ASTVผู้จัดการรายวัน – ททท.ผนึกเอกชน วางแผนตะครุบนักท่องเที่ยวยุโรป เผย 24 สำนักงานททท.ต่างประเทศลงขัน 10 ล้านบาท ยึดเวที ITB เปิดโครงการ “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ สต็อปโอเวอร์” ผนึกพันธมิตรต่างประเทศ ขายแพกเกจทัวร์ตั้งแต่ต้นทาง
นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมโรงแรมไทย สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว สมาคมสวนสนุก จัดทำโครงการ “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ สต็อปโอเวอร์”
เพือ่ส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวประเทศไทย จากกลุ่มนักเดินทางที่ใช้ไทยเป็นจุดต่อเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อไปยังประเทศอื่น ซึ่งจะใช้งบประมาณ 10 ล้านบาท จาก 24 สำนักงานททท.ในต่างประเทศ ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อทุกช่องทาง รวมถึงโซเซียลเน็คเวิร์ด เป้าหมายคือต้องการขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่จากยุโรปที่ยังไม่เคยพักในประเทศไทย ให้เข้ามาชดเชยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ ระยะเวลาโครงการนาน 7 เดือน เริ่ม มี.ค.-ก.ย.54
ทั้งนี้ที่ประชุมได้มอบหมายให้ภาคเอกชน บริษัทนำเที่ยวไปดำเนินการจัดทำแพกเกจทัวร์ 1-2 คืน นำเสนอขายเส้นทางกรุงเทพฯและปริมณฑล มานำเสนออีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไป เพื่อจะนำโครงการไปเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเวที งานส่งเสริมการท่องเที่ยว ITB (International Tourismus Borse) กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ต้นมีนาคมนี้ พร้อมทำ MOUกับทัวร์ โอเปอเรเตอร์
***คาด 7 เดือนโกยกว่า 750 ล้านบาท****
แผนการทำงาน ได้แก่ 1. สื่อสารให้นักท่องเที่ยวต่างชาติรับรู้ว่า กรุงเทพฯเป็นเมืองน่าท่องเที่ยวและรัฐก็ยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว 2.เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวจากยุโรป ที่จะเดินทางไปร่วมชมการแข่งขัน เวิลด์รักบี้ ที่นิวซีแลนด์เป็นเจ้าภาพ เดือน สิงหาคมนี้
ได้วางแผนแวะพักเที่ยวประเทศไทย และ 3. จับกลุ่มนักท่องเที่ยวเฟิร์สวิสิท ที่ยังไม่เคยเข้าพักหรือเที่ยวประเทศไทยเลย ซึ่งในแต่ละปี มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรป บินมาแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อต่อไปยังเดสติเนชั่นปลายทางรวมกว่า 3.4 ล้านคน ททท.มีเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ให้ได้ 5% โดยแวะพักเที่ยวกรุงเทพฯ1-2 คืน หรือราว 1.5 แสนคน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 750 ล้านบาท โดยคิดจากฐานการใช้จ่ายเฉลี่ย 4-5 พันบาทต่อคนต่อวัน
***ผนึกทัวร์-แอร์ไลน์ เปิดช่องทางจำหน่าย*****
รูปแบบการดำเนินงาน ททท. จะร่วมกับพันธมิตรในต่างประเทศ เช่น 5 บริษัทนำเที่ยวรายใหญ่ อย่าง ทุยนอร์ดิก โทมัสคุก และ มาย์ทราเวล จับลูกค้ากรุ๊ปทัวร์ และ จับมือแอร์ไลน์ที่บินเข้ามาประเทศไทย สายการบินไทย จับลูกค้าที่เดินทางเอง(FIT) เพื่อเป็นช่องทางการจำหน่ายแพกเกจทัวร์เที่ยวประเทศ ส่วนภาคเอกชนท่องเที่ยวในกรุงเทพฯและปริมณฑล พร้อมใจกับมอบ บัตรกำนัลเงินสด รวมมูลค่า 10,000 บาท เพื่อนำไปใช้เป็นส่วนลดที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร สวนสนุก โรงภาพยนตร์ ชอปปิ้ง สยามนิรมิตร เป็นต้น
“วิธีนี้ยังช่วยขยายฐานนักท่องเที่ยวไปยังกลุ่มที่ไม่เคยมาเที่ยวประเทศไทย ได้ทดลองเข้ามาเที่ยวชดเชยจากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะหายไปเพราะวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป โดยเฉพาะจาก 37 ประเทศในยุโรป ที่เดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องยื่นขอวีซ่าล่วงหน้าด้วย อันจะนำมาซึ่งการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในภาพรวมตามที่ททท.ตั้งเป้าหมายไว้” นายสุรพล กล่าว
นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมโรงแรมไทย สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว สมาคมสวนสนุก จัดทำโครงการ “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ สต็อปโอเวอร์”
เพือ่ส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวประเทศไทย จากกลุ่มนักเดินทางที่ใช้ไทยเป็นจุดต่อเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อไปยังประเทศอื่น ซึ่งจะใช้งบประมาณ 10 ล้านบาท จาก 24 สำนักงานททท.ในต่างประเทศ ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อทุกช่องทาง รวมถึงโซเซียลเน็คเวิร์ด เป้าหมายคือต้องการขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่จากยุโรปที่ยังไม่เคยพักในประเทศไทย ให้เข้ามาชดเชยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ ระยะเวลาโครงการนาน 7 เดือน เริ่ม มี.ค.-ก.ย.54
ทั้งนี้ที่ประชุมได้มอบหมายให้ภาคเอกชน บริษัทนำเที่ยวไปดำเนินการจัดทำแพกเกจทัวร์ 1-2 คืน นำเสนอขายเส้นทางกรุงเทพฯและปริมณฑล มานำเสนออีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไป เพื่อจะนำโครงการไปเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเวที งานส่งเสริมการท่องเที่ยว ITB (International Tourismus Borse) กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ต้นมีนาคมนี้ พร้อมทำ MOUกับทัวร์ โอเปอเรเตอร์
***คาด 7 เดือนโกยกว่า 750 ล้านบาท****
แผนการทำงาน ได้แก่ 1. สื่อสารให้นักท่องเที่ยวต่างชาติรับรู้ว่า กรุงเทพฯเป็นเมืองน่าท่องเที่ยวและรัฐก็ยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว 2.เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวจากยุโรป ที่จะเดินทางไปร่วมชมการแข่งขัน เวิลด์รักบี้ ที่นิวซีแลนด์เป็นเจ้าภาพ เดือน สิงหาคมนี้
ได้วางแผนแวะพักเที่ยวประเทศไทย และ 3. จับกลุ่มนักท่องเที่ยวเฟิร์สวิสิท ที่ยังไม่เคยเข้าพักหรือเที่ยวประเทศไทยเลย ซึ่งในแต่ละปี มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรป บินมาแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อต่อไปยังเดสติเนชั่นปลายทางรวมกว่า 3.4 ล้านคน ททท.มีเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ให้ได้ 5% โดยแวะพักเที่ยวกรุงเทพฯ1-2 คืน หรือราว 1.5 แสนคน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 750 ล้านบาท โดยคิดจากฐานการใช้จ่ายเฉลี่ย 4-5 พันบาทต่อคนต่อวัน
***ผนึกทัวร์-แอร์ไลน์ เปิดช่องทางจำหน่าย*****
รูปแบบการดำเนินงาน ททท. จะร่วมกับพันธมิตรในต่างประเทศ เช่น 5 บริษัทนำเที่ยวรายใหญ่ อย่าง ทุยนอร์ดิก โทมัสคุก และ มาย์ทราเวล จับลูกค้ากรุ๊ปทัวร์ และ จับมือแอร์ไลน์ที่บินเข้ามาประเทศไทย สายการบินไทย จับลูกค้าที่เดินทางเอง(FIT) เพื่อเป็นช่องทางการจำหน่ายแพกเกจทัวร์เที่ยวประเทศ ส่วนภาคเอกชนท่องเที่ยวในกรุงเทพฯและปริมณฑล พร้อมใจกับมอบ บัตรกำนัลเงินสด รวมมูลค่า 10,000 บาท เพื่อนำไปใช้เป็นส่วนลดที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร สวนสนุก โรงภาพยนตร์ ชอปปิ้ง สยามนิรมิตร เป็นต้น
“วิธีนี้ยังช่วยขยายฐานนักท่องเที่ยวไปยังกลุ่มที่ไม่เคยมาเที่ยวประเทศไทย ได้ทดลองเข้ามาเที่ยวชดเชยจากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะหายไปเพราะวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป โดยเฉพาะจาก 37 ประเทศในยุโรป ที่เดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องยื่นขอวีซ่าล่วงหน้าด้วย อันจะนำมาซึ่งการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในภาพรวมตามที่ททท.ตั้งเป้าหมายไว้” นายสุรพล กล่าว
