xs
xsm
sm
md
lg

พธม.ซัดมาร์คโกหก เขมรยึดMOU43รุกไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- "จำลอง"สวน "มาร์ค" ใครกันแน่โกหก ยันข้อมูลมีทั้งพยานหลักฐานชัด ย้ำกรณี 7 คนไทยถูกจับพิสูจน์ชัด MOU 43 ไม่ดีอย่างไร ย้อน"เทือก" กล้าไปชายแดนไหม ไม่สนรัฐบาลเตรียมสลายการชุมนุม ลั่นสลายวันนี้ พรุ่งนี้มาใหม่

เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (1 ก.พ.) พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดการแถลงข่าวการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน โดยกล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า หลักฐานที่กลุ่มพันธมิตรฯ นำมากล่าวอ้างถึงปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชานั้น เป็นข้อมูลเท็จว่า ข้อมูลที่พันธมิตรฯให้ไปนั้น ได้มีการพิสูจน์มาเป็นลำดับว่าเป็นเรื่องจริง โดยเราได้พูดมานานแล้วว่า ไทยได้เสียดินแดนบางส่วนให้กัมพูชาไปแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ 4.6 ตร.กม. หรือ 2,800 ไร่ รอบปราสาทพระวิหาร หรือ กรณีชาวบ้านที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่สูญเสียที่ดินทำกิน เพราะถูกกัมพูชาเข้ามายึดครอง แต่รัฐบาลกลับออกมาบอกว่า เรายังไม่เสียดินแดน ขัดแย้งกับความเป็นจริงที่มีชุมชนและวัดของกัมพูชาเข้ามาตั้งในแผ่นดินไทย แสดงให้เห็นว่า เราเสียดินแดนไปแล้วบางส่วน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา ก็ออกมายืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกัมพูชา ตรงนี้ดูได้ว่า ข้อมูลใครถูก หรือเป็นเท็จ

ส่วนกรณีที่รัฐบาลระบุว่า หากทำตาม 3 ข้อเสนอของพันธมิตรฯ จะทำให้ไทยสูญเสียดินแดนมากกว่านั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ไม่เป็นอย่างนั้นแน่นอน รัฐบาลต้องลองทำทั้ง 3 ข้อที่เราเสนอไป ทั้ง 3 ข้อนั้นไม่ใช่เรื่องที่คิดไปเอง แต่เป็นเรื่องจริง ที่นำมาจากหลักฐาน และบุคคลที่มีความรู้เรื่องนี้ ที่ชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยได้เสียดินแดนไปแล้วบางส่วน แล้วหากไม่ทำอะไรจะทำให้เสียเพิ่มอีกเป็นมหาศาล หากทำ 3 ข้อเสนอ จะได้ดินแดนที่เสียไปกลับคืนมา แล้วยังจะปกป้องดินแดนในส่วนอื่นๆได้อย่างยั่งยืน การไม่ทำอะไรของรัฐบาลเป็นเหตุให้เราต้องมาชุมนุมกันที่นี่ เพื่อให้รัฐบาลออกมาทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน

" สภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ กัมพูชาได้เปรียบ เห็นได้จากกรณีที่ 7 คนไทยถูกจับในดินแดนไทย แสดงให้เห็นว่า MOU 2543 ที่รัฐบาลยกย่องหนักหนานั้น ทำให้ไทยเสียเปรียบ เพราะข้อตกลงที่ที่ระบุว่าห้ามเปลี่ยนแปลงภูมิภาค และห้ามใช้กำลังทหารในการจัดการปัญหา นั่นหมายความว่า เมื่อกัมพูชารุกล้ำดินแดนเข้ามา ไทยไม่สามารถทำอะไรได้เลย ทั้งที่กัมพูชาตั้งหน้าตั้งตาละเมิด MOU 2543 มาโดยตลอด " พล.ต.จำลอง กล่าวว่า

** ซัด"มาร์ค"เถียงข้างๆ คูๆ

" ยืนยันว่าจะยังชุมนุมปักหลักค้างคืนที่นี่ อยู่ตำหูตำตารัฐบาล เพื่อให้ออกมาทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดินตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯก็ออกมาทำหน้าที่ของภาคประชาชน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 70-71 เช่นกัน " พล.ต.จำลอง

เมื่อถามว่ายืนยันหรือไม่ว่าจะไปปิดล้อมสถานทูตกัมพูชา พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ไม่ยืนยันทั้งสิ้น ว่าจะไม่ไปไหน แต่จะต้องมีการหารือกันก่อน อาจจะมีการไปไหนก็ได้ หลายปีก่อนมีการเผาสถานทูตไทยในกัมพูชา จึงมีคนคิดว่า จะทำอย่างนั้นหรือไม่ ยืนยันได้เพียงว่า ยังไม่ได้คิด ต้องหารือกันก่อน
เมื่อถามต่อว่า นายอภสิทธิ์ ระบุด้วยว่าการถอนตัวออกจากภาคีมรดกโลก จะทำให้ไทยไม่มีเวทีในการทักท้วง หากกัมพูชานำปราสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ตรงนี้ประชาชนต้องเลือก ว่าจะฟังใคร ระหว่างนายกฯอภิสิทธิ์ หรือผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ที่มีประสบการณ์อย่าง ศ.ดร.อดุลย์ วิเชียรเจริญ ซึ่งเคยอยู่ในกรรมการมรดกโลกมาถึง 23 ปี ประชาชนจะฟังคนโกหก หรือผู้ใหญ่ที่พูดความจริง ซึ่งไม่มีส่วนได้เสียใดๆ

ส่วนที่นายกฯอภิสิทธิ์ ถามหาความรับผิดชอบจากการถอนตัวออกจากภาคีมรดกโลกนั้น เราทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน ขอถามกลับไปยังนายอภิสิทธิ์ว่า กรณี 7 คนไทยที่ต้องไปติดคุกกัมพูชา เรื่องนี้นายอภิสิทธิ์ รับผิดชอบบ้างหรือไม่ เมื่อไม่รับผิดชอบ ทำให้ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ กับนายตายแน่ มุ่งมาจน จึงต้องดำเนินการฟ้องร้อง

" การกระทำ และข้อเสนอของพันธมิตรฯ มีการพิสูจน์เป็นขั้นเป็นตอนว่า เราพูดจริง แต่อีกฝ่ายกลับเถียงข้างๆ คูๆไปเรื่อย" พล.ต.จำลองกล่าว

**คนไทยถูกลักพาตัวจากดินแดนสยาม

พล.ต.จำลอง ยังได้กล่าวถึงกรณีที่มีการนำตัวแทนชาวบ้านหนองจาน เข้าพบนายกฯอภิสิทธิ์ เพื่อร้องเรียนว่า การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ทำให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาตึงเครียด ทำให้มีผลกระทบต่อการค้าขาย ว่า คงเป็นเหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมา หากมีการเคลื่อนไหวใดๆ หรืออย่างที่กลุ่มพันธมิตรฯ เคลื่อนไปที่บริเวณปราสาทเขาพระวิหาร ก็จะมีการเกณฑ์ชาวบ้านออกมาว่า การค้าขายเสียหาย ต้องถามว่า ผลกระทบการทำหากินของชาวบ้านนั้น เทียบกับการสูญเสียดินแดนได้หรือไม่

ส่วนการตัดสินคดีของ 2 คนไทยโดยศาลกัมพูชา จะมีผลต่อการชุมนุมหรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เราติดตามสถานการณ์ตลอด ขอยืนยันว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ไม่รับคำตัดสินของศาลกัมพูชา ไม่ว่าในรูปแบบใด เพราะเรายื่นเรื่องนี้ไปแล้วตั้งแต่ก่อนเข้ากระบวนการของศาล แต่การกระทำของเราไม่มีผลต่อศาลกัมพูชา จะมีผลก็ต่อเมื่อนายกฯ ของไทยต้องทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน โดยออกมาปกป้องคนไทยทั้ง 7 ว่า ทางการกัมพูชาทำไม่ถูกต้องในการลักพาคนไทยออกจากแผ่นดินไทยไป แล้วนำไปขึ้นศาลกัมพูชา มีเพียงการกล่าวอ้างว่า พยายามช่วยอย่างเต็มที่ แต่ไม่เห็นทำอะไรเลย ตอนนี้เป็นเวลาของการทำ ไม่ใช่เวลามานั่งพูดหรือเจรจา

" สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำตอนนี้เพื่อต้องการยืดเวลา และให้ประชาชนสงสารว่า รัฐบาลพยายามที่จะแก้ไขปัญหาอยู่ เรื่องนี้ไม่จริง หากพยายามทำ เหตุการณ์ต่างๆ คงไม่เกิดขึ้น รวมไปถึงการไม่ฟังข้อเสนอของภาคประชาชน" พล.ต.จำลอง กล่าว

***ยันต้องประท้วงให้เขมรเอาธงลง

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ทหารไทยนำธงชาติไทยไปปักที่บริเวณผามออีแดง เพื่อตอบโต้กัมพูชา พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ไม่เพียงพอ ต้องนำธงกัมพูชาลงมาให้ได้ ตนได้ยินว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ออกมาบอกว่าไม่มีอะไร ธงผืนเล็กนิดเดียว สิ่งที่พล.อ.ประวิตร พูดนั้นต้องการให้คนเข้าใจว่า ไม่ใช่ธงชาติ ตนขอแย้ง พล.อ.ประวิตร เพราะการจะเป็นธงชาติหรือไม่นั้น กำหนดโดยสี และสัดส่วนกว้าง ยาว ไม่ได้บอกว่าต้องใหญ่โต ถึงจะเป็นธงชาติ

****อัด"เทือก" รมต.ไทยหัวใจเขมร

ส่วนกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ออกมากล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯ พยายามให้มีการก่อสงครามกับประเทศเพื่อนบ้าน หากเกิดสงครามจริง กลุ่มพันธมิตรฯ จะกล้าไปทำหน้าที่บริเวณชายแดนหรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การที่รองนายกฯ ฝ่ายความง่อนแง่น พูดเรื่องนี้ออกมา เพื่อสร้างความหวาดกลัวให้เกิดในประชาชนคนไทย ถามว่านายสุเทพ กล้าหรือไม่ที่จะไปยืนที่ชายแดน เพราะคนๆนี้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เมื่อครั้งที่มีเหตุการณ์มาประชิดติดแดนไทย ซึ่งตนไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่ลาว หรือเวียดนาม ตนก็อาสา และสอบคัดเลือกจากโรงเรียนเสนาธิการทหารบก เพื่อไปรบด้วย อย่างนี้ต้องถามว่า คนที่พูดเคยออกสนามรบหรือไม่ต่างหาก หรือเป็นเพียงรัฐมนตรีไทยหัวใจเขมร ที่เถียงข้างๆคูๆไปเรื่อย

"หากมีใครมารุกดินแดน ก็ปล่อยเขาไป กลัวว่าหากออกไปต่อต้านแล้วเจ็บ แล้วตายอย่างนั้นหรือ บางครั้งในการทำหน้าที่อาจจะต้องมีการเสียสละบ้าง ซึ่งก็เป็นการเสียสละในหน้าที่" พล.ต.จำลองกล่าว
พล.ต.จำลอง กล่าวอีกว่า ทราบมาว่า ตอนนี้กองทัพกำลังจะซื้ออาวุธด้วยงบประมาณ 1.3 แสนล้านบาท ตนเชื่อว่า มีความจำเป็นที่ต้องซื้อ แต่ไม่ใช้ซื้อมาอวดเด็กในวันเด็ก ต้องใช้เป็นพลังในต่อรอง ในความเป็นจริงตอนนี้ก็เหลือเฟืออยู่แล้ว แต่กลับไม่ใช้ ยอมเป็นลูกไล่ เป็นขี้ข้าเขมร โดยเฉพาะทหารที่ต้องคิดหนัก ทั้งที่ยังรับราชการและที่เกษียณ เพราะทหารไม่มีวันตายไปจาก 4 คำ คือชาติ เกียรติ วินัย กล้าหาญ เช่นนี้แล้ว ทหารยอมไม่ได้

** รัฐบาลใช้วิชามารใส่ร้ายพันธมิตรฯ

พล.ต.จำลอง กล่าวว่า รัฐบาลนี้เพลี่ยงพล้ำมาเรื่อยๆ พันธมิตรฯ ออกมาชี้ให้เห็นเป็นข้อๆ แต่รัฐบาลไม่สนใจ กลับหันมาหาเรื่องเล่นงานเรา เพราะมาอยู่ตรงนี้เหมือนเป็นหอกข้างแคร่ อยู่ข้างทำเนียบจะปีนเข้าไปเมื่อไรก็ไม่รู้ ตนทราบมาโดยแน่ชัดว่าขณะนี้รัฐบาลพยายามทำ 3 อย่างเพื่อกลั่นแกล้งพันธมิตรฯ คือ

1. ส่งนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาเจรจาให้เปิดช่องทางจราจร อ้างว่ามีผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการจราจรติดขัด ซึ่งตนทราบมาอีกว่ามีวิชามารโดยการเปิดสัญญาณไฟแดงรอบพื้นที่การชุมนุม เพื่อให้รถติด แล้วโทษกลุ่มพันธมิตรฯ ว่าสร้างความเดือดร้อน

2. จ้างคนภายนอกมาป่วนในพื้นที่ชุมนุมโดยวิธีต่างๆ และ 3. การเตรียมการในการสลายการชุมนุม ซึ่งตนยืนยันว่า เราไม่ยอมออกจากพื้นที่ จนกว่ารัฐบาลจะทำหน้าที่ หากมีการสลายวันนี้ พรุ่งนี้ก็จะกลับมาใหม่ การถูกจับเพราะมาปกป้องดินแดน ดีกว่าอยู่ในตำแหน่งแล้วไม่ทำอะไร

** จวก"บัวแก้ว"แถลงการณ์อ่อนหัด

นายประพันธ์ คูณมี โฆษกการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน กล่าวถึง กรณีการออกแถลงการณ์ 4 ข้อ ของกระทรวงการต่างประเทศของไทย ว่า ตนตั้งข้อสังเกตในข้อ 3 ที่ยืนยันว่าพื้นที่ 4.6 ตร.กม. รอบปราสาทเขาพระวิหารว่าเป็นของไทย รวมทั้งให้มีการรื้อวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ และปลดธงชาติกัมพูชาออกไป ซึ่งเราเห็นว่าเป็นจุดยืนที่ถูกต้อง แต่กระทรวงการต่างประเทศกลับไม่มีกำหนดเวลาว่า ให้นำออกไปเมื่อไร ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติสากลที่จะกำหนดเวลา 7 วัน หรือ 10 วัน ให้เร่งดำเนินการ มิเช่นนั้นจะมีมาตรการตอบโต้ เช่น การลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต เป็นต้น แต่กลับไปตอบในข้อ 4 ที่ยืนยันว่าจะมีการเจรจาภายใต้กรอบของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) แสดงว่าวัด และชุมชนยังคงอยู่ต่อไปในระหว่างที่กรอบการเจรจายังไม่มีข้อยุติ เมื่อออกแถลงการณ์ลักษณะนี้ กัมพูชาก็ยังได้เปรียบอยู่ ซึ่งกุศโลบายของกัมพูชา ก็เลียนแบบมาจากเวียดนาม โดยการส่งคนนำหน้า ให้ทหารตามหลัง เพื่อยึดพื้นที่ของประเทศอื่น เป็นวิธีของคอมมิวนิสต์

" คำแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศ ที่แม้มีบางข้อที่รับฟังได้ แต่โดยรวมไม่มีความเด็ดขาด ขัดแย้งกับความเห็นของรองนายกฯสุเทพ และฝ่ายทหาร ที่ไปปักป้ายว่าเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ หรือต่างฝ่ายต่างอ้างกรรมสิทธิ์ได้ ทั้งๆที่เป็นดินแดนของไทย ทำให้คำแถลงไม่มีน้ำหนักว่าพื้นที่ 4.6 ตร.กม. เป็นของใครกันแน่ ขณะที่ทางกัมพูชา ยืนยันตลอดว่าตรงนั้นเป็นพื้นที่ของเขา กลายเป็นความพ่ายแพ้ทางการทูตของไทยอีกครั้ง" นายประพันธ์ กล่าว

***ตร.พร้อมกระชับพื้นที่หากศาลสั่ง

พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า หลังจากนื้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการให้เข้มข้นและกดดันให้มากขึ้น ส่วนที่จะมีการยื่นเรื่องให้ศาลปกครอง หรือศาลแพ่ง มีคำสั่งให้กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาลหรือไม่นั้น ต้องเป็นหน้าที่ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี รวมไปถึงโรงเรียนใกล้เคียง สถานที่ราชการ และประชาชน เป็นผู้ทำหน้าที่ยื่นคำร้องต่อศาล เนื่องจากเป็นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการชุมนุมโดยตรง หากศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว หรือมีความสั่งใดๆ ออกมา เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีความชอบธรรมที่จะมีการเปิดพื้นที่
กำลังโหลดความคิดเห็น