สตูล- เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา ยื่นหนังสือถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พิจารณาทบทวนพฤติกรรมของคณะอาจารย์และนักศึกษา ที่รับทำโครงการประชาสัมพันธ์จากกรมเจ้าท่า เผยไม่ใช่บทบาทของนักวิชาการและจี้ให้ยกเลิก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณบริเวณหน้าตึกอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จ.สงขลา(มอ.) เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา อ.ละงู จ.สตูล ได้เดินทางเข้ายื่นจดหมายเปิดผนึก ถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เรื่อง “ขอให้ทบทวนโครงการประชาสัมพันธ์ โครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา” จากกรณีที่คณะอาจารย์ และนักศึกษาปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จำนวนหนึ่งได้รับจ้างทำโครงการประชาสัมพันธ์ และการมีส่วนร่วมของประชาชน กรณีการสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา ที่จัดจ้างโดยกรมเจ้าท่า
โครงการดังกล่าวเป็นที่ถกเถียงถึงข้อดีข้อเสียที่ประชาชนในพื้นที่ยังไม่ได้ผลสรุป โดยโครงการดังกล่าวจะทำให้เกิดการพัฒนาที่จะเปลี่ยนสภาพของ จ.สตูล ให้เป็นเมืองแห่งการขนส่ง และเมืองอุตสาหกรรมในอนาคต โดยนักวิชาการกลุ่มหนึ่งจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ วิศวการจัดการ ได้ร่วมกับบริษัทสำรวจออกแบบท่าเรือฯ รับเหมางานจากกรมเจ้าท่า เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการท่าเทียบเรืออุตสาหกรรมปากบารา ด้วยงบประมาณ 15 ล้านบาท ซึ่งนักวิชาการจากคณะดังกล่าวได้ว่าจ้างนักศึกษา เป็นจำนวนเงิน 500 บาท ให้ไปประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลแก่ชาวบ้านในเชิงรุก และมีเจตนาปกปิดบิดเบือนข้อเท็จจริงของโครงการ และอ้างว่าจะไม่มีโครงการอื่นใดนอกเหนือจากนี้
นายสมยศ โต๊ะหลัง เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล กล่าวว่า หากนักวิชาการเข้าไปศึกษาหาข้อมูล ชาวบ้านก็ยินยอมที่จะให้ข้อมูลเพื่อนำไปใช้ในการศึกษา แต่หากนักวิชาการบางกลุ่มเข้าไปในพื้นที่โดยที่ชาวบ้านในพื้นที่ไม่รู้เรื่อง และได้ไปประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลที่มีความบิดเบือน ซึ่งอาจทำให้ชาวบ้านเข้าใจผิด และที่มาในวันนี้ เพื่อต้องการยื่นเรื่องให้อธิการบดีมหาวิทยาสงขลานครินทร์ได้ทบทวนโครงการประชาสัมพันธ์ โครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา และเรื่องการให้ระวังนักศึกษาตกเป็นเครื่องมือของนักวิชาการบางกลุ่ม ที่เข้าไปเพื่อหวังผลประโยชน์ในพื้นที่
ประชาชนชาว จ.สตูล มีความเห็นว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง จึงขอเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้ตรวจสอบกลุ่มอาจารย์ และนักศึกษาที่ลงพื้นที่ดังกล่าว ได้ขอให้ยกเลิกการรับจ้างโครงการดังกล่าว ด้วยเหตุผลสำคัญว่า
1.มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันการศึกษาที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่งต่อการสร้างเสริมเยาวชนของชาติให้ได้รับการศึกษาเรียนรู้ที่ดี
2.บทบาทของคณะอาจารย์ควรเป็นบทของผู้นำทางปัญญา และควรนำความรู้ทางวิชากามารับใช้สังคมอย่างสร้างสรรค์ และไม่ควรลดบทบาทของตนเองเป็นเพียงนักประชาสัมพันธ์รับจ้าง ที่ไม่ได้สนใจกับข้อเท็จจริง
3.โครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา เป็นโครงการขนาดใหญ่ และส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม สังคม วิถีชีวิต วัฒนธรรมของ จ.สตูลในระยะยาว ที่ผ่านมาก็ยังมีข้อถกเถียง และข้อเท็จจริงที่ยังไม่ได้รับการเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา จึงเห็นว่าควรสร้างความกระจ่างเหล่านี้เสียก่อน ตามข้อเสนอที่ทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้เสนอไว้แล้ว ก่อนที่จะดำเนินการใดๆ นอกจากนี้
ชาวบ้าน จ.สตูล ต้องการให้มหาวิทยาลัย ได้รับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านที่ไม่ต้องให้ลูกหลานของตนต้องตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดี ซึ่งหวังเพียงเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น โดยควรให้ข้อมูลต่างๆ ที่โปร่งใส และไม่อยู่ใต้ผลประโยชน์ ท่ามกลางความเดือดร้อนของประชาชน
ด้าน รศ.ดร.บุญสม ศิริบำรุงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า หลังจากตนได้รับฟังข้อมูลจากเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบาราแล้ว จากนี้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จะตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ โดยขอเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ในการหาข้อเท็จจริง หากได้ข้อเท็จจริงอย่างไรแล้วก็จะแจ้งให้กลุ่มเครือข่ายประชาชนได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง