ASTVผู้จัดการรายวัน-“สุเทพ”รับกังวลเสื้อแดงปลุกระดมชุมนุมใหญ่ 12 มี.ค.โยนศาลชี้ขาดให้ประกันตัวปล่อยแนวร่วมทั่วประเทศ บอกดีหาก"จตุพร"จะพา “อริสมันต์”มอบตัวพิสูจน์ความจริง "ขวัญชัย ไพรพนา"ปูด 7 แกนนำแดงมีมติในเรือนจำ เตรียมลงปาร์ตี้ลิสต์เพื่อไทย หวังใช้เอกสิทธิส.ส.คุ้มครองเหมือน “ไอ้ตู่” ขณะที่ศาลอาญาให้ประกันตัว“สมชาย ไพบูลย์”แกนนำ นปช.เพิ่มเป็นรายที่ 9
วานนี้(24 ก.พ.)ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่แกนนำคนเสื้อแดงประกาศจะชุมนุมใหญ่ในวันที่ 12 มี.ค.และเริ่มปลุกระดมแนวร่วมในพื้นที่แล้วว่า ตนก็มีความเป็นห่วงเป็นปกติเหมื่อนกับพี่น้องประชาชนที่ต้องการให้ บ้านเมืองสงบเรียบร้อยเห็นใครมาก่อกวนปลุกระดมยุยงส่งเสริมให้คนลุกขึ้นมามี ปัญหากันก็มีความทุกข์มีความกังวลทั้งนั้น ตนก็จะติดตามสถานการณ์ตามที่พอจะทำได้ เมื่อถามว่าประเมินว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงจะขยายวงกล้าง มีแนวร่วมเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังมองโลกในแง่ดีตลอดไม่คาดการณ์อะไรไป ในทางร้าย ต้องเห็นว่าฝ่ายกลุ่มคนเสื้อแดงก็ได้รับการผ่อนผันได้รับความเมตตาจากศาล สถิตยุติธรรม การที่เคยกล่าวหาว่าสองมาตรฐานนั่นก็ไม่ใช่ เห็นอยู่แล้วว่าศาลวินิจฉัยด้วยเหตุผลอย่างไร จะกลัวว่าสังคมไม่ดูแลเขาก็ดูแล คนเสื้อแดงก็ต้องทบทวนตัวเองว่าการเคลื่อนไหวทั้งปวงที่ทำมาตั้งแต่ต้นมาจนวันนี้และที่จะทำในวันข้างหน้าจะกระทบกระเทือนต่อประเทศชาติประชาชน ส่วนใหญ่อย่างไร
เมื่อถามว่า แกนนำ นปช.มีการเรียกร้องให้ปล่อยตัวแนวร่วมเสื้อแดงที่ถูกคุมขังที่เหลือทั้งหมดทั่วประเทศ นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องปล่อยหรือไม่ คงเป็นเรื่องการประกันตัวมากกว่า ผู้ต้องหาก็มีสิทธิที่จะขอประกันตัว ซึ่งศาลจะพิจารณาเป็นราย ๆ ไป เมื่อถามว่า นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน กลุ่มนปช.ประกาศทวงความยุธิรรม อาจมีการฟ้องกลับรัฐบาลได้เตรียมรับมืออย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายรัฐบาลพร้อมที่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงทุกอย่างตาม กฎหมาย แต่ไม่ใช่เอากำลังเอาอาวุธออกมามาปะทะกัน เหมือนที่เคยทำเมื่อปีที่แล้วที่มีการเผาบ้านเผาเมืองฆ่าคนอย่างนั้นก็ไม่ ยอม แต่จะมาต่อสู้ในทางกฎหมายก็ยินดี
ส่วน ที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส. สัดส่วนพรรคเพื่อไทย แกนนำนปช.ระบุจะพาแกนนำ นปช.ที่หลบหนีไปต่างประเทศเข้ามามอบตัวนั้น ถ้าทำอย่างนั้นได้ก็ดี คนเหล่านั้นจะได้มาพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามกระบวนการยุติธรรม
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะให้หลักกระกันเรื่องการประกันตัวกับคนเหล่านั้นอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่ตนเป็นคนให้หลักประกัน แต่กระบวนการยุติธรรมต้องว่าไป รัฐบาลไม่เข้าไปแทรกแซง แต่ตามปกติเมื่อผู้ต้องหามามอบตัวก็จะมีต้นทุน ให้ศาลเมตตา และรับฟังเพราะมีเจตนาที่จะมาต่อสู้คดีอยู่แล้ว ก็เชื่อว่าจะไม่หลบหนี ทั้งหมดเป็นเรื่องของศาลไม่ใช่เป็นเรื่องของรัฐบาล
**7แกนนำแดงลงปาร์ตี้ลิสต์เพื่อไทย
นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยว่า 7 แกนนำนปช. มีมติในเรือนจำว่า มีความประสงค์ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือ ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคเพื่อไทย เพื่อต้องการให้ได้รับเอกสิทธิ์ในสภาจะไม่ได้ไม่ถูกคุมขัง ซึ่งก็อยู่ที่คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยจะพิจารณา เพราะ 9 เดือนที่แกนนำนปช.อยู่ในเรือนจำมีความลำบากมาก ถูกผู้คุมที่เป็นเสื้อเหลืองจ๋าจ้องจับผิด และคนอย่างตนก็สร้างอาณาจักรเสื้อแดงในอุดรธานีจนประสบความสำเร็จและ วันที่เดินทางกลับวานนี้ก็มีคนมาต้อนรับหลายพันคน และวันนี้ก็มีประชาชนมาให้กำลังใจที่สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดรธานีวันละ 300 คน
"ความจริงผมเคยบอกพี่น้องเสื้อแดงว่า ไม่ต้องการเล่นการเมือง แต่วันนี้ได้เสียสละจากการต่อสู้เพื่อพี่น้องมาตลอด จนได้รับผลกระทบหลายเรื่อง อย่าง ส.ส.ในอุดรธานี 10 คน พวกคุณต้องฟังผม เพราะประชาชนเขามาเยี่ยมผมตลอด และถ้าผมจะลง ส.ส.เขตก็ลงได้ ถ้าพรรคเพื่อไทยจะให้ลง”นายขวัญชัย กล่าว
ขณะที่ในวันอาทิตย์ที่ 27 ก.พ. ตนและแกนนำจะไปทำพิธีรำลึกวีรชนที่วัดปทุมวนารามแน่นอน และยืนยันว่าจะขึ้นเวทีเสื้อแดงในการชุมนุมใหญ่วันที่ 12 มี.ค.ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยนี้และจะไม่ทำอะไรละเมิดคำสั่งศาล ซึ่งศาลไม่ได้ห้ามให้ตนวิจารณ์รัฐบาลนี้
**ศาลปล่อยตัว นปช.เพิ่มเป็นรายที่ 9
วันเดียวกันเวลา 09.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 912 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคำร้องที่นายสมชาย ไพบูลย์ อายุ 41 ปี อดีตสมาชิกสภาเขตบางบอน พรรคไทยรักไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ หรือ นปช. จำเลยคดีหมายเลขดำที่ อ.2543/2553 ในความผิดฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยผู้กระทำความผิดคนใดคนหนึ่งมีอาวุธ เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ยื่นคำร้องขอประกันตัว
โดยนัดไต่สวนทนายความจำเลยนำ นายสมพงษ์ ปรดิษฐ์วงศ์กูล ผู้อำนวยการส่วนควบคุมผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีต ประธาน นปช. และตัวจำเลย ขึ้นเบิกความเป็นพยานรวม 3 ปาก โดยมีนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาประธาน นปช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.ที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และกลุ่มคนเสื้อแดงราว 30 คน เข้าร่วมฟังการพิจารณาด้วย
ต่อมาเวลา 14.30 น. ศาลมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวนายสมชาย ไพบูลย์ โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พฤติกรรมความผิดของคดีนี้เกี่ยวข้องกับคดีหมายเลขดำที่ อ.2542/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้องนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช.กับพวกซึ่งเป็นแกนนำ และแนวร่วม นปช.รวม 19 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย ซึ่งในคดีดังกล่าวศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวแกนนำหลายคน เนื่องจากการไต่สวนมีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่ง จึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในคดีนี้เช่นกัน โดยตีหลักทรัพย์ 100,000 บาท พร้อมทั้งวางข้อกำหนดห้ามไม่ให้จำเลยกระทำการอันเป็นการยั่วยุ ปลุกปั่น ปลุกระดม เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน อันที่จะทำให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และห้ามจำเลยดังกล่าวเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล
ภายหลังศาลมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวแล้วจะได้ออกหมายปล่อยแจ้งให้เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทราบเพื่อดำเนินการต่อไปตามขั้นตอน
วานนี้(24 ก.พ.)ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่แกนนำคนเสื้อแดงประกาศจะชุมนุมใหญ่ในวันที่ 12 มี.ค.และเริ่มปลุกระดมแนวร่วมในพื้นที่แล้วว่า ตนก็มีความเป็นห่วงเป็นปกติเหมื่อนกับพี่น้องประชาชนที่ต้องการให้ บ้านเมืองสงบเรียบร้อยเห็นใครมาก่อกวนปลุกระดมยุยงส่งเสริมให้คนลุกขึ้นมามี ปัญหากันก็มีความทุกข์มีความกังวลทั้งนั้น ตนก็จะติดตามสถานการณ์ตามที่พอจะทำได้ เมื่อถามว่าประเมินว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงจะขยายวงกล้าง มีแนวร่วมเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังมองโลกในแง่ดีตลอดไม่คาดการณ์อะไรไป ในทางร้าย ต้องเห็นว่าฝ่ายกลุ่มคนเสื้อแดงก็ได้รับการผ่อนผันได้รับความเมตตาจากศาล สถิตยุติธรรม การที่เคยกล่าวหาว่าสองมาตรฐานนั่นก็ไม่ใช่ เห็นอยู่แล้วว่าศาลวินิจฉัยด้วยเหตุผลอย่างไร จะกลัวว่าสังคมไม่ดูแลเขาก็ดูแล คนเสื้อแดงก็ต้องทบทวนตัวเองว่าการเคลื่อนไหวทั้งปวงที่ทำมาตั้งแต่ต้นมาจนวันนี้และที่จะทำในวันข้างหน้าจะกระทบกระเทือนต่อประเทศชาติประชาชน ส่วนใหญ่อย่างไร
เมื่อถามว่า แกนนำ นปช.มีการเรียกร้องให้ปล่อยตัวแนวร่วมเสื้อแดงที่ถูกคุมขังที่เหลือทั้งหมดทั่วประเทศ นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องปล่อยหรือไม่ คงเป็นเรื่องการประกันตัวมากกว่า ผู้ต้องหาก็มีสิทธิที่จะขอประกันตัว ซึ่งศาลจะพิจารณาเป็นราย ๆ ไป เมื่อถามว่า นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน กลุ่มนปช.ประกาศทวงความยุธิรรม อาจมีการฟ้องกลับรัฐบาลได้เตรียมรับมืออย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายรัฐบาลพร้อมที่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงทุกอย่างตาม กฎหมาย แต่ไม่ใช่เอากำลังเอาอาวุธออกมามาปะทะกัน เหมือนที่เคยทำเมื่อปีที่แล้วที่มีการเผาบ้านเผาเมืองฆ่าคนอย่างนั้นก็ไม่ ยอม แต่จะมาต่อสู้ในทางกฎหมายก็ยินดี
ส่วน ที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส. สัดส่วนพรรคเพื่อไทย แกนนำนปช.ระบุจะพาแกนนำ นปช.ที่หลบหนีไปต่างประเทศเข้ามามอบตัวนั้น ถ้าทำอย่างนั้นได้ก็ดี คนเหล่านั้นจะได้มาพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามกระบวนการยุติธรรม
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะให้หลักกระกันเรื่องการประกันตัวกับคนเหล่านั้นอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่ตนเป็นคนให้หลักประกัน แต่กระบวนการยุติธรรมต้องว่าไป รัฐบาลไม่เข้าไปแทรกแซง แต่ตามปกติเมื่อผู้ต้องหามามอบตัวก็จะมีต้นทุน ให้ศาลเมตตา และรับฟังเพราะมีเจตนาที่จะมาต่อสู้คดีอยู่แล้ว ก็เชื่อว่าจะไม่หลบหนี ทั้งหมดเป็นเรื่องของศาลไม่ใช่เป็นเรื่องของรัฐบาล
**7แกนนำแดงลงปาร์ตี้ลิสต์เพื่อไทย
นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยว่า 7 แกนนำนปช. มีมติในเรือนจำว่า มีความประสงค์ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือ ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคเพื่อไทย เพื่อต้องการให้ได้รับเอกสิทธิ์ในสภาจะไม่ได้ไม่ถูกคุมขัง ซึ่งก็อยู่ที่คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยจะพิจารณา เพราะ 9 เดือนที่แกนนำนปช.อยู่ในเรือนจำมีความลำบากมาก ถูกผู้คุมที่เป็นเสื้อเหลืองจ๋าจ้องจับผิด และคนอย่างตนก็สร้างอาณาจักรเสื้อแดงในอุดรธานีจนประสบความสำเร็จและ วันที่เดินทางกลับวานนี้ก็มีคนมาต้อนรับหลายพันคน และวันนี้ก็มีประชาชนมาให้กำลังใจที่สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดรธานีวันละ 300 คน
"ความจริงผมเคยบอกพี่น้องเสื้อแดงว่า ไม่ต้องการเล่นการเมือง แต่วันนี้ได้เสียสละจากการต่อสู้เพื่อพี่น้องมาตลอด จนได้รับผลกระทบหลายเรื่อง อย่าง ส.ส.ในอุดรธานี 10 คน พวกคุณต้องฟังผม เพราะประชาชนเขามาเยี่ยมผมตลอด และถ้าผมจะลง ส.ส.เขตก็ลงได้ ถ้าพรรคเพื่อไทยจะให้ลง”นายขวัญชัย กล่าว
ขณะที่ในวันอาทิตย์ที่ 27 ก.พ. ตนและแกนนำจะไปทำพิธีรำลึกวีรชนที่วัดปทุมวนารามแน่นอน และยืนยันว่าจะขึ้นเวทีเสื้อแดงในการชุมนุมใหญ่วันที่ 12 มี.ค.ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยนี้และจะไม่ทำอะไรละเมิดคำสั่งศาล ซึ่งศาลไม่ได้ห้ามให้ตนวิจารณ์รัฐบาลนี้
**ศาลปล่อยตัว นปช.เพิ่มเป็นรายที่ 9
วันเดียวกันเวลา 09.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 912 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคำร้องที่นายสมชาย ไพบูลย์ อายุ 41 ปี อดีตสมาชิกสภาเขตบางบอน พรรคไทยรักไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ หรือ นปช. จำเลยคดีหมายเลขดำที่ อ.2543/2553 ในความผิดฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยผู้กระทำความผิดคนใดคนหนึ่งมีอาวุธ เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ยื่นคำร้องขอประกันตัว
โดยนัดไต่สวนทนายความจำเลยนำ นายสมพงษ์ ปรดิษฐ์วงศ์กูล ผู้อำนวยการส่วนควบคุมผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีต ประธาน นปช. และตัวจำเลย ขึ้นเบิกความเป็นพยานรวม 3 ปาก โดยมีนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาประธาน นปช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.ที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และกลุ่มคนเสื้อแดงราว 30 คน เข้าร่วมฟังการพิจารณาด้วย
ต่อมาเวลา 14.30 น. ศาลมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวนายสมชาย ไพบูลย์ โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พฤติกรรมความผิดของคดีนี้เกี่ยวข้องกับคดีหมายเลขดำที่ อ.2542/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้องนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช.กับพวกซึ่งเป็นแกนนำ และแนวร่วม นปช.รวม 19 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย ซึ่งในคดีดังกล่าวศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวแกนนำหลายคน เนื่องจากการไต่สวนมีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่ง จึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในคดีนี้เช่นกัน โดยตีหลักทรัพย์ 100,000 บาท พร้อมทั้งวางข้อกำหนดห้ามไม่ให้จำเลยกระทำการอันเป็นการยั่วยุ ปลุกปั่น ปลุกระดม เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน อันที่จะทำให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และห้ามจำเลยดังกล่าวเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล
ภายหลังศาลมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวแล้วจะได้ออกหมายปล่อยแจ้งให้เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทราบเพื่อดำเนินการต่อไปตามขั้นตอน
