ASTVผู้จัดการรายวัน- “ปตท.”โอดค่าการตลาดดีเซลรูดต่ำแม้น้ำมันโลกลดเหตุบาทอ่อนค่าเฉลี่ย 1 บาท ชี้มีผลต่อราคาขึ้นถึง 50 สตางค์/ลิตร ขณะที่เบนซินค่าการตลาดพุ่งลุ้นขยับลด กบง.ยังนิ่งเกาะติดราคาน้ำมันโลกอีก1-2วันชี้ชะตาอุดหนุนเพิ่มหลังวงเงิน 5,000ลบ.เหลือแค่20วันอาจต้องขยายวงเงินตรึงอีก 2,000-3,000พันลบ.
นายสรัญ รังคสิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาจะเป็นขาลงแต่ค่าการตลาดของผู้ค้ากลับไม่ได้ดีขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาเป็นตัวฉุด โดยขณะนี้ค่าการตลาดไบโอดีเซลบี 3 เฉลี่ยอยู่ที่ 90 สตางค์ต่อลิตรและบี 5 อยู่ที่ 70
สตางค์ต่อลิตรเท่านั้นแต่ปตท.ยังไม่ปรับขึ้นราคา โดยจะขอพิจารณาทิศทางตลาดโลกอีกวัน หากค่าการตลาดยังไม่ดีขึ้นคณะกรรมการนโยบายพลังงาน(กบง.)ก็ควรจะกำหนดมาตรการอุดหนุนเพื่อไม่ให้ราคาดีเซลเกิน 30 บาทต่อลิตร
“ ถ้าดูแล้ววันนี้ก็สามารถขึ้นราคาได้ทันทีเพราะค่าการตลาดต่ำมาก ส่วนกรณีที่บางจากหันไปขายบี 3 เกรดเดียวนั้น ปตท.คงไม่จำเป็น เนื่องจากยังมีบี 100 ในการผสมเพียงพออยู่”นายสรัญกล่าว
นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมันกล่าวว่า ขณะนี้เฉลี่ยค่าการตลาดดีเซลอยู่ที่ 90 สตางค์ต่อลิตร เบนซิน 1.40 บาทต่อลิตร ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ค่าการตลาดผู้ค้าต่ำเพราะมีปัจจัยค่าเงินบาทที่อ่อนค่าที่แตะระดับ 31 บาทต่อเหรียญสหรัฐอเมริกาจากที่อยู่ระดับ 30 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งทุก 1 บาทที่อ่อนค่าจะมีผลให้ราคาน้ำมันปรับขึ้นสูงถึง 50 สตางค์ต่อลิตร แต่หากน้ำมันปรับขึ้นทุก 1 เหรียญฯจะมีผลต่อราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นเพียง 20 สตางค์ต่อลิตรเท่านั้น
“คงต้องติดตามราคาน้ำมันตลาดโลกและทิศทางค่าเงินบาทอีก 1-2 วันจึงจะรู้ทิศทางว่า ท้ายสุดแล้วราคาดีเซลจะมีลุ้นว่าต้องอุดหนุนราคาเพิ่มต่อหรือลุ้นดึงเงินกลับเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้ ซึ่งหากเงินบาทไม่อ่อนค่าไปมากกว่านี้และราคาสิงคโปร์ปรับลดก็อาจจะไม่ต้องอุดหนุนเพิ่ม ส่วนเบนซินนั้นมีโอกาสลุ้นที่จะปรับลดเช่นกัน”นายมนูญกล่าว
รายงานจากบมจ.ไทยออยล์แจ้งว่า ราคาน้ำมันโลกปิดตลาดเมื่อวันที่ 25 ม.ค.54 น้ำมันดิบเวสเท็กซัสปรับลดลง 1.68 เหรียญฯต่อบาร์เรลปิดที่ 86.19 เหรียญฯต่อบาร์เรล,เบรนท์ปรับลด 1.36 เหรียญฯต่อบาร์เรลปิดที่ 95.25 เหรียญฯต่อบาร์เรล,ดูไบลดลง 1.11 เหรียญต่อบาร์เรลปิดที่ 91.81 เหรียญฯต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์เบนซิน 95 ลดลง 2.07 เหรียญฯต่อบาร์เรล ดีเซลลดลง 1.54 เหรียญฯต่อบาร์เรลปิดที่ 108.05 เหรียญฯต่อบาร์เรล
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า คงจะต้องรอทิศทางตลาดโลกอีก1-2วันก่อนที่จะกำหนดการประชุมกบง.โดยยอมรับว่าหากผู้ค้าจะปรับราคาบี 5 ให้ชนเพดาน 29.99 บาทต่อลิตรก็ยังดำเนินการได้อยู่ เพราะรัฐไม่มีมาตรการอุดหนุนเพื่อเบรกการใช้ในการลดปัญหาปาล์มขาดแคลน อย่างไรก็ตามวงเงินกองทุนน้ำมันฯ 5,000 ล้านบาทนั้นยอมรับว่าเหลือใช้ประมาณ 20 วันหากอุดหนุนเพิ่มก็คงจะทำได้เพียง 30 สตางค์ต่อลิตรก็จะหมดลงทันที และคงจะต้องให้รัฐบาลตัดสินใจว่าจะขยายเพดานการตรึงราคาดีเซลตามที่ผู้ค้าน้ำมันเคยเสนอจากขณะนี้กำหนดไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรหรือจะขยายวงเงินอุดหนุนเพิ่มจาก 5,000 ล้านบาทเป็น 7,000- 8,000 ล้านบาท
นายสรัญ รังคสิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาจะเป็นขาลงแต่ค่าการตลาดของผู้ค้ากลับไม่ได้ดีขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาเป็นตัวฉุด โดยขณะนี้ค่าการตลาดไบโอดีเซลบี 3 เฉลี่ยอยู่ที่ 90 สตางค์ต่อลิตรและบี 5 อยู่ที่ 70
สตางค์ต่อลิตรเท่านั้นแต่ปตท.ยังไม่ปรับขึ้นราคา โดยจะขอพิจารณาทิศทางตลาดโลกอีกวัน หากค่าการตลาดยังไม่ดีขึ้นคณะกรรมการนโยบายพลังงาน(กบง.)ก็ควรจะกำหนดมาตรการอุดหนุนเพื่อไม่ให้ราคาดีเซลเกิน 30 บาทต่อลิตร
“ ถ้าดูแล้ววันนี้ก็สามารถขึ้นราคาได้ทันทีเพราะค่าการตลาดต่ำมาก ส่วนกรณีที่บางจากหันไปขายบี 3 เกรดเดียวนั้น ปตท.คงไม่จำเป็น เนื่องจากยังมีบี 100 ในการผสมเพียงพออยู่”นายสรัญกล่าว
นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมันกล่าวว่า ขณะนี้เฉลี่ยค่าการตลาดดีเซลอยู่ที่ 90 สตางค์ต่อลิตร เบนซิน 1.40 บาทต่อลิตร ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ค่าการตลาดผู้ค้าต่ำเพราะมีปัจจัยค่าเงินบาทที่อ่อนค่าที่แตะระดับ 31 บาทต่อเหรียญสหรัฐอเมริกาจากที่อยู่ระดับ 30 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งทุก 1 บาทที่อ่อนค่าจะมีผลให้ราคาน้ำมันปรับขึ้นสูงถึง 50 สตางค์ต่อลิตร แต่หากน้ำมันปรับขึ้นทุก 1 เหรียญฯจะมีผลต่อราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นเพียง 20 สตางค์ต่อลิตรเท่านั้น
“คงต้องติดตามราคาน้ำมันตลาดโลกและทิศทางค่าเงินบาทอีก 1-2 วันจึงจะรู้ทิศทางว่า ท้ายสุดแล้วราคาดีเซลจะมีลุ้นว่าต้องอุดหนุนราคาเพิ่มต่อหรือลุ้นดึงเงินกลับเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้ ซึ่งหากเงินบาทไม่อ่อนค่าไปมากกว่านี้และราคาสิงคโปร์ปรับลดก็อาจจะไม่ต้องอุดหนุนเพิ่ม ส่วนเบนซินนั้นมีโอกาสลุ้นที่จะปรับลดเช่นกัน”นายมนูญกล่าว
รายงานจากบมจ.ไทยออยล์แจ้งว่า ราคาน้ำมันโลกปิดตลาดเมื่อวันที่ 25 ม.ค.54 น้ำมันดิบเวสเท็กซัสปรับลดลง 1.68 เหรียญฯต่อบาร์เรลปิดที่ 86.19 เหรียญฯต่อบาร์เรล,เบรนท์ปรับลด 1.36 เหรียญฯต่อบาร์เรลปิดที่ 95.25 เหรียญฯต่อบาร์เรล,ดูไบลดลง 1.11 เหรียญต่อบาร์เรลปิดที่ 91.81 เหรียญฯต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์เบนซิน 95 ลดลง 2.07 เหรียญฯต่อบาร์เรล ดีเซลลดลง 1.54 เหรียญฯต่อบาร์เรลปิดที่ 108.05 เหรียญฯต่อบาร์เรล
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า คงจะต้องรอทิศทางตลาดโลกอีก1-2วันก่อนที่จะกำหนดการประชุมกบง.โดยยอมรับว่าหากผู้ค้าจะปรับราคาบี 5 ให้ชนเพดาน 29.99 บาทต่อลิตรก็ยังดำเนินการได้อยู่ เพราะรัฐไม่มีมาตรการอุดหนุนเพื่อเบรกการใช้ในการลดปัญหาปาล์มขาดแคลน อย่างไรก็ตามวงเงินกองทุนน้ำมันฯ 5,000 ล้านบาทนั้นยอมรับว่าเหลือใช้ประมาณ 20 วันหากอุดหนุนเพิ่มก็คงจะทำได้เพียง 30 สตางค์ต่อลิตรก็จะหมดลงทันที และคงจะต้องให้รัฐบาลตัดสินใจว่าจะขยายเพดานการตรึงราคาดีเซลตามที่ผู้ค้าน้ำมันเคยเสนอจากขณะนี้กำหนดไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรหรือจะขยายวงเงินอุดหนุนเพิ่มจาก 5,000 ล้านบาทเป็น 7,000- 8,000 ล้านบาท