ยักษ์ใหญ่ "บีอีซี-เทโร" ปรับโครงสร้างธุรกิจวิทยุ ซื้อหุ้น "เวอร์จิ้น" คืน 40% พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น "บีอีซี-เทโร เรดิโอ" รองรับกฎหมายสื่อ นอกจากนี้ ฟันรายได้เป็นที่ปรึกษารับบริหารจัดการเหมือนรูปแบบเชนในโรงแรม ปีนี้ตั้งเป้าโต 10% ในธุรกิจรายการทีวี คอนเสิร์ต วิทยุ จำหน่ายตั๋ว กลุ่มดิจิทัล รวมทั้งกีฬา
วันนี้ (9 ก.พ.) มร.นีล ทอมป์สัน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจวิทยุใหม่ ด้วยการซื้อคืนหุ้นทั้งหมด ของบริษัท เวอร์จิ้น บีอีซี-เทโร เรดิโอ (ประเทศไทย) จำกัด จากบริษัท เวอร์จิ้น เรดิโอ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน 40% และเปลี่ยนชื่อบริษัท บีอีซี-เทโร เรดิโอ จำกัด ซึ่งบีอีซี-เทโร เป็นผู้ถือหุ้น 100% ขณะที่เวอร์จิ้น จะปรับบทบาทจากผู้ถือหุ้นเป็นที่ปรึกษาธุรกิจวิทยุแทน
โดยการปรับโครงสร้างหุ้นธุรกิจในครั้งนี้ เพื่อรองรับพ.ร.บ.การประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ปี 2551 ที่กำหนดให้บริษัทต่างชาติถือหุ้นในกิจการสื่อได้ไม่เกิน 25% ซึ่ง เวอร์จิ้น ยังเป็นพันธมิตรในการพัฒนาธุรกิจวิทยุร่วมกับบีอีซี-เทโรต่อไป
มร.นีล กล่าอีกว่า สำหรับธุรกิจนำเข้าคอนเสิร์ตและโชวต์ต่างๆในปีนี้ จะอยู่ที่10-12 โชว์ เพิ่มจากปีก่อนที่มีจำนวน 7 โชว์ เท่านั้น ในไตรมาสแรกนำเข้าคอนเสิร์ตใหญ่ 3คอนเสิร์ต คือ Eric Clapton วันที่ 16ก.พ. ,Eagles 20ก.พ. และ Santana 1มี.ค.นี้ ซึ่งทั้ง 3คอนเสิร์ตได้รับการตอบรับจากผู้ชมอย่างมาก ในช่วงปลายปีนี้จะมีการนำเข้าคอนเสิร์ต เจ ป็อป และเจ ร็อค เพิ่มเติม ซึ่งเป็นเทรนด์นักร้องที่กำลังได้รับความสนใจจากผู้ฟังชาวไทย
ด้าน นายพงษ์พันธ์ วงศ์หนองเตย ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เวอร์จิ้น ซึ่งมีธุรกิจหลากหลายทั้งสายการบินและธุรกิจบันเทิงจากประเทศอังกฤษ ได้เข้ามาร่วมทุนในธุรกิจวิทยุกับบีอีซี-เทโร ตั้งแต่ปี 2544 โดยหวังว่าจะเป็นธุรกิจที่เติบโตในอนาคต แต่พบว่าปัญหาใหญ่ คือ ไม่มีองค์กรอิสระจัดสรรคลื่น ทำให้ระยะเวลาการให้สัมปทานวิทยุสั้นเพียง 1 ปีเท่านั้น ซึ่งเวอร์จิ้น มองว่าอายุสัมปทานที่เหมาะสมในการทำธุรกิจน่าจะอยู่ที่ 5 ปีขึ้นไป ทำให้ที่ผ่านมาธุรกิจวิทยุของเวอร์จิ้นในไทย เติบโตไม่เป็นไปตามคาดการณ์ ซึ่งเดิมเคยบริหารคลื่นวิทยุสูงสุด 4 คลื่น แต่ปัจจุบันเหลือ 2 คลื่น คือ อีซี่ เอฟเอ็ม 105.5 และ 95.5 เวอร์จิ้น ฮิตซ์
ทั้งนี้ ประกอบกับ พ.ร.บ.การประกอบกิจการวิทยุฯ ปี2551 กำหนดให้ธุรกิจสื่อมีผู้ถือหุ้นต่างชาติได้ไม่เกิน25% ทำให้บริษัทต้องปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ ให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยเข้าถือหุ้น100% ใน เวอร์จิ้น บีอีซี-เทโร ซึ่ง เวอร์จิ้น เห็นด้วยกับโครงสร้างนี้โดยเปลี่ยนบทบาทไปเป็นที่ปรึกษา เพราะเห็นว่าการถือหุ้นในฐานะต่างชาติด้วยสัดส่วน 25% เป็นสัดส่วนน้อยที่ไม่มีอำนาจในการออกเสียงด้านการบริหาร ไม่แตกต่างจากการไม่ถือหุ้น ซึ่งในฐานะที่ปรึกษาเวอร์จิ้นจะได้รับค่าลิขสิทธิ์การใช้ชื่อ”เวอร์จิ้น” และค่าบริหารจัดการแทน
“โครงสร้างใหม่เวอร์จิ้น จะไม่ต้องมาเสี่ยงกับตัวเลขผลประกอบการรายปี ว่ากำไรหรือขาดทุน แต่อยู่ในฐานะที่ปรึกษาที่จะได้รับค่าบริหารจัดการตามความสามารถในการบริหารธุรกิจ อาจจะเปรียบเทียบได้กับการบริหารจัดการรูปแบบเชนโรงแรม” นายพงษ์พันธ์ กล่าว
นอกจากนี้ การปรับโครงสร้างดังกล่าว เพื่อเตรียมรองรับการเกิดองค์กรอิสระจัดสรรคลื่น “กสทช.”ในปีนี้ ซึ่ง บีอีซี-เทโร วางแผนจะเข้าประมูลคลื่นวิทยุเพิ่มเติม โดยสตูดิโอที่ได้ลงทุนไปแล้ว สามารถรองรับการบริหารคลื่นวิทยุได้ 5 คลื่นในอนาคต
สำหรับผลประกอบการของบีอีซี-เทโร ในปีที่ผ่านมา คาดว่าจะมีรายได้ 2 พันล้านบาท หรือเติบโต14-15% ส่วนปีนี้ทุกธุรกิจของบริษัทยังมีแนวโน้มเติบโต ทั้งรายการทีวี ,คอนเสิร์ต-โชว์ ,วิทยุ, ธุรกิจจำหน่ายตั๋ว ,กลุ่มดิจิทัล ,กีฬา เป็นต้น โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายการเติบโต10%
อย่างไรก็ตาม จะมีการขยายธุรกิจใหม่ในกลุ่ม สปอร์ต อีเวนท์ ซึ่งจะมีการร่วมทุนกับต่างชาติ เพื่อนำเข้าอีเวนท์ด้านกีฬามาจัดในประเทศไทย โดยสนใจกีฬา ทั้งสนุกเกอร์ และฟุตบอล นอกจากนี้ได้มีการขยายธุรกิจการผลิตรายการทีวี ให้กับ 2 สถานีโทรทัศน์ในประเทศพม่า ในปีนี้