ำในนักกีฬา

**แฉ"มาร์ค"แทรกแซงคดีภาษีบุหรี่
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เปิดแถลงข่าวกรณี พรรคเพื่อไทยได้ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจพร้อมกับยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรี กรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไปแทรกแซงองค์กรในกระบวนการยุติธรรม ที่ดำเนินคดีผู้กระทำผิดในคดีอาญา ในข้อหาแสดงภาษีอันเป็นเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี กรณี บริษัทฟิลิป มอร์ริสไทยแลนด์ ลิมิเต็ด ซึ่งทำให้รัฐเสียประโยชน์ในการจัดเก็บภาษีเป็นเงิน 68,881,394,278.69 บาท ทำให้รัฐเสียหาย เป็นเหตุให้พรรคต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และยื่นถอดถอนต่อป.ป.ช.ด้วย
ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ เป็นคนชอบสร้างภาพพจน์ว่าตัวเองขาวสะอาด แต่กลับใช้คนใกล้ชิดคือ "เสี่ย ก." ที่ทำงานในทำเนียบรัฐบาล เป็นคนคอยวิ่งเต้น ล็อบบี้คดีดังกล่าว นายกฯ ก็รู้อยู่แล้วว่า เสี่ย ก. คนนี้เป็น ล็อบบี้ยิสต์ชื่อดังของประเทศไทย นายกฯก็ยังใช้คนๆนี้ทำงาน จนสุดท้ายทำให้รัฐเสียหายกว่า 6.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งนายกฯ ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้นายกฯ ยังไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาชั้นอัยการ ซึ่งถือเป็นการทำความผิดตามรัฐธรรมนูญ 255 วรรคสอง

** งัดเอกสารใบเสร็จโชว์
ทั้งนี้ นายยุทธพงศ์ กล่าวพร้อมแสดงสำเนาเอกสาร ที่อ้างว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ย .52 กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม โดยอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าหนักงานสืบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งฟ้องคดีพิเศษที่ 79/2549 คดีระหว่าง นายสมชัย อภิวัฒนพร รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ผู้กล่าวหา บริษัทฟิลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์ ลิมิเต็ด) โดยนายจรณชัย ศัลยพงษ์ กับพวกรวม 14 คน เป็นผู้ต้องหาฐานความผิดพ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ.2509 และพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 โดยราคาทรัพย์ที่ถูกประประทุษร้าย ค่าภาษีอากรต่างๆ ต่ำไปประมาณ 68,881,394,278.69 บาท อย่างไรก็ดี นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ส่งคดีไปที่สำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว
ต่อมาเมื่อ 2 ก.ย. 53 สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ นร .0412/ ว 9267 โดยนายกฯได้เรียกหน่วยงานต่างๆ คือ สำนักงานอัยการสูงสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต มาทบทวนคดีดังกล่าว จึงอยากถามว่า นายกฯใช้อำนาจอะไร ไปเรียกอัยการมาทบทวนคดี ซึ่งถือว่าผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 255
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำเนาเอกสารที่ นายยุทธพงศ์ ใช้แถลงข่าวว่า คนใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์เป็นผู้ออกหนังสือนั้น เอกสารดังกล่าวมีสองฉบับ ส่วนเเรกคือ สำเนาหนังสือ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เลขที่นร. 0412/ ว 9267 ลงวันที่ 6 ก.ย. 53
เรื่องข้อพิพาทกรณีการนำเข้าบุหรี่จากฟิลิปปินส์ ภายใต้องค์การการค้าโลก( WTO ) เรียนอธิบดีกรมศุลลากรว่า ตามที่ฟิลิปปินส์ ได้ฟ้องไทยภายใต้กลไกระงับข้อพิพาทขององค์การการค้าโลก ( WTO Dispute Settlement Body :DSB ) ช่วงเดือนส.ค.53 คณะผู้พิจารณาคดีได้รายงานผลการพิจารณาเบื้องต้นแล้วนั้น เนื่องจากเรื่องดังกล่าวมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศและความสัมพันธ์กับฟิลิปปินส์ นายกรัฐมนตรีได้มีบัญชามอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กรมศุลกากร กรมสรรพากร กรมสรรพาสามิต สำนักงานอัยการสูงสุด กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานผู้แทนการค้าไทย ศึกษาและทบทวนความถูกต้องของทุกประเด็นในรายงานโดยละเอียดถี่ถ้วน ประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อไทย พร้อมทั้งเสนอแนวทางที่จะดำเนินการต่อไป และขอให้สรุปให้ประธานผู้แทนการค้าไทย ทราบโดยเร็ว ลงชื่อ นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝายข้าราชการประจำ ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ส่วนที่สองคือ สำเนาเอกสารสำนักคดี ภาษีอากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม รายงานการสอบสวนคดีพิเศษที่ 79/2549 วันที่ 2 ก.ย. 52 เสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ) คดีระหว่างนายสมชัย อภิวัฒนพร รองอธิบดีกรมสรรพสามิต พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ผู้กล่าวหา กับ บ.ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด จก. โดยนายจรณชัย ศัลยพงษ์ กับพวกรวม 14 คน ผู้ต้องหา ฐานความผิด ร่วมกันกระทำหรือจัดหรือยอมให้ผู้อื่นกระทำหรือยื่นหรือจัดให้ผู้อื่นยื่นซึ่งใบขนสินค้า คำสำแดง ใบรับรอง บันทึก เรื่องราวหรือตราสารอย่างอื่น ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในเรื่องใดๆ อันเกี่ยวด้วย พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 บังคับให้กระทำนั้นเป็นความเท็จก็ดี เป็นความไม่บริบูรณ์ก็ดี หรือเป็นความชักพาให้ผิดหลงในรายการใดๆ และร่วมกันเกี่ยวข้องด้วยประการใดๆในการหลีกเลี่ยง หรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียค่าภาษีศุลกากรและร่วมกันมียาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบตาม พ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ. 2509 ไว้ในครอบครองเกินกว่า 500 กรัม และร่วมกันมีไว้เพื่อขายยาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบตาม.ร.บ.ยาสูบพ.ศ. 2509 วันเกิดเหตุระหว่างวันที่ 28 ก.ค. 2546 ถึงวันที่ 20 ก.พ. 2550 เวลากลางวัน และกลางคืน ตำบลที่เกิดเหตุ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี คลังสินค้าทัณฑ์บน จ.ปทุมธานี และด่านศุลกากรลาดกระบัง กทม. ราคาทรัพย์ที่ถูกประทุษร้าย ค่าภาษีอากรต่างๆต่ำไปประมาณ 68,881,394,278 บาท
วันเวลาที่ร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ 21 ธ.ค. 2549 วันที่รับเป็นคดีพิเศษ 3 ส.ค.2549 เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง( 1) แห่งพ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และมติที่ประชุมกคพ.ครั้งที่ 2/2550 วันที่ 23 มี.ค. 2550 ให้ความผิดที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 29 ม.ค. 2548 เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 44 แห่งพ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษพ.ศ. 2547

** ยันถล่ม"มาร์ค"ในสภาอีกรอบ
ด้านนายประเกียรติ นาสิมมา คณะทำงานด้านกฎหมายของพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้เป็นผู้สั่งฟ้องบริษัทดังกล่าวโดยภายหลังจากที่มีการสั่งฟ้อง ตนไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นายอภิสิทธิ์ ได้มีการชี้แจงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ว่า เรื่องที่ได้สั่งฟ้องไปแล้วขอให้มีการทบทวน เพราะจะมีผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าการจับได้ว่าบริษัทดังล่าว มีการโกงเงินภาษีของประเทศไทยนั้นจะส่งผลต่อภาพลักษณณ์ของประเทศเช่นไร หรือว่านายอภิสิทธิ์ ไม่ใช่คนไทย ที่ถือสัญชาติอังกฤษ ที่แสดงให้เห็นว่าไม่มีความรักชาติ ตนจะนำเรื่องนี้ไปพูดถึงรายละเอียดในการอภิปรายอีกครั้งหนึ่ง

**'เกียรติ'ฉุน! พท.ปูด'ก.'ยุ่งเลี่ยงภาษี
นายเกียรติ สิทธีอมร ผู้แทนการค้าไทย กล่าวกรณี กระแสข่าวนักการเมืองที่มีอักษรย่อ 'ก.' คนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี เอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชนต่างประเทศ สำแดงราคานำเข้าบุหรี่จากต่างประเทศอันเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร จนเป็นเหตุให้รัฐเสียประโยชน์ในการจัดเก็บภาษี 68,000 ล้านบาท จนพรรคฝ่ายค้าน เตรียมนำเรื่องไปอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาว่า ต้องถามก่อนว่านักการเมืองพรรคพท. ที่ปูดข่าวเป็นใคร แต่เรื่องทั้งหมดให้ไปสอบถามกับนักข่าวสายเศรษฐกิจ เพราะทราบเรื่องทั้งหมดดี และตนก็เคยให้สัมภาษณ์ไปหลายครั้ง ขณะนี้เพียงรอฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา ที่จะมีขึ้นของพรรคเพื่อไทยว่าระบุถึงชื่อใครกันแน่ เพราะอักษร "ก." ในรัฐบาลมีหลายคน
ทั้งนี้ ไม่อยากให้นำเรื่องดังกล่าวไปเป็นประเด็นทางการเมือง เพื่อหาผลประโยชน์ เพราะสร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงประเทศเป็นอย่างมาก พร้อมกันนี้ยังคงปฏิเสธที่จะตอบคำถามหากมีการระบุถึงชื่อของตนเอง จะตัดสินใจดำเนินการตามกฎหมายหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ตั้งใจจะแถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ เพราะไม่มีประเด็นอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ว่า หากมีการถามถึงประเด็นนี้ ก็จะพูดคุยทำความเข้าใจ

** อัดพท.เล่นสกปรก-ทรยศชาติ
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การเลื่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า การบรรจุวาระเข้าสภาเป็นไปตามระเบียบ และข้อกำหนดของสภาอย่างเคร่งครัด การตรวจสอบเรื่องความครบถ้วนของรายชื่อส.ส. ที่ลงชื่อในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น เป็นการดำเนินการในส่วนของสภา พรรคไม่เกี่ยวข้อง และเห็นว่าแนวทางการเตรียมการของพรรคเพื่อไทย เริ่มแสดงให้เห็นว่าต้องกาให้สภานี้เป็นที่สร้างความแตกแยกทางการเมือง โดยการใช้การอภิปรายเป็นเวทีเพื่อขับเคลื่อนการเคลื่อนไหวนอกสภา ที่เตรียมการวันที่ 12 มี.ค. และสัญญาณที่ส่งมาโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่พยายามผูกโยงการเลือกตั้ง และการกลับมาสู่ประเทศไทย โดยไม่ต้องรับผิดชอบต่อคดีต่างๆ เป็นสิ่งที่พรรควิตกว่า จะนำไปสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง
ส่วนข้อกล่าวหาที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส. กทม พรรคเพื่อไทย ออกมาพาดพิงพรรคประชาธิปัตย์ว่า เล่นวิธีสกปรก ขอให้กลับไปใช้คำพูดนี้กับพรรคตัวเองจะดีกว่า เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสภา ไม่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ และไม่เคยมีพฤติกรรมสกปรกเหมือนพรรคที่สนับสนุนการเผาบ้านเมือง ประชาชนสามารถดูได้ว่าใครกันแน่ที่เล่นสกปรก และทรยศต่อประเทศชาติ

** รัฐบาลปัดดักฟังโทรศัพท์ล้วงข้อมูล
ส่วนที่หน่วยงานรัฐสภาได้ออกมาเปิดเผยถึงการดักฟังโทรศัพท์สมาชิกสภา นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ได้มีการตรวจสอบ และยืนยันว่าหน่วยงานภาครัฐ ภายใต้การตรวจสอบของรัฐบาล ได้ถูกกำชับอย่างชัดเจนว่า ไม่ให้ดำเนินการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลด้วยการดักฟังโทรศัพย์อย่างเด็ดขาด
นอกจากกรณีที่เป็นอาชญากรรมตามหมายศาลที่กระทบ และขัดต่อกฏหมายเท่านั้น แต่การดักฟังโทรศัพท์ ขององค์กรนอกภาครัฐที่เกี่ยวโยงกับบุคคลที่สูญเสียอำนาจทางการเมืองได้รับทราบมาในระยะหนึ่งแล้ว และส.ส.และรัฐมนตรี เองก็ได้ใช้ความระมัดระวังในการสื่อมาโดยตลอด ยืนยันว่าพฤติกรรมการใช้วิธีนอกกฏหมายเพื่อคุกคาม หรือล้วงความลับทางการเมืองจะต้องรับผิดชอบผลของการกระทำตามกฏหมายอย่างแน่นอน เพราะรัฐบาลมีแนวทางที่จะไม่ทำซ้ำกับการใช้เทคโนโลยีสื่อสารเพื่อดักฟังการทำงานของรัฐบาลเหมือนในอดีตอย่างแน่นอน

** ขู่อภิปรายภาษีบุหรี่เจอสวนแน่
นพ.บุรณัชย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีความพยายามโยงคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี ว่าเกี่ยวข้องกับคดีภาษีสรรพสามิตบุหรี่ นั้นขอท้าให้ฝ่ายค้านเปิดเผยรายชื่อในวันนี้ ( 7 มี.ค.) เพราะเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรง และคนกล่าวหาต้องรับผิดชอบ หากไม่มีหลักฐานยืนยัน ถือว่ามีการใส่ร้ายนายกฯโดยไม่มีข้อมูล และคนที่ถูกกล่าวหาก็จะนำข้อมูลมายืนยันเช่นเดียวกัน แต่พรรคได้ตรวจสอบแล้วยืนยันว่า นายกฯ และคนใกล้ชิดไม่มีพฤติกรรมแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เช่นเดียวกับพฤติกรรมของนายเก่า ที่ใช้วิธีการในการคุกคามแทรกแซงเปลี่ยนแปลงการดำเนินคดีในอดีตจนทำให้บ้านเมืองวิกฤตขอให้ฝ่ายค้านเตรียมตัวด้วยว่า ถ้ามีการพาดพิงในเรื่องนี้ให้เสียหายเตรียมรับหมายศาลได้เลย

** เสนอตั้งกก.ตรวจสอบเอกสาร-คลิป
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเสนอให้ตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งขึ้นมา ตรวจสอบเอกสาร คลิปวีดีโอ ที่ใช้ประกอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายควรให้ความร่วมมือ และสนับสนุน เพราะการมีคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะทำให้มีการแก้ปัญหาความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นระหว่างการอภิปรายได้ ไม่ต้องมีการทักท้วงหรือตรวจสอบว่ามีการใช้เอกสารปลอม บิดเบือนตัดต่อ ถ้าเอกสารประกอบการอภิปรายฯผ่านการตรวจสอบแล้ว ก็ถือว่าทุกฝ่ายควรให้การยอมรับ ถ้าไม่มีคณะกรรมการชุดดังกล่าวขึ้นมา จะทำให้ผู้อภิปรายบางคนใช้ความสามารถเฉพาะตัว เอาเรื่องเท็จมาพูดในสภา ซึ่งเป็นวิธีการที่ตัวเองถนัดเหมือนกับการบิดเบือนข้อมูลในการปราศรัยบนเวทีของคนเสื้อแดง ที่ใส่ร้ายรัฐบาลตลอดเวลา พยายามผลักให้รัฐบาลตกเป็นจำเลยของสังคม เป็นผู้ร้ายในสายตาประชาชน แล้วตัวเองเป็นฮีโร่ เป็นผู้ถูกกระทำจากรัฐบาล หากพรรคฝ่ายค้านมีความบริสุทธิ์ใจก็ควรที่จะสนับสนุนคณะกรรมการชุดดังกล่าว และส่งข้อมูลมาพิสูจน์กันให้เห็นต่อหน้าต่อตา

** เย้ยพท.ฟังแต่"แม้ว"ไม่ฟังประชาชน
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลโพลที่ประชาชนสนับสนุนให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นผู้นำอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่พรรคเพื่อไทย กลับสนับสนุนให้ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เป็นผู้นำอภิปรายฯแทน แสดงให้เห็นว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่ไม่ฟังเสียงประชาชน ฟังแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อเป็นเช่นนี้คงทำให้คอการเมือง และแฟนฟันธุ์แท้ของ ร.ต.อ.เฉลิม ผิดหวัง เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยก็คงจะไม่แคร์ผลสำรวจของประชาชน ดังนั้นร.ต.อ.เฉลิม ก็ควรที่จะพิจารณาสถานะของตัวเองว่าควรจะสังฆกรรมกับการอภิปรายฯครั้งนี้หรือไม่ การตัดสินใจกลับไปมาของร.ต.อ.เฉลิม ว่าจะร่วมอภิปรายบ้าง ไม่ร่วมบ้างอาจจะทำให้เกิดความเสื่อมได้
ส่วนผลสำรวจในประเด็นที่ประชาชนอยากเห็นการอภิปรายมากที่สุด คือ เรื่องปากท้องของประชาชนนั้น แสดงให้เห็นว่าประชาชนต้องการให้พูดเรื่องผลประโยชน์ของประชาชนมากกว่าผลประโยชน์ของนักการเมือง เพราะฉะนั้นการนำเอาประเด็นสลายการชุมนุม และทุจริตคอร์รัปชั่นมาอภิปรายฯ ประชาชนไม่สนับสนุน เพราะการอภิปรายฯ เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ผลประโยชน์ของประชนโดยตรง แต่เป็นการฟอกตัวให้กับแกนนำนปช.ให้พ้นจากความผิดที่ตัวเองก่อไว้
กำลังโหลดความคิดเห็น