xs
xsm
sm
md
lg

KCEเล็งสวอปหนี้เป็นดอลลาร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพิธาน องค์โฆษิต รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน)หรือ KCE ซึ่งประกอบธุรกิจผู้ผลิตและส่งออกแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิปีนี้อยู่ที่ 9% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี 7.4% โดยการที่บริษัทจะมีการลดต้นทุนการดำเนินงาน ลดอัตราของเสียและบริหารความเสี่ยงอัตราเปลี่ยน ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการแปลงหนี้ (สวอป)ระยะยาวจากสกุลเงินบาทเป็นสกุลเงินดอลลาร์ประมาณ 1,000-1,500 ล้านบาท เพื่อป้องกันความเสี่ยงในเรื่องความผันผวนของค่าเงินบาท และขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับธนาคารพาณิชย์จำนวน 7-8 แห่งที่จะเข้ามาเสนออัตราดอกเบี้ย คาดว่าจะทำการแปลงหนี้ดังกล่าวได้ในช่วงในไตรมาส2/54
" ปัจจัยความเสี่ยงที่สุดในการทำธุรกิจของบริษัทคือค่าเงินบาท ทำให้บริษัทต้องมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีหนี้ทั้งหมด 4,900 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ระยะสั้นกว่า 3 พันล้านบาท และหนี้ระยะยาวกว่า 1 พันล้านบาท โดยบริษัทจะแปลงหนี้ระยะยาวจากสกุลเงินบาทเป็นสกุลดอลลาร์ ซึ่งขณะนี้บอร์ดบริษัทอนุมัติแล้ว ขณะนี้รอเจรจารายละเอียดกับธนาคารพาณิชย์ คาดแปลงหนี้ได้ในไตรมาส2/54 " นายพิธานกล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังจะมีการเจรจากกับธนาคารพาณิชย์ในการจะเปลี่ยนการคิดอัตราดอกเบี้ยจากลอยตัวเป็นคงที่ จากที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะมีการปรับขึ้นในอนาคต ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถลดต้นทุนในเรื่องอัตราดอกบี้ย นอกจากนี้บริษัทจะผลักดันให้โรงงานบริษัทลูกอีก 2 โรงงานมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 90 % จากปีที่ผ่านมีกำลังการผลิตเฉลี่ย 70% ซึ่งจะมีผลทำให้ยอดขายของบริษัทมีการเติบโตเพิ่มขึ้นปีนี้ ประมาณ 18% เพราะเคซีอี อีเลคโทรนิคส์บริษัทแม่ปัจจุบันมีกำลังการผลิตเกือบเต็มแล้ว
โดยบริษัทจะเน้นผลิตสินค้าไฮเทคมากขึ้นปีนี้เป็น 30% จากที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ถึง 50-70% ทำให้สัดส่วนยอดขายสินค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ลดลงเหลือ 60% จากปีก่อนที่มีสัดส่วน 65% โดยปีนี้บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตประมาณ 15-20% มาอยู่ที่ 270 ล้านดอลล่าสหรัฐฯ จากปี 53 ที่มีรายได้รวม 229.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 7,245.2 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามาจนถึง เดือนพฤษาคมนี้แล้ว โดยช่วง ไตรมาส1/54 ถือว่าบริษัทมีคำสั่งซื้อสินค้าสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่งจากคำสั่งซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้นทั้งลูกค้ารายใหม่และรายเก่า ซึ่งปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีลูกค้ารายใหม่เพิ่มอีก 5-8 ราย
นายพิธาน กล่าวว่า บริษัทคาดปีนี้จะมีการเดินทางไปให้ข้อมูลบริษัท (โรดโชว์)กับนักลงทุนต่างประเทศจากที่ผ่านมาบริษัทเน้นที่จะทำให้บริษัทมีผลการดำเนินงานเติบโตที่ดีต่อเนื่องเพื่อให้เป็นที่น่าสนใจแก่นักลงทุน ซึ่งหากปีนี้บริษัทเพิ่มกำลังการผลิตของบริษัทลูกได้ก็จะยิ่งทำให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีพร้อมที่จะไปให้ข้อมูลแก่นักลงทุนต่างประเทศ โดยปัจจุบันนั้นมีธนาคารต่างประเทศจำนวน หลายแห่งชวนให้บริษัทไปโรดโชว์ เพื่อหวังให้สถาบันต่างประเทศเข้ามาถือหุ้นของบริษัทมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีการถือหุ้นไม่ถึง 10%
ทั้งนี้บริษัทหวังให้สถาบันเข้ามาถือหุ้นประมาณ 30-40% ซึ่งจะทำให้ปริมาณหุ้นหมุนเวียนในตลาด (ฟรีโฟลท)ของบริษัทลดลงจากที่ปัจจุบันหุ้นของบริษัทมีฟรีโฟลทสูงถึง 70-80% ซึ่งทำให้ราคาหุ้นของบริษัทผันผวนสูง และเป็นการเข้ามาซื้อหุ้นในกระดานไม่ใช่การเพิ่มทุนหรือซื้อหุ้นจากผู้บริหาร
สำหรับแผนการเพิ่มกำลังผลิตนั้นขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาตัดสินใจลงทุน 9-12 เดือน ซึ่งหากบริษัทตัดสินใจที่จะสร้างโรงงานเพิ่มคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากการกู้เงินจากสถาบันการเงิน และจากกระแสเงินสดของบริษัท โดยการลงทุนจะเป็นลักษณะการทยอยลงทุน ซึ่งการลงทุนระยะแรก (เฟส1)คาดใช้เงินประมาณ 1,200-1,300 ล้านบาท ที่เหลือลงทุนในเฟสที่ 2 โดยจะส่งผลให้กำลังการผลิตของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 2 ล้านตารางฟุต เป็น 2.5 ล้านตารางฟุต ซึ่งโรงงานดังกล่าวจะใช้เวลาในการดำเนินก่อสร้างประมาณ 2 ปีครึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น