xs
xsm
sm
md
lg

ส.ส.ภูเก็ต ฉะ ททท.ตั้งเป้าตัวเลขนักเที่ยวต่ำเกินไป - ชี้น่าจะอยู่ที่ 18 ล้านคนจากเศรษฐกิจโลกดี-การเมืองนิ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “ทศพร เทพบุตร” ประธานคณะอนุกรรมาธิการการท่องเที่ยว ฉะ ททท.ตั้งเป้าตัวเลขนักท่องเที่ยวเข้าไปต่ำเกินไปเพิ่มแค่ 11% ทั้งๆ ที่การเมืองสงบ เศรษฐกิจโลกดีขึ้น เผยตัวเลขที่เหมาะสมน่าจะอยู่ที่ 18 ล้านคน

นายทศพร เทพบุตร ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ในวันศุกร์ที่ 25 ก.พ.นี้ ตนในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการการท่องเที่ยว จะเข้าไปหารือกับปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถึงปัญหาทางการท่องเที่ยวใน 3 ประเด็นหลักด้วยกัน คือ การปรับเป้าหมายตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทย โดยทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้มีการประมาณการตัวเลขนักท่องเที่ยวที่จะเข้าประเทศไทยในสิ้นปีนี้ ว่า เพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกับปี 2553 คือ 11% ซึ่งตนคิดว่าเป็นเป้าหมายที่ต่ำเกินไป

เพราะจากสถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาประเทศไทยในปี 2552 อยู่ที่ 11.9 ล้านคน ปี 2553 จำนวน 15.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11.9% ทั้งที่ในปีดังกล่าวประเทศไทยมีปัญหาทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจทั่วโลกอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่ในปีนี้ปัญหาทางการเมืองไม่ได้รุนแรงและเศรษฐกิจโลกเริ่มดีขึ้นแล้ว มีเพียงปัญหาในตะวันออกกลางเท่านั้น ซึ่งคิดว่าไม่น่าที่จะลุกลามไปยังภูมิภาคอื่นๆ บวกกับนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง ที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทยก็ไม่ได้มีจำนวนมากนัก สามารถที่จะหาตลาดอื่นๆ ที่มีกำลังซื้อสูงและเศรษฐกิจดีมาทดแทนได้ อย่างเช่นตลาดใกล้บ้าน ทั้ง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม เป็นต้น

ดังนั้น ตนได้เสนอตัวเลขเป้าหมายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเข้าไทยน่าจะอยู่ที่ 18 ล้านคน ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกแรงในการดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศให้มากกว่านี้ มีกลยุทธ์ในการเจาะตลาดที่ชัดเจน ทั้งตลาดใหม่ ตลาดที่มาซ้ำ อย่างกรณีงาน ITB ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ในเดือน มี.ค.นี้ ควรใส่ใจในมากกว่านี้

ส่วนตลาดภายในประเทศนั้น ไม่น่าเป็นห่วง เพราะปีนี้เชื่อว่าคนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมาที่เดินทางไปท่องเที่ยวรับลมหนาวทางภาคเหนือ และพืชผลทางการเกษตรราคาดีจะทำให้มีการท่องเที่ยวแบบครอบครัวมากขึ้น

รื้อกฎหมายบริษัทนำเที่ยวต่างชาติในไทย

นายทศพร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะมีการเสนอให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เป็นเจ้าภาพในการแก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบของบริษัทนำเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาจ้างให้คนไทยขายทัวร์จะต้องจดทะเบียนในประเทศไทย และมัคคุเทศก์นำเที่ยวจะต้องมีใบอนุญาตด้วย และกรณีที่เกิดความเสียหายกับคนไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศให้กระทรวงท่องเที่ยวฯเป็นผู้เสียหายรวม ในการดำเนินการทางกฎหมายอาญากับบริษัทนำเที่ยว เพราะกฎหมายเพ่งนั้นบริษัทนำเที่ยวสามารถที่จะตกลงกับผู้เสียหายได้ เนื่องจากขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ในประเทศไทยทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานต่างๆ ได้จัดการท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศมากขึ้น หากเกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหายขึ้นทางบริษัทนำเที่ยวจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

รวมทั้งจะให้ทางกระทรวงท่องเที่ยวฯเป็นเจ้าภาพ ในการยกระดับราคาค่าห้องพัก อาหาร และเครื่องดื่ม สำหรับตลาดกลุ่มประชุมสัมมนาให้เป็นมาตรฐานที่สูงขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันราคาห้องพัก อาหารที่โรงแรมได้รับจากกลุ่มประชุมสัมมนาต่ำมากไม่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
กำลังโหลดความคิดเห็น