ประณามนักวิชาการ มอ.พลิกลิ้นลุยต่อโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูลและเครือข่ายนักศึกษาเพื่อสังคมได้เดินรณรงค์ภายในมหาวิทยาลัยและจัดแถลงข่าวหน้าลานพระรูป มอ.หาดใหญ่ ฉุนนักวิชาการพลิกลิ้นเดินหน้างานประชาสัมพันธ์โครงการท่าเรือน้ำลึกอุตสาหกรรมปากบาราต่อ แม้ว่าโครงการจะเกิดขึ้นอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย พร้อมขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มครอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีการประชุมร่วมกันระหว่าง 2 ฝ่ายและแสดงท่าทียอมถอยจากโครงการนี้ โดยจะขอยกเลิกสัญญา

วานนี้ (28 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูลและเครือข่ายนักศึกษาเพื่อสังคมแถลงข่าวหน้าลานพระรูป มอ.หาดใหญ่ โดยมีป้ายประณาม ผศ.ดร.ฉัตรไชย รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศน์สัมพันธ์ เนื่องด้วยสาเหตุมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ทำหนังสือถึงกรมเจ้าท่าและแจ้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ขอกำลังคุ้มครองความปลอดภัยเตรียมเดินหน้าประชาสัมพันธ์โครงการ เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูลและเครือข่ายนักศึกษาเพื่อสังคม

นายวิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี ตัวแทนเครือข่ายฯ กล่าวว่า หลังจากการประชุมร่วมกัน 2 ครั้งระหว่าง มหาวิยาลัยสงขลานครินทร์กับเครือข่ายประชาชนติตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล ด้วยเหตุและผลและทางมหาวิทยาลัยก็ยอมรับในหลักฐานที่ทางเครือข่ายฯนำเสนอ จนได้ข้อยุติระดับหนึ่ง และ มอ.ได้ขอเวลาระยะหนึ่งเพื่อขอยกเลิกสัญญาประชาสัมพันธ์โครงการจากกรมเท่า”

ต่อมามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้ทำหนังสือขอขยายเวลาสัญญาและขอให้ทางกรมเจ้าท่าฯดำเนินการจัดทำแผนเพื่อป้องกันความปลอดภัยจากกลุ่มต่อต้านจะเริ่มดำเนินการประชาสัมพันธ์ต่อ กรมเจ้าท่าจึงได้ส่งหนังสือมายังผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลขอให้สนับสนุนวางแผนการจัดการป้องกันความปลอดภัยของที่ปรึกษาจากกลุ่มต่อต้าน ซึ่งเป็นคนละเหตุผลกับที่ทางมหาวิทยาลัยได้ตกลงกับเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล เมื่อการประชุมในวันที่ 7 และ 22 มีนาคมที่ผ่านมา โดยอธิการบดีรับข้อเสนอและตกลงกันด้วยเหตุผลที่ได้ข้อยุติที่เคยประชุมกัน 3 เหตุผลหลัก คือ

1.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ไม่ควรเข้ามารับประชาสัมพันธ์ เนื่องจากโครงการยังไม่ได้ข้อยุติและยังไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย
2.ไม่ใช่บทบาทของมหาวิทยาลัยในการประชาสัมพันธ์โครงการ
3.การประชาสัมพันธ์โดยการให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน และยังมีความเห็นต่างระหว่างผู้สนับสนุนและคัดค้านโครงการฯ

“หากผู้ว่าดำเนินการตามข้อเสนอของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และกรมเจ้าท่าเสนอและมหาวิทยาลัยฯดำเนินการประชาสัมพันธ์ต่อ เครือข่ายฯจะยุติการทักท้วงต่อมหาวิทยาลัยฯ หาก มอ.เดินหน้าประชาสัมพันธ์และเกิดปัญหากับคนในพื้นที่ก็เป็นหน้าที่ของมหาวิทยาลัย ถ้ามีการนำกำลังตำรวจ ทหารเข้ามาคุ้มครองกลุ่มบุคคลหรือบริษัทที่ปรึกษาอาจจะนำไปสู่ความรุนแรงและความขัดแย้งเพิ่มสูงขึ้นได้ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จะต้องรับผิดชอบทั้งหมด”นายวิโชคศักดิ์กล่าวทิ้งท้าย

ต่อมาเวลา 16.00 น. เครือข่ายฯและกลุ่มนักศึกษาเพื่อสังคมก็ได้แยกย้ายโดยไม่ได้มีการยื่นหนังสือต่อทางมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด