บีอีซีฯ ซื้อหุ้นเวอร์จิ้นคืน 100% เพื่อปรับทัพรับ กสทช.เกิด หวังบุกศึกวิทยุอีกครั้ง ส่วนเวอร์จิ้นนั่งตำแหน่งที่ปรึกษาและบริหารคลื่นต่อไป มั่นใจปีนี้ธุรกิจวิทยุเติบโต 10% เชื่อศักยภาพเศรษฐกิจและการเมืองรุ่ง คาดภาพรวมบริษัทเติบโตได้ 10% จาก 2,000 กว่าล้านบาทที่ทำได้ในปีก่อน
นายไบรอัน แอล มาร์การ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีอีซี – เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้หารือกับทางเวอร์จิ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หลัง พรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ได้มีผลบังคับใช้ โดยทางบริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมรับกฏหมายกิจการวิทยุฉบับใหม่ หลังกสทช. เกิด ด้วยการเข้าถือหุ้น ทั้งหมดใน บริษัท เวอร์จิ้น บีอีซี-เทโร เรดิโอ (ประเทศไทย) จำกัด จากเดิมถือหุ้นอยู่ 60% และเวอร์จิ้นมีหุ้น 40% พร้อมเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น บริษัท บีอีซี-เทโร เรดิโอ จำกัด ปรับบทบาทของทางเวอร์จิ้นสู่การเป็นที่ปรึกษาและบริหารคลื่นวิทยุทั้ง 2 คลื่น ต่อไปโดยทางเวอร์จิ้นยังได้ค่าไลเซ่นฟรี ทั้งโลโก้ และค่าลิขสิทธ์ต่างๆ
“โครงสร้างใหม่ กำหนดให้ต้องมีสัดส่วนการถือหุ้นโดยคนไทยไม่ต่ำกว่า 75% หากกสทช.เกิด ทางบริษัทพร้อมที่จะเข้าๆไปร่วมประมูลคลื่นวิทยุแน่นอน ซึ่งปัจจุบันทางสตูดิโอสามารถรองรับการบริหารคลื่นวิทยุได้ถึง 5 คลื่น จากปัจจุบันมีอยู่ 2 คลื่น คือ Eazy fm 105.5และ Virgin Hitz 95.5”
นายพงษ์พันธ์ วงศ์หนองเตย ผู้อำนวยการวางแผนกลยุทธ์ บริษัท บีอีซี – เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า ในปีที่ผ่านมาธุรกิจวิทยุ มีรายได้ราว 400 ล้านบาท เติบโต 10% ขณะที่อุตสาหกรรมวิทยุโตติดลบ 0.9% ปีนี้มองว่าจะ เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เช่นเดียวกับภาพรวมบริษัทที่คาดว่าจะมีการเติบโตที่ 10% เช่นเดียวกัน จากรายได้รวม 2,000กว่าล้านบาทที่ทำได้ในปีก่อน โดยรายได้หลักมาจาก ธุรกิจรายการโทรทัศน์ 70% คอนเสิร์ต 25% และอื่นๆ 5%
อย่างไรก็ตามในปีนี้มั่นใจว่าภาพรวมเศรษฐกิจและการเมืองดีกว่าปีก่อน ดังนั้นทางบริษัทพร้อมลงทุนต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของคอนเสิร์ต ซึ่งจะมี 10-12 โชว์เพิ่มเท่าตัวจากปีก่อน ส่วนรายการโทรทัศน์ จะผลิตรายการให้กับทางสถานีโทรทัศน์ของประเทศพม่าด้วย คาดว่าครึ่งปีหลังจะเริ่มดำเนินการได้ นอกจากนี้ทางบริษัทจะมีการร่วมทุนกับต่างประเทศในการทำสปอร์ตอีเว้นท์ร่วมกัน ซึ่งปีนี้จะได้เห็น 1 อีเว้นท์ โดยอีเว้นท์ที่น่าสนใจจะทำนั้น เช่น สนุกเกอร์ ฟุตบอล รวมถึงแฟชั่นโชว์
นายไบรอัน แอล มาร์การ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีอีซี – เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้หารือกับทางเวอร์จิ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หลัง พรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ได้มีผลบังคับใช้ โดยทางบริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมรับกฏหมายกิจการวิทยุฉบับใหม่ หลังกสทช. เกิด ด้วยการเข้าถือหุ้น ทั้งหมดใน บริษัท เวอร์จิ้น บีอีซี-เทโร เรดิโอ (ประเทศไทย) จำกัด จากเดิมถือหุ้นอยู่ 60% และเวอร์จิ้นมีหุ้น 40% พร้อมเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น บริษัท บีอีซี-เทโร เรดิโอ จำกัด ปรับบทบาทของทางเวอร์จิ้นสู่การเป็นที่ปรึกษาและบริหารคลื่นวิทยุทั้ง 2 คลื่น ต่อไปโดยทางเวอร์จิ้นยังได้ค่าไลเซ่นฟรี ทั้งโลโก้ และค่าลิขสิทธ์ต่างๆ
“โครงสร้างใหม่ กำหนดให้ต้องมีสัดส่วนการถือหุ้นโดยคนไทยไม่ต่ำกว่า 75% หากกสทช.เกิด ทางบริษัทพร้อมที่จะเข้าๆไปร่วมประมูลคลื่นวิทยุแน่นอน ซึ่งปัจจุบันทางสตูดิโอสามารถรองรับการบริหารคลื่นวิทยุได้ถึง 5 คลื่น จากปัจจุบันมีอยู่ 2 คลื่น คือ Eazy fm 105.5และ Virgin Hitz 95.5”
นายพงษ์พันธ์ วงศ์หนองเตย ผู้อำนวยการวางแผนกลยุทธ์ บริษัท บีอีซี – เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า ในปีที่ผ่านมาธุรกิจวิทยุ มีรายได้ราว 400 ล้านบาท เติบโต 10% ขณะที่อุตสาหกรรมวิทยุโตติดลบ 0.9% ปีนี้มองว่าจะ เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เช่นเดียวกับภาพรวมบริษัทที่คาดว่าจะมีการเติบโตที่ 10% เช่นเดียวกัน จากรายได้รวม 2,000กว่าล้านบาทที่ทำได้ในปีก่อน โดยรายได้หลักมาจาก ธุรกิจรายการโทรทัศน์ 70% คอนเสิร์ต 25% และอื่นๆ 5%
อย่างไรก็ตามในปีนี้มั่นใจว่าภาพรวมเศรษฐกิจและการเมืองดีกว่าปีก่อน ดังนั้นทางบริษัทพร้อมลงทุนต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของคอนเสิร์ต ซึ่งจะมี 10-12 โชว์เพิ่มเท่าตัวจากปีก่อน ส่วนรายการโทรทัศน์ จะผลิตรายการให้กับทางสถานีโทรทัศน์ของประเทศพม่าด้วย คาดว่าครึ่งปีหลังจะเริ่มดำเนินการได้ นอกจากนี้ทางบริษัทจะมีการร่วมทุนกับต่างประเทศในการทำสปอร์ตอีเว้นท์ร่วมกัน ซึ่งปีนี้จะได้เห็น 1 อีเว้นท์ โดยอีเว้นท์ที่น่าสนใจจะทำนั้น เช่น สนุกเกอร์ ฟุตบอล รวมถึงแฟชั่นโชว์