ASTVผู้จัดการรายวัน-พลังงานโล่งอก หลังสถานการณ์ตึงเครียดอียิปต์คลี่คลาย ทำน้ำมันตลาดโลกดิ่งลง ยืดอายุเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 5 พันล้านที่จะหมดอายุสัปดาห์นี้ออกไปอีก ตั้งแท่นถกคลัง 2 ประเด็น จะตรึงดีเซลลิตรละ 30 บาทต่ออีกหรือไม่ นานเท่าใด และใช้เงินจากไหน แย้มหากราคาน้ำมันสิงคโปร์ลดต่อเนื่อง เบนซินมีสิทธิปรับลง แต่ดีเซลยาก
น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ได้มีการติดตามราคาน้ำมันตลาดโลกอย่างใกล้ชิด เนื่องจากล่าสุดสถานการณ์ตึงเครียดของอียิปต์ได้คลี่คลายลงและมีผลทำให้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวลงมาแล้ว 1-2 วัน ซึ่งจะมีส่วนทำให้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่กันไว้ 5,000 ล้านบาท ในการดูแลน้ำมันดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาท ซึ่งใกล้จะหมดลงในสัปดาห์นี้ มีโอกาสยืดระยะเวลาการดูแลออกไปได้อีก
อย่างไรก็ตาม ในการดูแลน้ำมันดีเซลในระยะต่อไป จะมีการหารือกับกระทรวงการคลัง โดยจะเน้นใน 2 ประเด็น คือ 1.จะตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกินระดับ 30 บาทต่อลิตรต่อไปอีกหรือไม่ และมีระยะเวลานานเท่าใด และ 2.จะใช้วงเงินในการดูแลราคาจากแหล่งใด เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป
สำหรับกรณีที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จะเข้าหารือกับในวันที่ 16 ก.พ. เพื่อขอชะลอการปรับขึ้นราคาแอลพีจี (ก๊าซหุงต้ม) ภาคอุตสาหกรรมตามนโยบายรัฐบาลออกไปก่อน เพราะได้รับผลกระทบนั้น เรื่องนี้คงจะต้องมาหารือกันในรายละเอียดเนื่องจากนโยบายรัฐบาลชัดเจนว่าจะต้องดูแลผลกระทบกับภาคธุรกิจด้วย ดังนั้น จึงยังสรุปไมได้ว่าท้ายสุดแล้วจะมีการปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคอุตสาหกรรมในช่วงเวลาใด
นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านพลังงาน กล่าวว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกมีการปรับตัวลงแรงหลังสถานการณ์ที่อียิปต์เริ่มคลี่คลาย ทำให้ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันเริ่มดีขึ้น โดยเบนซินเฉลี่ยมาอยู่ในระดับ 1.50 บาทต่อลิตร ดีเซลเฉลี่ยอยู่ระดับ 1.10 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ผู้ค้าสามารถนำราคามาเฉลี่ยร่วมกันโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงได้ แต่คงจะต้องดูทิศทางตลาดสิงคโปร์อีก 1-2 วัน หากปรับลดลงต่อเนื่อง โอกาสที่จะเห็นการปรับลดราคากลุ่มเบนซินจะมีสูง แต่ดีเซลคาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะค่าการตลาดยังค่อนข้างต่ำ
“ทิศทางราคาน้ำมันค่อนข้างยังเดาได้ยาก จะต้องติดตามกันวันต่อวัน และยังเชื่อว่าภาพรวมน่าจะทรงตัวระดับสูงอยู่ แต่คงจะมีการปรับตัวลดลงบ้างเล็กน้อย”นายมนูญกล่าว
รายงานข่าวจากไทยออยล์ แจ้งว่า ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปิดตลาดวันที่ 7 ก.พ. เวสเท็กซัสลดลง 1.55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 87.48 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ดูไบลดลง 1.29 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 95.71 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์ เบนซิน 95 ลดลง 2.95 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 107.29 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ดีเซล ลดลง 0.23 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 89.89 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งสาเหตุหลักมาจากสถานการณ์อียิปต์เริ่มคลี่คลาย
น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ได้มีการติดตามราคาน้ำมันตลาดโลกอย่างใกล้ชิด เนื่องจากล่าสุดสถานการณ์ตึงเครียดของอียิปต์ได้คลี่คลายลงและมีผลทำให้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวลงมาแล้ว 1-2 วัน ซึ่งจะมีส่วนทำให้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่กันไว้ 5,000 ล้านบาท ในการดูแลน้ำมันดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาท ซึ่งใกล้จะหมดลงในสัปดาห์นี้ มีโอกาสยืดระยะเวลาการดูแลออกไปได้อีก
อย่างไรก็ตาม ในการดูแลน้ำมันดีเซลในระยะต่อไป จะมีการหารือกับกระทรวงการคลัง โดยจะเน้นใน 2 ประเด็น คือ 1.จะตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกินระดับ 30 บาทต่อลิตรต่อไปอีกหรือไม่ และมีระยะเวลานานเท่าใด และ 2.จะใช้วงเงินในการดูแลราคาจากแหล่งใด เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป
สำหรับกรณีที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จะเข้าหารือกับในวันที่ 16 ก.พ. เพื่อขอชะลอการปรับขึ้นราคาแอลพีจี (ก๊าซหุงต้ม) ภาคอุตสาหกรรมตามนโยบายรัฐบาลออกไปก่อน เพราะได้รับผลกระทบนั้น เรื่องนี้คงจะต้องมาหารือกันในรายละเอียดเนื่องจากนโยบายรัฐบาลชัดเจนว่าจะต้องดูแลผลกระทบกับภาคธุรกิจด้วย ดังนั้น จึงยังสรุปไมได้ว่าท้ายสุดแล้วจะมีการปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคอุตสาหกรรมในช่วงเวลาใด
นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านพลังงาน กล่าวว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกมีการปรับตัวลงแรงหลังสถานการณ์ที่อียิปต์เริ่มคลี่คลาย ทำให้ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันเริ่มดีขึ้น โดยเบนซินเฉลี่ยมาอยู่ในระดับ 1.50 บาทต่อลิตร ดีเซลเฉลี่ยอยู่ระดับ 1.10 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ผู้ค้าสามารถนำราคามาเฉลี่ยร่วมกันโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงได้ แต่คงจะต้องดูทิศทางตลาดสิงคโปร์อีก 1-2 วัน หากปรับลดลงต่อเนื่อง โอกาสที่จะเห็นการปรับลดราคากลุ่มเบนซินจะมีสูง แต่ดีเซลคาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะค่าการตลาดยังค่อนข้างต่ำ
“ทิศทางราคาน้ำมันค่อนข้างยังเดาได้ยาก จะต้องติดตามกันวันต่อวัน และยังเชื่อว่าภาพรวมน่าจะทรงตัวระดับสูงอยู่ แต่คงจะมีการปรับตัวลดลงบ้างเล็กน้อย”นายมนูญกล่าว
รายงานข่าวจากไทยออยล์ แจ้งว่า ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปิดตลาดวันที่ 7 ก.พ. เวสเท็กซัสลดลง 1.55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 87.48 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ดูไบลดลง 1.29 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 95.71 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์ เบนซิน 95 ลดลง 2.95 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 107.29 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ดีเซล ลดลง 0.23 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 89.89 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งสาเหตุหลักมาจากสถานการณ์อียิปต์เริ่มคลี่คลาย
