นายกฯ เรียกประชุม กพช.พรุ่งนี้ หารือมาตรการช่วยเหลือราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มเติม หลังกองทุนน้ำมันฯ เหลือเงินอุดหนุนได้อีกแค่ 4-5 วัน และหากใช้เงินกองทุนฯ ที่มีอยู่ทั้งหมด ก็จะติดลบภายใน 5 เดือน
นายแพทย์ วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้งบประมาณ 5,000 ล้านบาท จากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ชดเชยราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้มีราคาเกินกว่าลิตรละ 30 บาท เหลือเพียงประมาณ 1,000 ล้านบาท ทำให้ไม่สามารถชดเชยราคาน้ำมันดีเซลได้ถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2554 นี้ เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังปรับตัวสูงขึ้น, ความรุนแรงในอียิปต์ยังไม่สงบ และมีการเก็งกำไรของนักลงทุนในตลาดน้ำมัน ทำให้ในวันพรุ่งนี้ นายกรัฐมนตรี จะเรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่รัฐสภา เพื่อหารือมาตรการรองรับราคาน้ำมันเพิ่มเติมให้ถึงสิ้นเดือนนี้ ทั้งการเพิ่มวงเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ และการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน โดยยังไม่ได้กำหนดกรอบวงเงินชดเชยเพราะขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันตลาดโลกปัจจุบัน
ทั้งนี้ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเหลือเงินสุทธิอยู่ที่ประมาณ 22,000 ล้านบาท หากรัฐบาลมีนโยบายตรึงราคาดีเซลต่อเนื่องอาจกระทบเสถียรภาพของกองทุนน้ำมันฯ ที่จะดูแลราคาพลังงานได้เพียง 5 เดือนนั้น ดังนั้น การนำเงินจากกองทุนมาช่วยเหลือต้องมีเงินคงเหลือในกองทุนที่เหมาะสม เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาพลังงานและการพัฒนาพลังงานทดแทนในประเทศ
ซึ่งการประชุม กพช.ในครั้งนี้จำเป็นต้องหามาตรการที่ชัดเจนมาดูแลและควบคุมราคาน้ำมัน พร้อมยืนยันว่า กระทรวงพลังงาน จะไม่นำเงินจากกองทุนมาชดเชยราคาน้ำมันจนติดลบแน่นอน เพราะนโยบายของกระทรวงพลังงานจะปล่อยให้ราคาพลังงานเป็นไปตามกลไกตลาดโลก และสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง แต่หากในบางช่วงเวลาราคาพลังงานผันผวนรุนแรง ก็จำเป็นต้องเข้ามาแทรกแซงราคาพลังงานชั่วคราว เพื่อลดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการขนส่งที่จะทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวอีกว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกขณะนี้ยังเคลื่อนไหวผันผวนรุนแรงจากปัจจัยทางด้านสภาพอากาศที่หนาวเย็นนานกว่าปกติในยุโรป และสหรัฐฯ คาดว่า หลังจากสิ้นสุดช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีนี้สถานการณ์ราคาน้ำมันจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
