"ชุมพล"เดินหน้าเสนอตัวทุกเจ้าภาพกีฬา

นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยยังมีความหวังและยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์และการจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบโดยให้เสนอตัวทุกเจ้าภาพกีฬาที่เป็นไปได้และมีความพร้อมมากที่สุด ที่ผ่านมาถือเป็นบทเรียนที่จะต้องเตรียมพร้อมให้มากกว่าเดิม

เมื่อเวลา 09.30 น. วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554 นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (รมว.กก.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ ครั้งที่ 2/2554 พร้อมด้วยนายบรรหาร ศิลปอาชา ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ, นายสมบัติ คุรุพันธ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกรรมการฯ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพ

โดยส่วนใหญ่เป็นการายงานเรื่องเพื่อทราบรวมถึงความก้าวหน้าในการดำเนินงานของหน่วยงานด้านกีฬา ในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คือ กรมพลศึกษา, สถาบันการพลศึกษา และการกีฬาแห่งประเทศไทย สำหรับในส่วนของการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2554 ณ วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาของกรมพลศึกษา มีการเบิกจ่าย 824,759,238 บาท จากงบประมาณที่ได้รับ 1,887,561,600 บาท ส่วนสถาบันการพลศึกษา มีการเบิกจ่าย 614,238,927 บาท จากงบประมาณที่ได้รับ 2,014,684,800 บาท และการกีฬาแห่งประเทศไทย มีการเบิกจ่าย 1,496,186,264 บาท จากงบประมาณที่ได้รับ 3,636,753,800 บาท

สำหรับรายงานความก้าวหน้าการก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอและตำบลที่กรมพลศึกษาเป็นผู้ดำเนินการ แบ่งเป็น ระดับอำเภอ 690 อำเภอ วงเงิน 16,560 ล้านบาท และระดับตำบล 1,114 ตำบล วงเงิน 13,368 ล้านบาท ตามนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ต้องการเสริมสร้างโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มออกกำลังกายและเล่นกีฬา โดยประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ, รัฐวิสาหกิจ, ภาคธุรกิจ, เอกชน, ชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีส่วนร่วมในการพัฒนากีฬา จัดหาสถานที่จัดกิจกรรมการออกกำลังกายและเล่นกีฬาอย่างทั่วถึง รวมทั้งส่งเสริมให้เยาวชนมีความสนใจในการกีฬาและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ รวมถึงปรับปรุงระบบบริหารจัดการด้านการกีฬา โดยส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีบทบาทและมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการกีฬา จัดกิจกรรมและสถานกีฬา รวมทั้งจัดสร้างลานกีฬา ให้ทุกหมู่บ้านและชุมชน เพื่อพัฒนากีฬาสู่ความเป็นเลิศ

โดยมีการเร่งรัดการพัฒนารวมทั้งก่อสร้างสนามกีฬาต่างๆ ภายในสถานกีฬาทั้ง 28 แห่งของสถาบันการพลศึกษา มีการจัดตั้งศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติทั่วทุกภาค รวม 5 แห่ง โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมทั้งนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้ จัดให้มีการควบคุมมาตรฐานการฝึกสอนด้านกีฬาให้มีคุณภาพ และสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมกีฬาไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและได้รับการยอมรับจากสากล

ขณะที่ความก้าวหน้าโครงการ "รัฐวิสาหกิจรวมพลัง กีฬาไทยเข้มแข็ง" ซึ่งเดิมชื่อว่าโครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ ที่ได้สิ้นสุดโครงการไปแล้ว โดยรัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญจึงได้มีแนวคิดที่จะสานต่อโครงการดังกล่าว โดยแบ่งการสนับสนุนออกเป็น 7 หมวด คือ หมวดการพัฒนากีฬา, หมวดการส่งแข่งขัน, หมวดการจัดการแข่งขัน, หมวดพัฒนาบุคลากร, หมวดวิทยาศาสตร์การกีฬา, หมวดบริหารงาน และหมวดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนากีฬา ในส่วนของมาตรการลดหย่อนภาษี ได้มอบหมายให้กรมสรรพากร ไปดำเนินการยกร่างระเบียบเพื่อเสนอขอความเห็นชอบจากรัฐบาลต่อไป

อย่างไรก็ตามระหว่างที่มีการดำเนินการดังกล่าวได้มีสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยและรัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการจับคู่กันเอง ต่อเนื่องจากปี พ.ศ.2548 - 2551 เป็น พ.ศ.2552 - 2555 จำนวน 6 รัฐวิสาหกิจ / 1 เอกชน กับ 9 สมาคมกีฬาดังนี้ 1.บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สนับสนุนสมาคมกีฬาเทนนิสและฟุตบอล จำนวน 120 ล้านบาท, 2.ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) สนับสนุนกีฬามวยสากล จำนวน 60 ล้านบาท, 3.ธนาคารออมสิน สนับสนุนสมาคมกีฬาว่ายน้ำ จำนวน 24 ล้านบาท, 4.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สนับสนุนสมาทกีฬาเทควันโด จำนวน 68 ล้านบาท, 5.การประปานครหลวง สนับสนุนสมาคมกีฬาโบว์ลิ่ง จำนวน 7.5 ล้านบาท, 6.การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สนับสุนนสมาคมกีฬายกน้ำหนักและเปตอง จำนวน 45 ล้านบาท และ 7.บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) สนับสนุนสมาคมกีฬาแบดมินตัน จำนวน 90 ล้านบาท

ทั้งนี้ นายชุมพล กล่าวทิ้งท้ายว่า "ผมต้องการเห็นการพัฒนาในส่วนของนักกีฬาของไทย โดยมีแนวคิดที่จะเสริมสร้างความเป็นเลิศ มุ่งให้เยาวชน มีการฝึกฝนกีฬาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ โดยมอบหมายให้สถาบันการพลศึกษา ไปศึกษาความเป็นไปได้เชิงปฏิบัติการ เพราะหากฝึกฝนกีฬาตั้งแต่เด็กๆ แล้วจะทำให้นักกีฬาพัฒนาสู่ความเป็นเลิศได้อย่างรวดเร็ว ในส่วนของการเบิกจ่ายงบประมาณต่างๆก็เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ในส่วนของโครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ ตนจะเร่งทางกระทรวงการคลัง เพื่อหาข้อตกลงในการดำเนินงานต่อไป"
 
"ในส่วนของการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์นั้น ตนยังมีความหวังอยู่และยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจแน่นอน ตามมติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ ทั้งนี้ยังคงให้การกีฬาแห่งประเทศไทย ไปดำเนินการอย่างต่อเนื่อง หากครั้งนี้ไม่ได้ครั้งต่อไปก็อาจจะเป็นไปได้ โดยให้เสนอตัวทุกเจ้าภาพกีฬา ที่เป็นไปได้และมีความพร้อมมากที่สุด ที่ผ่านมาถือเป็นบทเรียนที่จะต้องเตรียมพร้อมให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ไม่อยากให้ทุกฝ่ายต้องท้อถอยบนความไม่พร้อมแต่จะต้องช่วยกันทำทุกอย่างเพื่อประเทศชาติ" รมว.กก.เผยอย่างมุ่งมั่น