ASTV ผู้จัดการรายวัน - "ไออาร์พีซี " ยืนยันปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นไม่ฉุดรายได้ทั้งปีวูบ คาดปีนี้รายได้ไม่ต่ำกว่า2.2 แสนล้านบาท พร้อมแนะจับตาสถานการณ์ในอียิปต์อาจส่งผลดันราคาน้ำมันโลกพุ่ง ล่าสุดลุยญี่ปุ่น ศึกษางานโรงไฟฟ้าพลังสะอาด เพื่อนำเทคโนโลยีมาจัดตั้งในโครงการของตนเองมูลค่ากว่า 8 พันล้าน ย้ำจุดยืนทำธุรกิจแบบใส่ใจชุมชน - สิ่งแวดล้อม ไม่หวั่นต้นทุนสูง
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)หรือ IRPC กล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการในปี 2554 ว่า ในส่วนธุรกิจการกลั่นน้ำมันของบริษัทมีแนวโน้มจะออกมาดีเมื่อขึ้นในช่วง1-2 เดือนที่ผ่าน เนื่องจากมีประเด็นเรื่องความไม่สงบในอียิปต์ และโรงกลั่น 2 โรงในประเทศที่ต้องปิดซ่อมบำรุง แต่ความต้องการใช้พลังงานในประเทศยังสูงอยู่ซึ่งจากปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้มาร์จิ้นการกลั่นในปีก่อนอยู่ในระดับสูง
" ตอนนี้สิ่งที่เราต้องจับตาคือปัญหาในอียิปต์ โดยเฉพาะคลองสุเอต เนื่องจากเป็นเส้นทางขนส่งน้ำที่สำคัญจะได้รับผลกระทบด้วยหรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่อราคาน้ำมันโลก และหากผู้นำของอียิปต์ถูกโค่นล้มอำนาจอาจจะส่งผลให้หลายประเทศในตะวันออกกลางทำตามไปด้วย และจะส่งผลต่อการผลิตและขนส่งน้ำมันในอนาคต ภาพรวมธุรกิจโรงกลั่นในปีที่ผ่านมามีอุปสรรคอยู่พอสมควรเพราะปริมาณการกลั่นน้ำมันที่ออกมาถือว่ามากกว่าความต้องการ "
นอกจากนี้ในปีนี้ทางบริษัทฯ จะปิดซ่อมโรงกลั่นครั้งใหญ่เพื่อซ่อมบำรุงตามกำหนดเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเดือนพ.ย.นี้ โดยจะส่งผลให้รายได้ลดลงประมาณ 7% แต่ยังคงมั่นใจว่าการปิดโรงกลั่นดังกล่าวจะไม่กระทบกับรายได้ทั้งปี เนื่องจากทางบริษัทฯมีรายได้จากโครงการฟินิกซ์และโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำและไฟฟ้าร่วมเข้ามาช่วยชดเชยแต่อาจจะทำให้รายได้ในปีนี้ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปีที่ผ่านมามากนัก ซึ่งคาดว่าจะอยู่ประมาณ 2.2 แสนล้านบาท
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 3 – 7ก.พ.ที่ผ่านมา ทางบริษัท ได้พาสื่อมวลชนไทยไปเยี่ยมชมการดำเนินงานโรงไฟฟ้า อิโซโกะ ของบริษัทเจพาวเวอร์ ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากโรงไฟฟ้าดังกล่าวเป็นต้นแบบสำคัญของผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าสำคัญในหลายประเทศ เพราะมีกระบวนจัดการที่มีคุณภาพทั้งกระบวนการผลิต และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมซึ่งทางบริษัทเตรียมจะนำรูปแบบการดำเนินงานดังกล่าวมาปรับใช้กับการดำเนินงานของบริษัท โดยเฉพาะโครงการการผลิตพลังไอน้ำและไฟฟ้าร่วม มูลค่า 8,000 ล้านบาท ที่ขณะนี้สามารถทำการผลิตไอน้ำและไฟฟ้าได้แล้ว 1 หน่วย จากทั้งหมด 6 หน่วยผลิต ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้อย่างเต็มรูปแบบเดือน ก.ค.ปีนี้ ซึ่งโครงการดังกล่าวบริษัทฯ เตรียมจะดำเนินการตั้งแต่ 2-3 ปีที่ผ่านมาแต่เนื่องจากติดข้อกฎหมายของรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 ส่งผลให้การดำเนินการล่าช้าออก
ด้านนายอธิคม เติบศิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายแผนธุรกิจองค์กร เปิดเผยว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของบริษัทประมาณ 5 ล้านบาท หรือ 150 ล้านบาท/เดือน ซึ่งไฟฟ้าที่ผลิตได้ จะนำมาใช้ในองค์กรเป็นส่วนใหญ่ เพราะที่ผ่านมาจะเกิดปัญหาไฟฟ้าดับ และสร้างความเสียหายให้กับกระบวนการผลิตในสายการผลิตของบริษัทฯ
สำหรับโรงไฟฟ้าอิโซโกะเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ดำเนินการผลิตไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีนับตั้งแต่เริ่มดำเนินการมาในปี 2510 โดยมีกำลังการผลิต 1,200 เมกะวัตต์ และเป็นโรงไฟฟ้าเก่าที่บริษัท เจพาวเวอร์ กับรัฐบาลท้องถิ่นในโยโกฮามาร่วมกันพิจารณาปรับปรุงใช้เทคโนโลยีใหม่บนพื้นที่เดิม เพื่อให้เป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนถ่านหินขนาดเล็กสำหรับเมืองใหญ่โดยใช้ถ่านหินสะอาด ที่ใช้เงินลงทุนสูงกว่าเทคโนโลยีปกติทั่วไป 20%
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)หรือ IRPC กล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการในปี 2554 ว่า ในส่วนธุรกิจการกลั่นน้ำมันของบริษัทมีแนวโน้มจะออกมาดีเมื่อขึ้นในช่วง1-2 เดือนที่ผ่าน เนื่องจากมีประเด็นเรื่องความไม่สงบในอียิปต์ และโรงกลั่น 2 โรงในประเทศที่ต้องปิดซ่อมบำรุง แต่ความต้องการใช้พลังงานในประเทศยังสูงอยู่ซึ่งจากปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้มาร์จิ้นการกลั่นในปีก่อนอยู่ในระดับสูง
" ตอนนี้สิ่งที่เราต้องจับตาคือปัญหาในอียิปต์ โดยเฉพาะคลองสุเอต เนื่องจากเป็นเส้นทางขนส่งน้ำที่สำคัญจะได้รับผลกระทบด้วยหรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่อราคาน้ำมันโลก และหากผู้นำของอียิปต์ถูกโค่นล้มอำนาจอาจจะส่งผลให้หลายประเทศในตะวันออกกลางทำตามไปด้วย และจะส่งผลต่อการผลิตและขนส่งน้ำมันในอนาคต ภาพรวมธุรกิจโรงกลั่นในปีที่ผ่านมามีอุปสรรคอยู่พอสมควรเพราะปริมาณการกลั่นน้ำมันที่ออกมาถือว่ามากกว่าความต้องการ "
นอกจากนี้ในปีนี้ทางบริษัทฯ จะปิดซ่อมโรงกลั่นครั้งใหญ่เพื่อซ่อมบำรุงตามกำหนดเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเดือนพ.ย.นี้ โดยจะส่งผลให้รายได้ลดลงประมาณ 7% แต่ยังคงมั่นใจว่าการปิดโรงกลั่นดังกล่าวจะไม่กระทบกับรายได้ทั้งปี เนื่องจากทางบริษัทฯมีรายได้จากโครงการฟินิกซ์และโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำและไฟฟ้าร่วมเข้ามาช่วยชดเชยแต่อาจจะทำให้รายได้ในปีนี้ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปีที่ผ่านมามากนัก ซึ่งคาดว่าจะอยู่ประมาณ 2.2 แสนล้านบาท
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 3 – 7ก.พ.ที่ผ่านมา ทางบริษัท ได้พาสื่อมวลชนไทยไปเยี่ยมชมการดำเนินงานโรงไฟฟ้า อิโซโกะ ของบริษัทเจพาวเวอร์ ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากโรงไฟฟ้าดังกล่าวเป็นต้นแบบสำคัญของผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าสำคัญในหลายประเทศ เพราะมีกระบวนจัดการที่มีคุณภาพทั้งกระบวนการผลิต และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมซึ่งทางบริษัทเตรียมจะนำรูปแบบการดำเนินงานดังกล่าวมาปรับใช้กับการดำเนินงานของบริษัท โดยเฉพาะโครงการการผลิตพลังไอน้ำและไฟฟ้าร่วม มูลค่า 8,000 ล้านบาท ที่ขณะนี้สามารถทำการผลิตไอน้ำและไฟฟ้าได้แล้ว 1 หน่วย จากทั้งหมด 6 หน่วยผลิต ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้อย่างเต็มรูปแบบเดือน ก.ค.ปีนี้ ซึ่งโครงการดังกล่าวบริษัทฯ เตรียมจะดำเนินการตั้งแต่ 2-3 ปีที่ผ่านมาแต่เนื่องจากติดข้อกฎหมายของรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 ส่งผลให้การดำเนินการล่าช้าออก
ด้านนายอธิคม เติบศิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายแผนธุรกิจองค์กร เปิดเผยว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของบริษัทประมาณ 5 ล้านบาท หรือ 150 ล้านบาท/เดือน ซึ่งไฟฟ้าที่ผลิตได้ จะนำมาใช้ในองค์กรเป็นส่วนใหญ่ เพราะที่ผ่านมาจะเกิดปัญหาไฟฟ้าดับ และสร้างความเสียหายให้กับกระบวนการผลิตในสายการผลิตของบริษัทฯ
สำหรับโรงไฟฟ้าอิโซโกะเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ดำเนินการผลิตไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีนับตั้งแต่เริ่มดำเนินการมาในปี 2510 โดยมีกำลังการผลิต 1,200 เมกะวัตต์ และเป็นโรงไฟฟ้าเก่าที่บริษัท เจพาวเวอร์ กับรัฐบาลท้องถิ่นในโยโกฮามาร่วมกันพิจารณาปรับปรุงใช้เทคโนโลยีใหม่บนพื้นที่เดิม เพื่อให้เป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนถ่านหินขนาดเล็กสำหรับเมืองใหญ่โดยใช้ถ่านหินสะอาด ที่ใช้เงินลงทุนสูงกว่าเทคโนโลยีปกติทั่วไป 20%