ASTVผู้จัดการรายวัน - "กรณ์" ยันมีเงินเหลือพอให้กองทุนน้ำมันอุ้มดีเซลถึงสิ้นเดือน ก.พ. หาก 5 พันล้านหมด ยังมีอีก 2.2 หมื่นล้าน ชี้เลิกอุ้มแอลพีจี ส่งผลให้มีเงินไหลเข้ากองทุนเพิ่มพันล้าน พร้อมจับตาสถานการณ์ในอียิปต์หวั่นบานปลายซาอุฯ ทำราคาน้ำมันพุ่งต่อ
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นในขณะนี้ถือเป็นเรื่องปกติของช่วงหน้าหนาวที่จะมีการใช้น้ำมันจำนวนมากส่งผลให้ราคาขึ้นไปสูงสุดในรอบปี แต่ขณะนี้ยอมรับว่าราคาน้ำในมีความผันผวนเนื่องจากสถานการณ์ความรุนแรงในอียิปต์ที่หลายฝ่ายกังวลว่าปัญหาจะรุกลามออกไปประเทศอื่น เช่น ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งหากราคายังขยับขึ้นต่อเนื่องก็เป็นเรื่องการตัดสินใจเชิงนโยบายว่าจะอุ้มดีเซลตอ่ไปหรือไม่ แต่มองว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงน่าจะดูแลราคานำมันไม่ให้สูงเกิน 30 บาทต่อลิตรได้จนถึงสิ้นเดือนก.พ.
อย่างไรก็ตาม การชดเชยราคาดีเซลของกองทุนน้ำมันที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) 5 พันล้านบาทนั้นยังใช้ไม่หมดและไม่น่าจะใช้อุ้มดีเซลได้อีกพักใหญ่ ซึ่งเงินกองทุนน้ำมันจริงๆแล้วยังเหลืออีก 2.2 หมื่นล้านบาท อีกทั้งขณะนี้รัฐบาลไม่ได้อุ้มแก๊ซแอลพีจีที่ใช้ในอุตสาหกรรมทำให้จะมีเงินกองทุนเข้ามาอีกประมาณปีละ 1,000 ล้านบาท
ส่วนความจำเป็นในการเข้าไปดูแลนำมันดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาทนั้น เนื่องจากภาคการขนส่งส่วนใหญ่ใช้นำมันดีเซลหากปล่อยให้ราคาปรับขึ้นตามตลาด อาจส่งผลให้ต้นทุนภาคเอกชนสูงขึ้นจนต้องไปปรับเพิ่มราคาสินค้าอื่นๆ ซึ่งมองว่าราคาสินค้าอุปโภคในขณะนี้มีราคาแพงอยู่แล้วจึงไม่อยากให้ประชาชนต้องมีภาระค่าครองชีพสูงขึ้นไปอีก
"ถ้าผ่านพ้นช่วงหน้าหนาวหรือสิ้นเดือนก.พ.นี้ค่อยมาดูกันว่าราคาน้ำมันจะมีแนวโน้มลดลงหรือไม่ หลังจากนั้นจึงค่อยมาพิจารณาตัดสินใจกันเชิงนโยบายต่อไป"
นายกรณ์กล่าวว่า การใช้มาตรการอื่นๆในการเข้ามาดูแลราคาน้ำมันไม่ให้ปรับสูงขึ้นจนกระทบเศรษฐกิจนั้น ในส่วนของภาษีสรรพสามิตกระทรวงการคลังก็พร้อมจะพิจารณาตามสถานการณ์และความเหมาะสมต่อไป.
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นในขณะนี้ถือเป็นเรื่องปกติของช่วงหน้าหนาวที่จะมีการใช้น้ำมันจำนวนมากส่งผลให้ราคาขึ้นไปสูงสุดในรอบปี แต่ขณะนี้ยอมรับว่าราคาน้ำในมีความผันผวนเนื่องจากสถานการณ์ความรุนแรงในอียิปต์ที่หลายฝ่ายกังวลว่าปัญหาจะรุกลามออกไปประเทศอื่น เช่น ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งหากราคายังขยับขึ้นต่อเนื่องก็เป็นเรื่องการตัดสินใจเชิงนโยบายว่าจะอุ้มดีเซลตอ่ไปหรือไม่ แต่มองว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงน่าจะดูแลราคานำมันไม่ให้สูงเกิน 30 บาทต่อลิตรได้จนถึงสิ้นเดือนก.พ.
อย่างไรก็ตาม การชดเชยราคาดีเซลของกองทุนน้ำมันที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) 5 พันล้านบาทนั้นยังใช้ไม่หมดและไม่น่าจะใช้อุ้มดีเซลได้อีกพักใหญ่ ซึ่งเงินกองทุนน้ำมันจริงๆแล้วยังเหลืออีก 2.2 หมื่นล้านบาท อีกทั้งขณะนี้รัฐบาลไม่ได้อุ้มแก๊ซแอลพีจีที่ใช้ในอุตสาหกรรมทำให้จะมีเงินกองทุนเข้ามาอีกประมาณปีละ 1,000 ล้านบาท
ส่วนความจำเป็นในการเข้าไปดูแลนำมันดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาทนั้น เนื่องจากภาคการขนส่งส่วนใหญ่ใช้นำมันดีเซลหากปล่อยให้ราคาปรับขึ้นตามตลาด อาจส่งผลให้ต้นทุนภาคเอกชนสูงขึ้นจนต้องไปปรับเพิ่มราคาสินค้าอื่นๆ ซึ่งมองว่าราคาสินค้าอุปโภคในขณะนี้มีราคาแพงอยู่แล้วจึงไม่อยากให้ประชาชนต้องมีภาระค่าครองชีพสูงขึ้นไปอีก
"ถ้าผ่านพ้นช่วงหน้าหนาวหรือสิ้นเดือนก.พ.นี้ค่อยมาดูกันว่าราคาน้ำมันจะมีแนวโน้มลดลงหรือไม่ หลังจากนั้นจึงค่อยมาพิจารณาตัดสินใจกันเชิงนโยบายต่อไป"
นายกรณ์กล่าวว่า การใช้มาตรการอื่นๆในการเข้ามาดูแลราคาน้ำมันไม่ให้ปรับสูงขึ้นจนกระทบเศรษฐกิจนั้น ในส่วนของภาษีสรรพสามิตกระทรวงการคลังก็พร้อมจะพิจารณาตามสถานการณ์และความเหมาะสมต่อไป.
