xs
xsm
sm
md
lg

ชี้"มาร์ค"ยุบสภาหนีทุจริต พท.ยื่นซักฟอกปลายเดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงกระแสข่าวที่มีการยุบสภาก่อนเดือนมิ.ย.นี้ว่า เหตุที่แกนนำรัฐบาลออกมายืนยันนั้น เป็นเพราะประเมินแล้วว่าไม่สามารถดื้อดึง ลากยาวอยู่ในอำนาจต่อไปได้ เนื่องจากมีแรงกดดันจากการชุมนุมกลุ่ม นปช. และพันธมิตรฯ ซึ่งกรณีของพันธมิตรฯได้ปรับขบวนเป็นกลุ่มรวมพลังปกป้องแผ่นดิน โดยประกาศจะชุมนุมยืดเยื้อ แม้ยุบสภาก็ไม่เลิก หากไม่บรรลุใน 3 ข้อเรียกร้อง ที่ว่า ยกเลิก MOU 2543 ถอนตัวจาภาคีมรดกโลก รวมทั้งผลักดันชุมชนและทหารกัมพูชาออกจากดินแดนไทย
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า หากทอดเวลาออกไปรัฐบาลก็เกรงว่าจะถูกเปิดแผลเรื่องทุจริต คอร์รัปชั่น เรื่องใหม่ๆ ซึ่งจะทำให้ตัวเองเสียคะแนนนิยม อาทิ กรณีน้ำมันปาล์มขาดตลาดที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนของพรรคประชาธิปัตย์โดยตรง ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่เป็นการบริหารจัดการที่ผิดพลาด แต่เกิดจากการกักตุน เก็งกำไร จนไม่น่าเชื่อว่าประเทศที่สามารถผลิตน้ำมันปาล์มได้เอง รวมถึงปริมาณการนำเข้าของไทย ต้องประสบปัญหาขาดแคลนขนาดนี้ หมายถึงมีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จำเป็นต้องสืบสวนหาข้อเท็จจริงแล้วนำผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มทุนการเมือง รวมทั้งประการสำคัญที่รัฐบาลยังต้องมองถึงการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ปกติ เหนือความคาดหมาย หากเหตุการณ์รุนแรงึ้น ไม่ว่าจะเป็นกรณีรัฐประหาร หรือรัฐบาลพิเศษ ที่นักเลือกตั้งทั้งหลายหวาดกลัวมาก เพราะหากเกิดขึ้นจริง นักการเมืองและนักเลือกตั้ง ก็จะถูกคณะรัฐประหาร หรือรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากพวกตน เล่นงาน

** กอร์ปศักดิ์หางโผล่แก้รธน.เพื่อตัวเอง
เลขาฯพรรคการเมืองใหม่ กล่าวด้วยว่า การยุบสภาที่จะเกิดขึ้น รัฐบาลได้ประเมินแล้วว่า กลุ่มก้อนของตัวเอง จะมาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง จากที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ประธานยุทธศาสตร์ฯ พรรคประชาธิปัตย์ ถึงขนาดออกมาโยนหินถามทางว่า มีความเป็นไปได้พรรคที่ชนะคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ ควรจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ หมกมุ่นอยู่กับเกมอำนาจ และตอกย้ำว่า การแก้รัฐธรรมนูญประเด็นสูตรการเลือกตั้ง 375 +125 ที่แท้ก็เพื่อตัวเอง พวกพ้อง และกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น
"แม้จะเป็นอำนาจตามรัฐธรรมนูญของหัวหน้าฝ่ายบริหารหรือนายกฯ ที่สามารถยุบสภาได้ แต่สิ่งที่รัฐบาลนี้ต้องตอบสังคมก็คือการยุบสภาแก้ปัญหาการสูญเสียอธิปไตยและดินแดนได้หรือไม่ เพราะการยุบสภา เป็นแค่การแก้ปัญหาทางการเมืองของนักการเมือง แต่ปัญหาของชาติบ้านเมืองไม่ควรเอาไปผูกอยู่กับหีบบัตรเลือกตั้งไปเสียทุกเรื่อง" นายสุริยะใสกล่าว

** คาดยื่นซักฟอกปลายเดือนนี้

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 21 ก.พ.นี้ ทางพรรคเพื่อไทย จะจัดสัมมนา เพื่อเตรียมรับการเลือกตั้งทั่วไปในครั้งหน้า โดยจะมีการเสนอข้อคิดเห็นกับทางคณะกรรมการเลือกตั้ง หรือ กกต. เพื่อให้มีการกำหนดวันเลือกตั้งครั้งหน้าเพียงแค่วันเดียว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริต อีกทั้งในวันจันทร์นี้ ทางคณะทำงานด้านการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่มี นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เป็นผู้นำในการอภิปราย จะเข้ามารายงานควาบคืบหน้าในการทำงานกับคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์ที่มี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นประธาน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่าในวันที่ 22 ก.พ. จะมีความชัดเจน เพื่อที่จะกำหนดว่าจะมีการยื่นอภิปรายในปลายเดือนนี้ เพื่อจะได้ทำการอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงเดือนมี.ค.

** ท้าให้ยื่นถอดถอนนายกฯด้วย

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคเพื่อไทยว่า ไม่ควรออกมาข่มขู่เรื่องการอภิปรายรายวันว่ามีประเด็นเด็ด ที่จะเป็นหมัดน็อกรัฐบาล ทั้งๆ ที่ข้อเท็จจริงยังไม่เคยเห็นพร้อม ทั้งในตัวผู้อภิปรายและข้อมูล มีเพียงการหยิบฉวยเอาประเด็นข่าวเฉพาะหน้ามาเท่านั้น เช่น กรณี 3 จี และน้ำมันปาล์มขาดตลาด ซึ่งทั้ง 2 เรื่อง รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาอยู่ ถ้าแก้ 2 เรื่องดังกล่าวได้ ก็ทำให้พรรคเพื่อไทยหมดประเด็นมาอภิปรายอีก หรือถ้ามีข้อมูล และใบเสร็จจริง ก็ควรที่จะออกมายืนยัน เพราะรัฐบาลก็อยากเห็นเหมือนกันว่า ใบเสร็จนั้นเป็นอย่างไร
นายเทพไท กล่าวด้วยว่า ถ้าจะอภิปรายในประเด็นการทุจริต ก็ควรยื่นถอดถอนรัฐมนตรี ต่อคณะกรรมการป.ป.ช. ควบคู่ไปกับการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย

**เปิดให้ซ้อมใหญ่ 24 ก.พ.
ด้านนายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล) กล่าวว่า ในวันที่ 24 ก.พ. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร จะมีการนำเสนอรายงานผลการปฏิบัติงานตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ของรัฐบาลที่ผ่านมา เบื้องต้นได้กำหนดวาระดังกล่าวไว้ ภายหลังการตอบกระทู้สดของสมาชิก ประมาณ 11.00 น. เป็นต้นไป
ทั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้มีการอภิปรายกันอย่างเต็มที่ ไม่จำกัดเวลา อาจจะอภิปรายจนสว่างเลยก็ได้ แต่ต้องจัดสรรเวลาให้กับผู้อภิปรายฝ่ายค้าน และรัฐบาลเท่าๆกัน กล่าวคือ ต้องมีการสลับการอภิปราย
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเตรียม 3 ประเด็นไว้อภิปราย ได้แก่ 1.ความล้มเหลวด้านการปกครอง สองมาตรฐาน ความมั่นคง 2. ความล้มเหลวแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และ 3.ความล้มเหลวด้านบริหารนั้น นายวิทยา กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร เชิญเต็มที่

** เย้ยพท.ให้ตั้ง"เจ๊มิ่ง"หน.พรรค
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ออกมาโจมตีการชี้แจงเรื่องงบกลางของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่าเป็นการชี้แจงในลักษณะโต้ตอบว่า "ถ้าข้าชั่ว เอ็งก็เลว"นั้น หากประชาชนติดตามดูการชี้แจงของนายอภิสิทธิ์ จะเห็นว่า ไม่มีช่วงใดเลยที่นายกฯ มีพฤติกรรม หรือวาจาที่ก้าวร้าว อย่างที่ น.อ.อนุดิษฐ์ พูด จึงขอให้ระวังปากด้วย และหากมั่นใจว่าการอภิปรายของ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทย จะได้ใจคนหัวเมือง และมีกระแสตอบรับที่ดี ก็ควรให้การสนับสนุน นายมิ่งขวัญ เป็นทางเลือกในการเป็นนายกฯ และเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านด้วย แต่อยากเตือนว่า จะหวังกระแสเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูที่ผลงานมากกว่ารูปแบบ และเนื้อหาก็มีความบิดเบือนข้อมูล ใช้การตลาดเชิงลบ และเป็นการเล่นการเมืองแบบเก่าที่ไม่สามารถหลุดพ้นจากแนวทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยได้สำเร็จ
"ฝ่ายค้านทำงานมา 2 ปี แต่ดูเหมือนจะมีผลงานอยู่แค่ 2 อย่างคือ ขัดขวางการทำงานของรัฐบาลทุกรูปแบบ และ ทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยพ.ต.ท.ทักษิณให้กลับมาโดยไม่มีเงื่อนไข” โฆษกพรรคปชป. กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น