ส.โรงแรมไทย เตรียมใช้เวทีงาน ไอทีบี ที่เยอรมัน อ้อนยุโรป ชะลอการเรียกเก็บค่า ธรรมเนียมการเดินทาง หวั่นกระทบจำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรปหาย พร้อมเตรียมแผนก๊อกสอง หันซบตลาดเอเชีย ล่าสุดผนึกพันธมิตร ททท. กฟผ. การประปานครหลวง เซ็นMOU โปรโมทโครงการใบไม้สีเขียวเกาะกระแสการอนุรักษ์ ดึงยุโรปใช้บริการ
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย(ที่เอชเอ) เปิดเผยว่า สมาคมจะใช้โอกาสเดินทางไปร่วมงานส่งเสริมการท่องเที่ยว ไอทีบี ซึ่งจัดที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ในกลางเดือนมีนาคมนี้ ร่วมหารือในที่ประชุมที่จะเกิดขึ้นที่งานดังกล่าว ในประเด็นความกังวลว่า ยุโรปจะประกาศให้ทุกประเทศในประชาคมจัดเก็บค่าธรรมเนียมการเดินทางออกนอกประเทศด้วยเครื่องบิน โดยจะเริ่มตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการเดินทางออกนอกประเทศของคนยุโรปต้องสูงขึ้น จึงต้องการขอให้สหภาพยุโรปทบทวนการออกมาตรการดังกล่าว มิฉะนั้นจะส่งผลกระทบต่อภาวะการท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่หากยุโรปยังยืนยันที่จะออกมาตรการดังกล่าว ผู้ประกอบการการคนไทยก็ต้องปรับแนวทางการทำงาน หันมาจับตลาดนักท่องเที่ยวระยะใกล้ ย่านเอเชีย ให้มากขึ้นเพื่อทดแทนจำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่จะลดลง
“ปัจจุบัน มาตรการเก็บค่าธรรมเนียมการเดินทาง เริ่มประกาศใช้แล้วในประเทศอังกฤษ เยอรมนี และหากทั้งกลุ่มประเทศในยุโรปใช้มาตรการนี้กันหมด แน่นอนว่าไทยจะต้องได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวยุโรปลดลง”
สำหรับสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศตะวันออกกลาง ล่าสุด ยังไม่กระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทสดังกล่าวที่เดินทางมาประเทศไทยในช่วงเดือนที่ผ่านมา แต่คาดว่าหากเหตุการณ์ยังไม่ยุติ กลางเดือนมีนาคมนี้ จะเห็นผลกระทบแน่นอน เชื่อว่านักท่องเที่ยวจากตลาดดังกล่าวจะชะลอการเดินทาง แต่หากยุติเร็วก็จะไม่กระทบ อีกสิ่งหนึ่งที่ภาคเอกชนเป็นห่วงหากสถานการณ์ยืดเยื้อ คือ จะมีผลทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นตรงนี้จะมีผลโดยตรงต่อการเดินทางท่องเที่ยว เพราะทำให้ค่าใช้จ่ายการเดินทางปรับสูงขึ้น
ทางด้านนายชัชวาล ศุภชยานนท์ รองประธานมูลนิธิใบไม้เขียว กล่าวว่า ได้จับมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เดินทางไปร่วมงาน ไอทีบี ปรเทศเยอรมนี เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ โดยจะนำกิจกรรมของมูลนิธิที่ดำเนินการไปแล้ว และมีจะทำต่อ ออกไปเผยแพร่ ช่ เพื่อกระตุ้นให้เอเจ้นท์ทัวร์ในต่างประเทศเกิดการรับทราบว่าไทยมีโครงการดเานการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพราะ ชาวยุโรปจะให้ความสำคัญเรื่องนี้และเลือกที่จะใช้บริการโรงแรมที่ใช้แนวคิดด้านการอนุรักษ์ อีกทั้งยังเป็นกลยุทธ์ให้โรงแรมในประเทศไทยตื่นตัวมาเข้าร่วมโครงการมากขึ้น
ล่าสุดร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับ ททท. , การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.), การประปานครหลวง, สมาคมโรงแรมไทย และสมาคมพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ในการสร้างสรรค์กิจกรรม ด้านสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยว เพื่อสนับสนุนให้โรงแรมไทยเข้าร่วมโครงการมาตรฐานโรงแรมใบไม้เขียว เพื่อเกาะกระแสที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ อย่างไรก็ตาม การจัดทำมาตรฐานใบไม้เขียว ที่ปรับปรุงครั้งที่ 4 ซึ่งจะมีเงื่อนไขที่เข้มข้นกว่าเดิม ทำให้โรงแรมที่ร่วมโครงการใบไม้เขียว ที่จะได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสูงสุด (ใบไม้เขียว 5 ใบ) ซึ่งแสดงว่ามีความสามารถจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในโรงแรมมากที่สุด จะต้องปรับแนวทางการปฏิบัติให้เข้มงวดขึ้น ปัจจุบันทีโรงแรมเข้าร่วมโครงการนี้แล้วกว่า 700 แห่งทั่วประเทศหรือราว ครึ่งหนึ่งของโรงแทั้งหมดแต่มีผ่านมาตรฐานสูงสุดเพียง 15% ของจำนวนโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ โดยส่วนใหญ่จะได้มาตรฐานในระดับปานกลางคือใบไม้สีเขียว 2-3 ใบ จากการโปรโมทโครงการนี้ ทำให้โรงแรมหใม่ๆเริ่มตื่นตัว สมัครเข้าร่วมโครงการมากขึ้น
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย(ที่เอชเอ) เปิดเผยว่า สมาคมจะใช้โอกาสเดินทางไปร่วมงานส่งเสริมการท่องเที่ยว ไอทีบี ซึ่งจัดที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ในกลางเดือนมีนาคมนี้ ร่วมหารือในที่ประชุมที่จะเกิดขึ้นที่งานดังกล่าว ในประเด็นความกังวลว่า ยุโรปจะประกาศให้ทุกประเทศในประชาคมจัดเก็บค่าธรรมเนียมการเดินทางออกนอกประเทศด้วยเครื่องบิน โดยจะเริ่มตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการเดินทางออกนอกประเทศของคนยุโรปต้องสูงขึ้น จึงต้องการขอให้สหภาพยุโรปทบทวนการออกมาตรการดังกล่าว มิฉะนั้นจะส่งผลกระทบต่อภาวะการท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่หากยุโรปยังยืนยันที่จะออกมาตรการดังกล่าว ผู้ประกอบการการคนไทยก็ต้องปรับแนวทางการทำงาน หันมาจับตลาดนักท่องเที่ยวระยะใกล้ ย่านเอเชีย ให้มากขึ้นเพื่อทดแทนจำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่จะลดลง
“ปัจจุบัน มาตรการเก็บค่าธรรมเนียมการเดินทาง เริ่มประกาศใช้แล้วในประเทศอังกฤษ เยอรมนี และหากทั้งกลุ่มประเทศในยุโรปใช้มาตรการนี้กันหมด แน่นอนว่าไทยจะต้องได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวยุโรปลดลง”
สำหรับสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศตะวันออกกลาง ล่าสุด ยังไม่กระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทสดังกล่าวที่เดินทางมาประเทศไทยในช่วงเดือนที่ผ่านมา แต่คาดว่าหากเหตุการณ์ยังไม่ยุติ กลางเดือนมีนาคมนี้ จะเห็นผลกระทบแน่นอน เชื่อว่านักท่องเที่ยวจากตลาดดังกล่าวจะชะลอการเดินทาง แต่หากยุติเร็วก็จะไม่กระทบ อีกสิ่งหนึ่งที่ภาคเอกชนเป็นห่วงหากสถานการณ์ยืดเยื้อ คือ จะมีผลทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นตรงนี้จะมีผลโดยตรงต่อการเดินทางท่องเที่ยว เพราะทำให้ค่าใช้จ่ายการเดินทางปรับสูงขึ้น
ทางด้านนายชัชวาล ศุภชยานนท์ รองประธานมูลนิธิใบไม้เขียว กล่าวว่า ได้จับมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เดินทางไปร่วมงาน ไอทีบี ปรเทศเยอรมนี เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ โดยจะนำกิจกรรมของมูลนิธิที่ดำเนินการไปแล้ว และมีจะทำต่อ ออกไปเผยแพร่ ช่ เพื่อกระตุ้นให้เอเจ้นท์ทัวร์ในต่างประเทศเกิดการรับทราบว่าไทยมีโครงการดเานการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพราะ ชาวยุโรปจะให้ความสำคัญเรื่องนี้และเลือกที่จะใช้บริการโรงแรมที่ใช้แนวคิดด้านการอนุรักษ์ อีกทั้งยังเป็นกลยุทธ์ให้โรงแรมในประเทศไทยตื่นตัวมาเข้าร่วมโครงการมากขึ้น
ล่าสุดร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับ ททท. , การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.), การประปานครหลวง, สมาคมโรงแรมไทย และสมาคมพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ในการสร้างสรรค์กิจกรรม ด้านสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยว เพื่อสนับสนุนให้โรงแรมไทยเข้าร่วมโครงการมาตรฐานโรงแรมใบไม้เขียว เพื่อเกาะกระแสที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ อย่างไรก็ตาม การจัดทำมาตรฐานใบไม้เขียว ที่ปรับปรุงครั้งที่ 4 ซึ่งจะมีเงื่อนไขที่เข้มข้นกว่าเดิม ทำให้โรงแรมที่ร่วมโครงการใบไม้เขียว ที่จะได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสูงสุด (ใบไม้เขียว 5 ใบ) ซึ่งแสดงว่ามีความสามารถจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในโรงแรมมากที่สุด จะต้องปรับแนวทางการปฏิบัติให้เข้มงวดขึ้น ปัจจุบันทีโรงแรมเข้าร่วมโครงการนี้แล้วกว่า 700 แห่งทั่วประเทศหรือราว ครึ่งหนึ่งของโรงแทั้งหมดแต่มีผ่านมาตรฐานสูงสุดเพียง 15% ของจำนวนโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ โดยส่วนใหญ่จะได้มาตรฐานในระดับปานกลางคือใบไม้สีเขียว 2-3 ใบ จากการโปรโมทโครงการนี้ ทำให้โรงแรมหใม่ๆเริ่มตื่นตัว สมัครเข้าร่วมโครงการมากขึ้น