ผู้บริหาร “บางจาก” หนุนตรึงราคาดีเซลระยะสั้น หวั่นดึงปริมาณการใช้เพิ่มจนเอาไม่อยู่ หลังค่าการตลาดเหลือเพียง 40-50 สตางค์/ลิตร ผู้ค้าต้องปรับราคาขึ้นอีกลิตรละ 1 บาท เพื่อให้สะท้อนต้นทุนจริง ขณะที่ภาครัฐต้องจ่ายเงินอุ้มสูงถึงลิตรละ 3 บาท เตรียมประเมินราคาน้ำมันตลาดโลกเย็นนี้ ก่อนตัดสินใจปรับขึ้นกลุ่มเบนซิน ครวญการจำหน่าย บี3 เกรดเดียว วันละ 5 ล้านลิตร ต้องแบกต้นทุนเพิ่ม
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในประเทศ โดยเห็นด้วยกับการตรึงราคาน้ำมันดีเซลของรัฐบาลในระยะสั้น แต่มาตรการดังกล่าว เริ่มส่งผลกระทบให้ผู้ใช้น้ำมันดีเซลเคยตัวกับการใช้ของถูก และไม่มีการปรับตัวเพื่อประหยัด โดยจะเห็นได้จากปริมาณการใช้ดีเซลในช่วงเดือนธันวาคม 2553 ถึงเดือนมกราคม 2554 ที่มียอดใช้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งการตรึงราคาไม่ควรใช้นานเกินไป
ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลตลาดโลกยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยอยู่ที่ 105 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่งผลให้รัฐบาลต้องชดเชยราคาถึงลิตรละ 3 บาทแล้ว เพื่อไม่ให้ราคาขายหลีกในประเทศสูงขึ้นไปถึง 30 บาทต่อลิตร และความเป็นจริงผู้ค้าน้ำมันจะต้องปรับราคาดีเซลขึ้นอีกลิตรละ 1 บาท เพราะค่าการตลาดน้ำมันดีเซลขณะนี้เหลืออยู่เพียงลิตรละ 40-50 สตางค์เท่านั้น
ดังนั้น บางจากจะขอรอดูสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกในช่วงเย็นนี้ก่อนตัดสินใจว่า จะประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมันในกลุ่มเบนซินช่วงสุดสัปดาห์นี้หรือไม่
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันทุกรายให้ปรับลดสัดส่วนการผสมน้ำมันปาล์ม บี100 ในน้ำมันดีเซลเหลือ 2% หรือเป็นน้ำมันไบโอดีเซล บี2 จากเดิมที่เป็น บี3 เพื่อลดภาระการชดเชยของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น ขณะนี้บริษัทได้จำหน่ายน้ำมันดีเซล บี3 เพียงเกรดเดียว โดยมียอดจำหน่ายวันละ 5 ล้านลิตร แต่ปัจจุบันค่าการตลาดต่ำมากจนทำให้บริษัทต้องรับภาระไว้ส่วนหนึ่ง ขณะที่ผู้ค้ารายอื่นได้มีการปรับราคาขึ้นไปบ้างแล้ว
