xs
xsm
sm
md
lg

“เผาไทย”ชำแหละงบน้ำท่วม จ้องถล่ม"ภูมิใจห้อย"กระจุกมท.-คค.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(15 ก.พ.)ที่พรรคพื่อไทย นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แถลงถึงการอภิปรายร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2554 ในวันที่ 16 ก.พ.ว่า ฝ่ายค้านได้รับจัดสรรเวลาอภิปรายทั้งสิ้น 8 ชั่วโมง โดยได้เตรียมทีมอภิปรายเรียบร้อยแล้ว มีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน
ทั้งนี้ในเบื้องต้นจะอภิปรายว่าเงินจำนวน 1 แสนล้านบาทนั้นได้มาอย่างไร และจะอภิปรายเน้นหนักไปที่งบส่วนราชการ ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยพิบัติ จำนวน 9,900 ล้านบาท โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ได้เงินไป 1,687 ล้านบาทนั้น มีถึง 1,230 ล้านบาทที่ไม่มีรายละเอียดโครงการที่ชัดเจน น่าจะเป็นการโยกงบลงพื้นที่พรรคพวกตัวเอง เช่นเดียวกับงบของกระทรวงคมนาคม ในกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทที่มีลักษณะเดียวกัน รวมไปถึงงบของกรมทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมด้วย โครงการลักษณะเหล่านี้เป็นที่เลื่องลือว่ามีการทุจริต ฉะนั้นอยากฝากให้ประชาชนติดตามการอภิปรายของฝ่ายค้านให้ดี จะชำแหละทุกอย่างออกมาเพื่อปกป้องภาษีของประชาชน
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคมีมติที่จะใช้เวลา ในการอภิปราย จำนวน 2 วันด้วยกัน เนื่องจากเห็นว่างบกลางปีมีความสำคัญมาก และขณะนี้พรรคก็พร้อมทำหน้าที่ โดยพรรคจะมีการตรวจสอบ ทั้ง 5 กระทรวง 1 หมื่น 5 พัน กว่าล้าน ที่วิเคราะห์ได้ว่าเป็นงบต่างตอบแทนที่จะนำมาแบ่งกันและยังถือได้ว่า รัฐบาลชุดนี้มีการ กู้เงินจำนวนมากที่สุด และการตั้งงบประมาณกลางปี ผิดไปจากข้อเท็จจริงที่เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้ ที่ถือได้ว่าไม่มีความเหมาะสม ทั้งนี้ยังเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดให้มีการถ่ายทอดสดด้วย

** วิปรัฐสั่งส.ส.อยู่ติดสภา
นายธนิตพล ไชยนันทน์ สส.ตาก พรรคประชาธิปัตย์ เลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ได้ประสานไปยังประธานวิปฝ่ายค้าน ถึงเรื่องการประชุมงบประมาณกลางปี 2554 ในเรื่องกรอบการอภิปรายเบื้องต้น 12 ชั่วโมง ซึ่งฝ่ายค้านได้เวลาในการอภิปราย 6 ชั่วโมง ดังนั้น จึงอยากให้ใช้เวลาดังกล่าวให้คุ้มตามกรอบ 3 ข้อ
อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ไว้ว่า ฝ่ายค้าน อาจใช้เวทีพูดนอกกรอบงบประมาณกลางปี เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ การรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล ตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ซึ่งทั้ง 2 เรื่อง ฝ่ายค้านคงใช้เวทีดังกล่าวเพื่อฝึกการอภิปรายในวันที่ 16ก.พ.จะมีการพุดคุยระหว่างทั้งสองประธานในเรื่องเวลา ซึ่งเบื้องต้นฝ่ายค้านต้องการอภิปราย 2 วัน รวมถึงเวลาเพิ่ม แต่คงเป็นไปไม่ได้ เพราะตามสถิติที่ผ่านมาไม่มีเท่านี้ ใช้เวลาในการอภิปรายงบกลางปี เพียง 11 ชั่วโมง และหัวข้อกว้างมากกว่าในสมัยนี้ และฝ่ายค้านต้องเตรียมการอภิปรายให้พร้อม อีกทั้ง ได้ประสานวิปพรรคร่วมรัฐบาลให้ไปกำชับส.ส.พรรคร่วมด้วยกันให้อยู่ครบองค์ประชุมด้วย

**วิปรัฐเปิดให้อภิปราย 12 ชม.
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย กรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)กล่าวว่า ได้มีการหารือกันถึงกรอบเวลาในการอภิปราย การประชุมสภาฯจะเริ่มขึ้นในเวลา 10.00 น.และจะสิ้นสุดในเวลา 22.00 น.รวมใช้เวลาในการพิจารณา 12 ชั่วโมง โดยจะแบ่งเวลาให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีชี้แจง 2 ชั่วโมง ตัวแทนผู้นำฝ่ายค้าน 6 ชั่วโมง ส.ส.รัฐบาล 4 ชั่วโมง หากฝ่ายใดมีการอภิปรายพาดพิงหรือมีการลุกขึ้นประท้วงก็จะถูกหักเวลาจากฝ่ายนั้นออกไป ทั้งนี้นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาลได้มอบหมายให้วิปแต่ละพรรคไปกำชับให้ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคอยู่ในสภาฯเพื่อป้องกันปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ หากฝ่ายค้านมีการอภิปรายรายละเอียดในเรื่องใด จะได้ชี้แจงได้ทันและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณเตรียมข้อมูลเอาไว้ให้พร้อม และเชื่อว่าฝ่ายค้านจะหยิบยกเรื่องการใช้งบประมาณ เกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมขึ้นมาอภิปรายเป็นประเด็นสำคัญ

**“ภูมิใจห้อย”กระจุกมหาดไทย-คมนาคม
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ตามที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้บรรจุวาระการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณราย จ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2554 (งบฯกลางปี) จำนวน 100,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.93 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) โดยจัดสรรงบประมาณตาม 3 ยุทธศาสตร์ คือ 1. จัดสรรตามแผนงานฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภัยพิบัติ 9,900 ล้านบาท 2.จัดสรรตามแผนงานสวัสดิการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 4,940 ล้านบาท และ 3. จัดสรรตามแผนงานส่งเสริมการกระจายอำนาจการปกครองจำนวน 1,017 ล้านบาท
นอกนั้นเป็นการตั้งงบเพื่อชดใช้เงินคงคลังจำนวน 84,142.6 ล้านบาท โดยมีหน่วยราชการที่ได้รับการจัดสรรเรียงลำดับจากมากที่สุด ดังนี้
1.กระทรวงมหาดไทย 8,726.7 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8.73 (ของงบประมาณทั้งหมด) 2.กระทรวงคมนาคม 2,900 ล้านบาท ร้อยละ 2.9 3.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 1,697.3 ล้านบาท 4.กระทรวงศึกษาธิการ 1,322.1 ล้านบาท 5.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 989.2ล้านบาท 6.ส่วนราชการที่ไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง 162 ล้านบาท 7.รัฐวิสาหกิจ 60 ล้าบาท สำหรับรายละเอียดของร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวมีทั้งหมด 13 มาตรา มีการประเมินภาพรวมภาวะเศรษฐกิจไทยปี2554 ว่าจะขยายตัวประมาณร้อยละ 3.5-4.5 อัตราเงินเฟ้อประมาณร้อยละ 2.5–3.5 โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี2553
ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจปี 2554 มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนภายในประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในขณะที่การส่งออกและการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวได้ดี เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่อ สถานการณ์ด้านการเมืองภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับที่ผ่านมารัฐบาลดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการต่างๆ ที่เอื้อต่อการลงทุน ทำให้เกิดการจ้างงานและการบริโภคต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้ประชาชนและรายได้รวมของประเทศเพิ่มสูงขึ้น
แต่ในปี2554 ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง ได้แก่ ความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่อาจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ การเคลื่อนย้ายเงินทุนจากต่างประเทศ และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน นอกจากนี้รัฐบาลมีนโยบายที่จะบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้เห็นผลภายใน ปีงบประมาณ 2554 โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากการเกิดภัยพิบัติ และสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถสร้างความมั่นคงและจัด สวัสดิการให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการหรือทุพพลภาพ ได้อย่างทั่วถึง รวมทั้งการนำรายได้ที่รัฐบาลสามารถจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการไปชดใช้เงิน คงคลังที่ได้จ่ายไปก่อนแล้ว จึงได้จัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2554 เพื่อลดภาระงบประมาณปี 2555 ในการตั้งงบประมาณรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง ซึ่งจะทำให้สามารถเพิ่มรายจ่ายด้านการลงทุน และสร้างเสถียรภาพทางการคลัง เพื่อมุ่งสู่ภาวะงบประมาณสมดุลในอีก 5 ปี

**เปิดงบกลางปี มหาดไทยได้มากสุด
สำหรับรายละเอียดของร่างพ.ร.บ.มีทั้งสิ้น 13 มาตรา โดยมาตรา 4 – มาตรา 11 กำหนดรายละเอียดการจัดทำงบประมาณ โดยมาตรา 4 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 1,697.3 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณของกรมชลประทาน เพื่อดำเนินแผนงานฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภัยพิบัติ 1,697.3 ล้านบาท มาตรา 5 กระทรวงคมนาคม 2,900 ล้านบาท จำแนกเป็นงบประมาณกรมทางหลวง ทำแผนงานฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภัยพิบัติ 1,800 ล้านบาท กรมทางหลวงชนบท 1,100 ล้านบาท ,มาตรา 6 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 989.2ล้านบาท โดยเป็นงบประมาณของกรมทรัพยากรน้ำตามแผนงานฟื้นฟูและแก้ไขปัยหาผลกระทบจากภัยพิบัติ ,มาตรา 7 กระทรวงมหาดไทย 8,726.7 ล้านบาท จำแนกเป็นงบประมาณของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 2,769.2 ล้านบาท ,กระมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น 5,957.4 ล้านบาท และแผนงานส่งเสริมการกระจายอำนาจ กรมการปกครอง 1,017.4 ล้านบาท
มาตรา 8 กระทรวงศึกษาธิการ 1,322.1 ล้านบาท จำแนกเป็นงบประมาณของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ,สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ 9 แห่ง ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 3.5 ล้านบาท ,มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 18.1 ล้านบาท ,มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา 5.7 ล้านบาท ,มหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช 2.1 ล้าบาท ,มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี 1.2 ล้าบาท ,มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา 8.1 ล้าบาท มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี 4.3 ล้านบาท ,และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย 13.1 ล้านบาท
มาตรา 9 ส่วนราชการที่ไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง โดยเป็นงบประมาณสำหรับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 162 ล้านบาท และมาตรา 10 รัฐวิสาหกิจ โดยเป็นงบประมาณของการรถไฟแห่งประเทศไทย 60 ล้าบาท และรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง จำนวน 84,142.6 ล้านบาท.
กำลังโหลดความคิดเห็น