xs
xsm
sm
md
lg

ดึงเงินกองทุนฯ ตรึงราคาดีเซล คุมต่ำ30สตางค์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- กบง.แบเงินกองทุนน้ำมันฯ 5,000 ล้านบาทตรึงดีเซลเหลือใช้แค่ 26 วันหลังเพิ่มชดเชยราคาไบโอดีเซลบี 3 อีกลิตรละ 30 สตางค์ เบรกไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ทำส่วนต่างบี 5 ต่ำกว่าบี 3 เพียง 30 สตางค์ต่อลิตรเบรกการใช้หวังแก้ปาล์มขาดแคลนชั่วคราว ลุ้นตลาดโลกชี้ชะตาโยนกพช.ชี้ขาดมาตรการต่อไป ด้านบิ๊กไทยออยล์ฯเชื่อหลังตรุษจีน ราคาน้ำมันลดแน่ หลังอากาศเริ่มอบอุ่น ส่งผลดีต่อกองทุนน้ำมันฯ

น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการเป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน(กบง.) วานนี้ (24ม.ค.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบปรับเพิ่มอัตราการชดเชยราคาน้ำมันไบโอดีเซลบี 3 จากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอีก 30 สตางค์ต่อลิตร เพื่อไม่ให้ราคาขายปลีกปรับเกิน 30 บาทต่อลิตรตามนโยบายรัฐบาล ที่กันเงินกองทุนฯไว้ 5,000 ล้านบาทในการดูแล ทำให้กองทุนน้ำมันฯชดเชยบี 3 จาก 1.65 บาทต่อลิตรเป็น 1.95 บาทต่อลิตร ขณะที่บี 5 ยังคงระดับเดิมที่มีการชดเชยแล้ว 2.50 บาทต่อลิตร

“ บี 3 ที่ชดเชยให้ เพราะราคาดีเซลสิงคโปร์ปรับขึ้นไประดับ 109.26 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้ค่าการตลาดผู้ค้าอยู่ที่ 98 สตางค์ต่อลิตรเท่านั้น แต่บี 5ค่าการตลาดอยู่ที่ 1.13 บาทต่อลิตรซึ่งถือว่ายังสูงอยู่จึงชดเชยให้เฉพาะบี 3 ทำให้ราคาบี 5 อยู่ที่ 29.69 บาทต่อลิตรต่ำกว่าบี 3 ซึ่งมีราคา 29.99 บาทต่อลิตรเพียง 30 สตางค์ต่อลิตรอาจไม่จูงใจการขายบี 5สาเหตุส่วนหนึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาปาล์มขาดแคลนชั่วคราว”รมว.พลังงานกล่าว

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าผลการชดเชยครั้งนี้ ทำให้กองทุนน้ำมันฯมีเงินไหลออกจากเดือนละ 3,339 ล้านบาทเป็น 3,667 ล้านบาท ขณะที่ก่อนหน้ามีการวงเงินในการดูแลราคาดีเซลจาก 5,000 ล้านบาทไปแล้วรวมทั้งสิ้น 2,096 ล้านบาทจึงเหลือเงินบริหารอีก 2,904 ล้านบาท ดังนั้นหากราคาน้ำมันขายปลีกทรงตัวในระดับปัจจุบัน กองทุนน้ำมันฯจะดูแลได้อีกประมาณ 26 วันเท่านั้น ขณะที่ฐานะกองทุนน้ำมันฯล่าสุดมีเงินสะสมที่ระดับ 25,427 ล้านบาท

ทั้งนี้ กบง.จะขอติดตามสถานการณ์น้ำมันตลาดโลกอีกระยะหนึ่งก่อน หากราคายังคงมีทิศทางปรับเพิ่มขึ้นและทำให้วงเงิน 5,000 ล้านบาทหมดลง คงจะต้องมีการหารือในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเป็นกรณีเร่งด่วน เพื่อขอนโยบายถึงมาตรการในการที่จะมาดูแลราคาน้ำมันเพิ่มเติมว่า จะนำเงินมาจากส่วนไหนซึ่งขณะนี้ยังไม่มีคำตอบว่าจะกันเงินจากกองทุนน้ำมันเพิ่มเติมให้หรือไม่ ซึ่งยอมรับว่าหากน้ำมันโลกลดลงมากผิดปกติและเศรษฐกิจไทยดีขึ้นก็ไม่จำเป็นจะต้องตรึงดีเซลไว้อีกก็เป็นได้

สำหรับกรณีที่ภาคอุตสาหกรรมได้เสนอให้มีการชะลอการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) ออกไปก่อนจนกว่าจะหาเชื้อเพลิงอื่นๆ ที่มีราคาใกล้เคียงมาช่วยเหลือนั้น น.พ.วรรณรัตน์กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานได้มีการรับฟังข้อมูลถึงผลกระทบจากทุกส่วนอยู่จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะมีการปรับราคาแอลพีจีสะท้อนกลไกตลาดโลกในรายละเอียดอย่างไร

“ ขณะนี้ราคาแอลพีจีตลาดโลกเริ่มอ่อนตัวลงเล็กน้อยคาดว่าก.พ.ราคาเฉลี่ยจะเหลือประมาณ 800 เหรียญสหรัฐต่อตันจากที่ผ่านมาสูงถึง 900 กว่าเหรียญฯต่อตันการชดเชยสูงถึง 19 บาทต่อกิโลกรัมหากราคาโลกลดลงการชดเชยก็คงจะต่ำลงกว่านี้”รมว.พลังงานกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กบง.ยังไม่ได้มีการพิจารณาถึงการขยายเพดานวงเงินกองทุนน้ำมันฯในการตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรหลังจากเห็นว่าราคาน้ำมันตลาดโลกเริ่มอ่อนตัวลงเพราะมีการเทขายทำกำไรจึงเห็นว่าควรจะติดตามสถานการณ์น้ำมันอย่างใกล้ชิดก่อนที่จะตัดสินใจถึงมาตรการดังกล่าวจะดีกว่า

***ไทยออยล์คาดหลังตรุษจีนราคาน้ำมันลด

นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยออยล์ คาดว่าราคาน้ำมันจะเริ่มปรับลดลงชัดเจนหลังตรุษจีนนี้หรือต้นเดือนก.พ. เนื่องจากอากาศโลกเริ่มอบอุ่นขึ้น ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันโดยรวมไม่ปรับขึ้นมากนัก คาดว่าราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยปีนี้ประมาณ 83-85 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้กองทุนน้ำมันไม่ต้องเข้าไปอุดหนุนราคาดีเซลเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดนิวยอร์ค ปิดตลาด เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ปรับลดลง 0.48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 89.11เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เนื่องจากตลาดเกรงปัญหาจีนอาจจะขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อ และยังถูกกดดันจากปริมาณน้ำมันคงคลังของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก

นายสุรงค์ กล่าวต่อไปว่า ปีนี้บริษัทฯคาดว่ามีผลประกอบการดีขึ้นจากปีก่อนตามราคาผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้ค่าการกลั่นขณะนี้อยู่ที่ 5-6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และปีนี้บริษัทฯไม่มีการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นรวมทั้งได้ผลดีจากการปรับราคาขายแอลพีจีหน้าโรงกลั่นทำให้บริษัทฯเพิ่มการผลิตแอลพีจีจาก 1.5 หมื่นตันเป็น 3 หมื่นตัน/ปี  โดยปีที่แล้วบริษัทฯมีกำไรสุทธิสูงกว่า 8พันล้านบาท.
กำลังโหลดความคิดเห็น