ASTVผู้จัดการรายวัน - “มาร์ค” ประกาศขยายเวลาตรึงดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรถึงเม.ย. 54 พร้อมควักเงินกองทุนน้ำมันฯอุ้มได้อีกไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท หลังฐานะกองทุนฯมีเงินให้ถลุง 2.3 หมื่นล้านบาท ลั่นหากเงินเหลือ 1 หมื่นล้านบาท ถก กพช.หามาตรการรองรับ พร้อมลดเกรดขายน้ำมันบี 3 เหลือบี 2 ลดใช้ปาล์ม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) วานนี้(11ก.พ.)ว่า ที่ประชุมกพช.มีมติให้ต่ออายุมาตรการการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรไปจนถึงเดือนเมษายนนี้ โดยคาดว่าจะต้องใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มอีกประมาณ 5,100 ล้านบาทต่อเดือนจากเดิมที่ได้มีการนำมาใช้แล้ว 5,000 ล้านบาท
“ การตรึงดีเซลจะใช้เงินเท่าใดก็ขึ้นอยู่ที่ราคาตลาดโลกหากราคาอยู่ระดับนี้เฉลี่ยจะใช้เดือนละ 5,000 ล้านบาท และหากใช้เงินกองทุนที่มีอยู่ปัจจุบัน 23,000 ล้านบาทไปจนเหลือใกล้เคียง 10,000 ล้านบาทก็จะต้องมีการ ประชุมกพช.เพื่อหาแนวทางในการดำเนินการ อีกครั้ง”นายอภิสิทธิ์กล่าว
นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติให้ปรับลดสัดส่วนการผสมน้ำมันปาล์ม บี 100 ในน้ำมันดีเซลเหลือ 2 % หรือ เป็นน้ำมันไบโอดีเซล บี 2 จากเดิมที่เป็น บี 3 เพื่อลดภาระการชดเชยของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดภาระอุดหนุนได้ 600 ล้านบาทต่อเดือนขณะเดียวกันยังเป้นการแก้ไขปัญหาปาล์มขาดแคลน
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การใช้เงินกองทุนฯในการดูแลน้ำมันจนถึงเดือนเมษายน หากกระทบต่อสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปถึงระดับ 1 หมื่นล้านบาทก็จะมีการประชุมกพช.เพื่อหาแนวทางในการดำเนินการต่อไป เพื่อไม่ต้องการให้กองทุนฯติดลบเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ส่วนมติ กพช.ที่ให้ปรับสูตรบี 3 เป็น บี 2 จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม จะทำให้ช่วยลดการใช้น้ำมันปาล์ม บี100 ในการผสมน้ำมันดีเซลลง ประมาณ 5 แสนลิตรต่อวัน ทำให้ลดภาระเงินกองทุนฯ ที่ต้องนำไปชดเชยราคาน้ำมันดีเซล
“ การจำหน่ายบี 2 เป็นการชั่วคราวคาดว่าจะเริ่มได้จันทร์นี้ ส่วนที่เป็นบี 5 ก็ให้ขายจนหมดสต็อก เมื่อผลผลิตปาล์มออกสู่ตลาดก็จะกลับมาจำหน่ายเป็นบี 3 หรือบี 5 เกรดเดียว ปัจจุบันราคา บี 100 อยู่ที่ 71 บาทต่อลิตร ขณะที่ต้นทุนเนื้อน้ำมันดีเซลอยู่ที่ราคา 21 บาทต่อลิตร หากมีการผสมบี 100 ลดลง ต้นทุนการผลิตน้ำมันก็จะต่ำลง”รมว.พลังงานกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันเดียวกันยังได้อนุมัติการอุดหนุนดีเซลบี 3 และบี5 เพิ่มเติมให้กับผู้ค้าอีก 50 สตางค์ต่อลิตรเพื่อช่วยเหลือค่าการตลาดผู้ค้าที่ตกต่ำเหลือเฉลี่ย 60 ว่าสตางค์ต่อลิตรเท่านั้นจากการตรึงราคาไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ซึ่งผลให้เงินกองทุนฯที่กันไว้ 5,000ล้านบาทในการดูแลงวดแรกจะหมดลงวันที่ 15
ก.พ.นี้
***เบนซินทะลุ40บาทต่อลิตร
อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าน้ำมันต่างชาติ(เชลล์ เอสโซ่ คาลเท็กซ์และปิโตรนาส)ได้มีการปรับขึ้นราคาน้ำมันทุกชนิด 40 สตางค์ต่อลิตรมีผลตั้งแต่ 11 ก.พ.เป็นต้นไป เว้นเบนซิน 91 ที่ปรับขึ้น 50 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้แก๊สโซฮอล์ 95 อี 10 อยู่ที่ 35.84 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อี 10 อยู่ที่ 33.34 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 อยู่ที่ 40.24 บาทต่อลิตรและดีเซลบี 3 และบี 5 อยู่ที่ 30.39 บาทต่อลิตร
อย่างไรก็ตาม ต่อมา ปตท.และบางจากได้มีการปรับขึ้นราคาตามค่ายต่างชาติมีผลวันนี้(12ก.พ.) ยกเว้นดีเซลที่ยังคงตรึงราคาอยู่ที่ 29.99 บาทต่อลิตร.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) วานนี้(11ก.พ.)ว่า ที่ประชุมกพช.มีมติให้ต่ออายุมาตรการการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรไปจนถึงเดือนเมษายนนี้ โดยคาดว่าจะต้องใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มอีกประมาณ 5,100 ล้านบาทต่อเดือนจากเดิมที่ได้มีการนำมาใช้แล้ว 5,000 ล้านบาท
“ การตรึงดีเซลจะใช้เงินเท่าใดก็ขึ้นอยู่ที่ราคาตลาดโลกหากราคาอยู่ระดับนี้เฉลี่ยจะใช้เดือนละ 5,000 ล้านบาท และหากใช้เงินกองทุนที่มีอยู่ปัจจุบัน 23,000 ล้านบาทไปจนเหลือใกล้เคียง 10,000 ล้านบาทก็จะต้องมีการ ประชุมกพช.เพื่อหาแนวทางในการดำเนินการ อีกครั้ง”นายอภิสิทธิ์กล่าว
นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติให้ปรับลดสัดส่วนการผสมน้ำมันปาล์ม บี 100 ในน้ำมันดีเซลเหลือ 2 % หรือ เป็นน้ำมันไบโอดีเซล บี 2 จากเดิมที่เป็น บี 3 เพื่อลดภาระการชดเชยของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดภาระอุดหนุนได้ 600 ล้านบาทต่อเดือนขณะเดียวกันยังเป้นการแก้ไขปัญหาปาล์มขาดแคลน
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การใช้เงินกองทุนฯในการดูแลน้ำมันจนถึงเดือนเมษายน หากกระทบต่อสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปถึงระดับ 1 หมื่นล้านบาทก็จะมีการประชุมกพช.เพื่อหาแนวทางในการดำเนินการต่อไป เพื่อไม่ต้องการให้กองทุนฯติดลบเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ส่วนมติ กพช.ที่ให้ปรับสูตรบี 3 เป็น บี 2 จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม จะทำให้ช่วยลดการใช้น้ำมันปาล์ม บี100 ในการผสมน้ำมันดีเซลลง ประมาณ 5 แสนลิตรต่อวัน ทำให้ลดภาระเงินกองทุนฯ ที่ต้องนำไปชดเชยราคาน้ำมันดีเซล
“ การจำหน่ายบี 2 เป็นการชั่วคราวคาดว่าจะเริ่มได้จันทร์นี้ ส่วนที่เป็นบี 5 ก็ให้ขายจนหมดสต็อก เมื่อผลผลิตปาล์มออกสู่ตลาดก็จะกลับมาจำหน่ายเป็นบี 3 หรือบี 5 เกรดเดียว ปัจจุบันราคา บี 100 อยู่ที่ 71 บาทต่อลิตร ขณะที่ต้นทุนเนื้อน้ำมันดีเซลอยู่ที่ราคา 21 บาทต่อลิตร หากมีการผสมบี 100 ลดลง ต้นทุนการผลิตน้ำมันก็จะต่ำลง”รมว.พลังงานกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันเดียวกันยังได้อนุมัติการอุดหนุนดีเซลบี 3 และบี5 เพิ่มเติมให้กับผู้ค้าอีก 50 สตางค์ต่อลิตรเพื่อช่วยเหลือค่าการตลาดผู้ค้าที่ตกต่ำเหลือเฉลี่ย 60 ว่าสตางค์ต่อลิตรเท่านั้นจากการตรึงราคาไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ซึ่งผลให้เงินกองทุนฯที่กันไว้ 5,000ล้านบาทในการดูแลงวดแรกจะหมดลงวันที่ 15
ก.พ.นี้
***เบนซินทะลุ40บาทต่อลิตร
อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าน้ำมันต่างชาติ(เชลล์ เอสโซ่ คาลเท็กซ์และปิโตรนาส)ได้มีการปรับขึ้นราคาน้ำมันทุกชนิด 40 สตางค์ต่อลิตรมีผลตั้งแต่ 11 ก.พ.เป็นต้นไป เว้นเบนซิน 91 ที่ปรับขึ้น 50 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้แก๊สโซฮอล์ 95 อี 10 อยู่ที่ 35.84 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อี 10 อยู่ที่ 33.34 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 อยู่ที่ 40.24 บาทต่อลิตรและดีเซลบี 3 และบี 5 อยู่ที่ 30.39 บาทต่อลิตร
อย่างไรก็ตาม ต่อมา ปตท.และบางจากได้มีการปรับขึ้นราคาตามค่ายต่างชาติมีผลวันนี้(12ก.พ.) ยกเว้นดีเซลที่ยังคงตรึงราคาอยู่ที่ 29.99 บาทต่อลิตร.