นายกฯ เผยมติ กพช.เห็นชอบให้กองทุนน้ำมันฯ แบกภาระอุ้มดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ต่อเนื่องจนถึงสิ้นเดือน เม.ย.นี้ ลั่นหากกองทุนน้ำมันเหลือเงิน 1 หมื่นล้าน จะเรียกประชุมแก้ปัญหาอีกครั้ง พร้อมมีมติให้ปรัสูตรน้ำมันไบโอดีเซล บี3 มาเป็น บี2 หวังลดการใช้น้ำมันปาล์ม บี100 วันละ 5 แสนลิตร ที่จะนำไปทำเชื้อเพลิง และลดเงินอุดหนุนได้ 600 ล้านบาท
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) โดยระบุว่า ที่ประชุมวันนี้ มีมติเห็นชอบให้ใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับการชดเชยราคาน้ำมันดีเซล เพื่อตรึงราคาไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาทอีกครั้ง โดยคาดว่าการตรึงราคารอบนี้จะมีไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554
ปัจจุบันสถานะของกองทุนน้ำมันฯ มีเงินเหลืออยู่ประมาณ 23,000 ล้านบาท ซึ่งหากเงินในกองทุนฯ ลดลงจนเหลือระดับ 10,000 ล้านบาท ก็จะมีการเรียกประชุม กพช.อีกครั้ง เพื่อพิจารณาหาแนวทางในการดูแลราคาน้ำมันดีเซลต่อไป
นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันทุกรายให้ปรับลดเกรดน้ำมันไบโอดีเซลจาก บี3 เป็น บี2 อย่างเดียว เพื่อลดการใช้น้ำมันปาล์ม และลดการอุดหนุนจากเงินกองทุน เฉลี่ยเดือนละ 600 ล้านบาท ซึ่งการปรับลดเกรดน้ำมันดังกล่าว จะใช้ถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2554 นี้
“การปรับเกรดน้ำมันไบโอดีเซล โดยผสมน้ำมันปาล์มลดลงเหลือ 2% จะลดการใช้น้ำมันปาล์ม บี100 ได้ 5 แสนลิตรต่อวัน ซึ่งช่วยลดน้ำมันปาล์มที่จะนำมาใช้ในส่วนของพลังงาน เพื่อให้เพียงพอในการบริโภค และจะลดภาระการอุดหนุนได้อีก 600 ล้านบาท โดยมาตรการนี้จะดำเนินการไปเดือนมีนาคม ซึ่งจะสอดรับกับที่ผลผลิตปาล์มจะออกมากในช่วงเดือนเมษายนนี้”
ด้าน นายแพทย์ วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยืนยันว่า ผู้ค้าน้ำมันทุกรายพร้อมจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล บี2 เนื่องจากสามารถใช้หัวจ่ายน้ำมันเดิมจ่าย บี2 ได้ ซึ่งกระทรวงพลังงานเตรียมออกประกาศให้ผู้ค้าน้ำมันทุกรายสามารถจำหน่ายไบโอดีเซล บี2 ได้ในสัปดาห์หน้า
รมว.พลังงาน กล่าวว่า แนวโน้มราคาน้ำมันในช่วงนี้ยังจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากยังมีปริมาณความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น และอากาศหนาวในปีนี้ยาวนานกว่าปกติ ดังนั้น รัฐบาลยังจำเป็นต้องดูแลราคาน้ำมัน เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน