“ชินวรณ์” แจกงานคณะกรรมการรับนักเรียน 2 ชุด ย้ำดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เดินสายสุ่มตรวจ ร.ร.ดัง สกัดแปะเจี๊ยะ “รศ.สุขุม” ปธ.คกก.ติดตามฯ ระบุ ร.ร.ต้องแจงโควตาเด็กผู้มีอุปการคุณ ทั้งประวัติ ข้อมูล และประกาศรายชื่อให้ชัด ลั่นต้องเข้าสู่กระบวนการสอบ หากติดนำชื่ออื่นมาแทนไม่ได้ พร้อมแจงคะแนนสอบตามลำดับ เน้นโปร่งใส แย้มมีดาบ 2 จัดการเด็กลักไก่ย้ายเข้า ร.ร.ดังเทอม 2
วันนี้(3 ก.พ.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ประสานงานการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2554 โดยมี นายสืบแสง พรหมบุญ ผู้ช่วย รมว.ศธ.เป็นประธาน และคณะกรรมการติดตามตรวจสอบและประเมินผลการรับนักเรียนของสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ปี 2554 โดยมี รศ.สุขุม เฉลยทรัพย์ เป็นประธาน เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ที่ประชุมได้มอบหมายใน 4 ประเด็น คือ 1.ให้คณะกรรมการฯ ทั้ง 2 ชุด ไปประชุมกำหนดกรอบอำนาจหน้าที่ ของตนเองให้ชัดเจน โดยตนได้เน้นย้ำให้คณะกรรมการ ทั้ง 2 ชุด ทำงานอย่างเต็มที่ 2.ให้ฝ่ายเลขานุการเตรียมข้อมูลและความพร้อมในการอำนวยความสะดวก ตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการทั้ง 2 ชุด 3.ให้คณะกรรมการติดตามฯ ร่วมกับผู้ตรวจราชการสุ่มตรวจโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเรียกรับเงิน หรือการฝากเด็กเกิดขึ้นและรายงานผลมายังตนเองทันทีเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาแบะวิธีป้องกันไม่ให้มีการฝากเด็กเกิดขึ้น และ 4.ให้คณะกรรมการทั้ง 2 ชุด สรุปติดตามและประเมินผล การรับนักเรียนให้เป็นไปตามนโยบายของ ศธ.
“ผมอยากฝากไปยังผู้ปกครอง โดยเฉพาะผู้มีบารมี ว่า หากพบว่ามีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเรียกรับเงิน ก็จะถูกสังคมจับตามอง และจะมีการดำเนินคดีทั้งทางอาญา และวินัย ต่อไป ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าการรับนักเรียนในปีนี้ จะทำให้คุณภาพการศึกษาสูงขึ้น และปลอดจากการเรียกรับเงิน และหาผลประโยชน์” รมว.ศธ.กล่าว
รศ.สุขุม กล่าวว่า การดำเนินการรับนักเรียนในปีนี้นั้นหากมีการรับฝากเด็กจะมีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจัง ไม่ใช่มีมาตรการที่เป็นเป็นเพียงเสือกระดาษเท่านั้น ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการติดตามฯ โดยแบ่งเขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 12 เขต ให้คณะกรรมการฯ ทั้ง 17 คน เพื่อให้ความรู้ คำแนะนำ ทั้งนี้ ให้เขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 12 เขต ดำเนินการทั้งการประสานงาน การลงพื้นที่ไปสถานศึกษาต่างๆ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้คณะกรรมการดังกล่าวอีกด้วย นอกจากนั้น จะดำเนินส่งรายชื่อคณะกรรมการไปยังโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงกว่า 300 แห่ง เพื่อให้ทางโรงเรียนรับทราบและเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่การทำงานของคณะกรรมการดังกล่าวต่อไป
รศ.สุขุม กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีที่โรงเรียนที่มีผู้มีอุปการคุณจะต้องทำประวัติ ข้อมูล และประกาศรายชื่อให้ชัดเจน ซึ่งผู้อุปการระคุณจะต้องแจ้งความประสงค์ที่จะฝากเด็กเป็นจำนวนกี่คน และต้องชี้แจงเหตุผลการฝากของเด็กได้ทุกคน ทั้งนี้จะต้องดูความเหมาะสมของการฝากด้วย ไม่ใช่สถานศึกษารับ 100 คน แต่ผู้อุปการคุณฝาก 20-30 คน ก็ไม่เหมาสม ซึ่งคณะกรรมการต้องร่วมกันกำหนดหลักเกณฑ์ตรงนี้ให้ชัดด้วย อีกทั้งเด็กที่อยู่ในรายชื่อเด็กฝากหรือผู้มีอุปการคุณก็ต้องเข้าสู่การสอบคัดเลือกด้วย ซึ่งหากสอบติด ผู้อุปการคุณจะนำบุคคลอื่นมาแทนที่ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การประกาศรายชื่อของนักเรียนที่สอบเข้านั้นจะต้องเป็นไปตามลำดับคะแนน หากมีคนที่สละสิทธิ์ก็ต้องดูคะแนนที่รองลงมา เนื่องจากจะมีการประกาศคะแนนอย่างชัดเจนและโปร่งใส
“ขณะนี้ได้มีมาตรการการป้องกันข้อสอบรั่ว โดยออกระเบียบ ว่า ครู อาจารย์ที่เกี่ยวข้องกับการสอบคัดเลือก อาทิ รับจ้างติวข้อสอบ ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย และตามที่มีกระแสออกมาว่าจะมีนักเรียนที่จะทำเรื่องย้ายไปยังโรงเรียนดังในช่วงกลางเทอม หรือ เทอม 2 นั้น ทำไม่ได้แน่นอน ซึ่งรมว.ศธ.ได้เตรียมดาบ 2 เอาไว้แล้ว ที่จัดการตรงนี้ แต่ขออุบไว้ก่อน ทั้งนี้หากมีการยุบสภาก่อนการรับนักเรียนเสร็จสิ้นมาตรการดังกล่าวก็ยังคงเดินหน้าต่อไป” รศ.สุขุม กล่าว
รศ.สุขุม กล่าวอีกว่า สำหรับโรงเรียนที่ทำดีไม่มีเรื่องของเด็กฝากเลยจะได้รับเกียรติบัตรยกย่อง แต่หากโรงเรียนใดมีการฝากเด็กนั้นจะดำเนินการเอาผิดกับผู้บริหารโรงเรียน โดยจะโยกย้ายออกจากพื้นที่ และหากมีหลักฐานการรับเงินอย่างชัดเจนจะดำเนินการตามกฎหมาย และมีการสอบสวนอย่างเด็ดขาด
