ASTVผู้จัดการรายวัน- “กบง.” ควักอุดราคาดีเซลทั้งบี 3 และบี 5 อีกลิตรละ 65 สตางค์ เงิน 5 พันล้านบาท เหลือให้ดูแลอีกแค่ 14 วันยันพร้อมประชุมกบง.หาทางรับมือหากราคาน้ำมันโลกพุ่งอีก แต่ยังไม่ปริปากขยายวงเงินเพิ่มหรือไม่ เปิดทางผู้ค้าน้ำมันขายบี 3 เกรดเดียวลดการใช้บี 100 ลงแก้ปาล์มขาดหลังเสนอ”สุเทพ”ลดเป็นบี 2 แต่รัฐยันมีพอเหตุนำเข้าแล้ว “คาลเท็กซ์”นำขึ้นน้ำมันทุกชนิดดีเซลทะลุ 30 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 จ่อ 40 บาทต่อลิตร
น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน(กบง.) วานนี้ (1ก.พ.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบการนำวงเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่กันไว้ดูแลราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาทตามนโยบายรัฐบาล 5,000 ล้านบาทมาอุดหนุนราคาไบโอดีเซลบี 3 และบี 5 ในอัตราอย่างละ 65 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้เงินไหลออกเพิ่มอีก 148.89 ล้านบาท หรือเหลือเงิน 2,010 ล้านบาทจากเดิมเหลือ 2,990 ล้านบาท ซึ่งหากระดับราคาน้ำมันอยู่ในอัตราดังกล่าวจะส่งผลให้มีเงินเหลือใช้อีก 14 วัน
“ราคาน้ำมันดีเซลที่สิงคโปร์ปิดตลาดวันที่ 31 ม.ค.มาอยู่ที่ 110.72 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งถือว่าสูงมากทำให้ค่าการตลาดผู้ค้าน้ำมันบี 3 เหลือ 41 สตางค์ต่อลิตร ขณะที่บี 5 อยู่ที่ 35 สตางค์ต่อลิตรเท่านั้น กองทุนฯจึงต้องเข้ามาช่วยเหลือดังกล่าวทำให้ค่าการตลาดบี 3 เป็น10.6 บาทต่อลิตร บี 5 เป็น 1 บาทต่อลิตร เมื่อรัฐนำเงินช่วยแล้ว กรณีที่คาลเท็กซ์ปรับขึ้นราคาดีเซลมีผลวันที่ 1 ก.พ.มาอยู่ที่ 30.29 บาทต่อลิตร ก็ควรจะลงมา แต่ถ้าไม่ลงก็ขายไม่ได้เอง เพราะปตท.และบางจากจะไม่ปรับขึ้น”
น.พ.วรรณรัตน์กล่าวว่า ที่ประชุมยังไม่ได้มีการพิจารณาหามาตรการมารองรับกรณีที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นอีกและส่งผลให้วงเงินดูแลราคาหมดลง โดยจะขอดูสถานการณ์น้ำมันอย่างใกล้ชิดและหากจะต้องมีการดูแลอีกก็จะเรียกประชุมกบง.ได้ทุกเวลาอยู่แล้วจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลน โดยทางกระทรวงพลังงานพร้อมที่จะลดเกรดการผสมปาล์มบริสุทธิ์หรือบี 100 ในดีเซลเพื่อจำหน่ายไบโอดีเซลบี 3 และบี 5 ลดลงเหลือเป็นบี 2 แต่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นว่าไม่จำเป็นจะต้องปรับเกรดลงมา เพราะจะมีการนำเข้าน้ำมันปาล์มมาแล้ว 1.2 แสนตันและหลังจากนั้นเม.ย.ก็จะมีผลผลิตปาล์มออกมาปัญหาจะหมดลง
อย่างไรก็ตาม จากการหารือกับผู้ค้าน้ำมันมีความประสงค์จะขายบี 3 เกรดเดียวก่อนจึงได้เห็นชอบที่จะยืดหยุ่นให้ดำเนินการได้ ซึ่งก็จะลดการใช้บี 100 จำนวน 5,900 ตันต่อเดือน โดยจะมีการประสานกับกรมสรรพสามิตให้อนุโลมในเรื่องของภาษีสรรพสามิตดีเซลที่เดิมแจ้งจะนำมาผสมบี 100 เพื่อเป็นบี 5 แต่เมื่อเป็นบี 3 ถือว่าผิดวัตถุประสงค์ต้องจ่ายค่าปรับก็ไม่ต้องจ่าย ขณะที่กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ก็จะดูแลอนุโลมให้เมื่อถังบี 5 อาจมีปัญหาค้างอยู่แล้วเมื่อนำบี 3 มาขายสีอาจเปลี่ยนแปลง เพราะเดิมบี 5 เป็นสีแดง บี 3 เป็นสีเหลือง
“กบง.ครั้งนี้อุดหนุนราคาบี 3 และบี 5 เท่ากัน เพราะเห็นว่าบางรายขายแต่บี 5 อย่างเดียว ก็ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ แต่วันนี้ปัญหาปาล์มขาดแคลน การขายก็อาจลำบาก คิดว่าเม.ย.ผลผลิตปาล์มออก หลังจากนั้นหากเพียงพอ เราก็ขายบี 5 เกรดเดียวตามแผนเดิมได้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เชฟรอน ไทย จำกัด ในฐานะผู้ประกอบการค้าน้ำมันคาลเท็กซ์ ได้แจ้งปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันทุกประเภทลิตรละ 30 สตางค์ มีผลตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลบี 3 และ บี 5 อยู่ที่ลิตรละ 30.29 บาท ส่วนราคาน้ำมันเบนซิน 95อยู่ที่ลิตรละ 45.54 บาท เบนซิน 91 ลิตรละ 39.74 บาท แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 35.44 บาท แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 32.94 บาท
ทางด้านราคาน้ำมันดิบชนิด “เบรนต์” เพื่อการส่งมอบเดือนมี.ค. ได้ทะยานผ่านพ้นระดับ 100 เหรียญสหรัฐต่อหนึ่งบาร์เรล ระหว่างการซื้อขายในตลาดลอนดอนเมื่อค่ำคืนวันจันทร์ (31 ม.ค.) ที่ผ่านมา นับว่าเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดช่วงวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2008 เป็นต้นมา ที่ราคาน้ำมันทะลุระดับแนวต้านที่มีผลทางจิตวิทยาสำคัญนี้ โดยคราวนี้พุ่งขึ้นไปสูงสุดที่ระดับ 101.73 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ก่อนจะถอยปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 100.51 เหรียญสหรัฐ ในช่วงการซื้อขายฟากเอเชีย อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดในตลาดนิวยอร์กยังไม่ได้รับผลกระทบมากเท่าใดนัก
แม้อียิปต์จะไม่ใช่ประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันรายสำคัญของโลก ทว่าประเทศแห่งนี้เป็นที่ตั้งของคลองสุเอซ ซึ่งใช้ในการลำเลียงขนส่งน้ำมันดิบราว 2.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยเฉพาะน้ำมันดิบชนิดเบรนต์จากทะเลเหนือ ซึ่งปริมาณดังกล่าวมากพอๆ กับกำลังการผลิตน้ำมันต่อวันของประเทศอิรักหรือบราซิลเลยทีเดียว
ส่วนราคาน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดเพื่อการส่งมอบเดือนมี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ของนิวยอร์ก ปรับตัวลดลง 20 เซน มาแตะที่ระดับ 91.99 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในการซื้อขายช่วงบ่าย
น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน(กบง.) วานนี้ (1ก.พ.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบการนำวงเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่กันไว้ดูแลราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาทตามนโยบายรัฐบาล 5,000 ล้านบาทมาอุดหนุนราคาไบโอดีเซลบี 3 และบี 5 ในอัตราอย่างละ 65 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้เงินไหลออกเพิ่มอีก 148.89 ล้านบาท หรือเหลือเงิน 2,010 ล้านบาทจากเดิมเหลือ 2,990 ล้านบาท ซึ่งหากระดับราคาน้ำมันอยู่ในอัตราดังกล่าวจะส่งผลให้มีเงินเหลือใช้อีก 14 วัน
“ราคาน้ำมันดีเซลที่สิงคโปร์ปิดตลาดวันที่ 31 ม.ค.มาอยู่ที่ 110.72 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งถือว่าสูงมากทำให้ค่าการตลาดผู้ค้าน้ำมันบี 3 เหลือ 41 สตางค์ต่อลิตร ขณะที่บี 5 อยู่ที่ 35 สตางค์ต่อลิตรเท่านั้น กองทุนฯจึงต้องเข้ามาช่วยเหลือดังกล่าวทำให้ค่าการตลาดบี 3 เป็น10.6 บาทต่อลิตร บี 5 เป็น 1 บาทต่อลิตร เมื่อรัฐนำเงินช่วยแล้ว กรณีที่คาลเท็กซ์ปรับขึ้นราคาดีเซลมีผลวันที่ 1 ก.พ.มาอยู่ที่ 30.29 บาทต่อลิตร ก็ควรจะลงมา แต่ถ้าไม่ลงก็ขายไม่ได้เอง เพราะปตท.และบางจากจะไม่ปรับขึ้น”
น.พ.วรรณรัตน์กล่าวว่า ที่ประชุมยังไม่ได้มีการพิจารณาหามาตรการมารองรับกรณีที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นอีกและส่งผลให้วงเงินดูแลราคาหมดลง โดยจะขอดูสถานการณ์น้ำมันอย่างใกล้ชิดและหากจะต้องมีการดูแลอีกก็จะเรียกประชุมกบง.ได้ทุกเวลาอยู่แล้วจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลน โดยทางกระทรวงพลังงานพร้อมที่จะลดเกรดการผสมปาล์มบริสุทธิ์หรือบี 100 ในดีเซลเพื่อจำหน่ายไบโอดีเซลบี 3 และบี 5 ลดลงเหลือเป็นบี 2 แต่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นว่าไม่จำเป็นจะต้องปรับเกรดลงมา เพราะจะมีการนำเข้าน้ำมันปาล์มมาแล้ว 1.2 แสนตันและหลังจากนั้นเม.ย.ก็จะมีผลผลิตปาล์มออกมาปัญหาจะหมดลง
อย่างไรก็ตาม จากการหารือกับผู้ค้าน้ำมันมีความประสงค์จะขายบี 3 เกรดเดียวก่อนจึงได้เห็นชอบที่จะยืดหยุ่นให้ดำเนินการได้ ซึ่งก็จะลดการใช้บี 100 จำนวน 5,900 ตันต่อเดือน โดยจะมีการประสานกับกรมสรรพสามิตให้อนุโลมในเรื่องของภาษีสรรพสามิตดีเซลที่เดิมแจ้งจะนำมาผสมบี 100 เพื่อเป็นบี 5 แต่เมื่อเป็นบี 3 ถือว่าผิดวัตถุประสงค์ต้องจ่ายค่าปรับก็ไม่ต้องจ่าย ขณะที่กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ก็จะดูแลอนุโลมให้เมื่อถังบี 5 อาจมีปัญหาค้างอยู่แล้วเมื่อนำบี 3 มาขายสีอาจเปลี่ยนแปลง เพราะเดิมบี 5 เป็นสีแดง บี 3 เป็นสีเหลือง
“กบง.ครั้งนี้อุดหนุนราคาบี 3 และบี 5 เท่ากัน เพราะเห็นว่าบางรายขายแต่บี 5 อย่างเดียว ก็ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ แต่วันนี้ปัญหาปาล์มขาดแคลน การขายก็อาจลำบาก คิดว่าเม.ย.ผลผลิตปาล์มออก หลังจากนั้นหากเพียงพอ เราก็ขายบี 5 เกรดเดียวตามแผนเดิมได้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เชฟรอน ไทย จำกัด ในฐานะผู้ประกอบการค้าน้ำมันคาลเท็กซ์ ได้แจ้งปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันทุกประเภทลิตรละ 30 สตางค์ มีผลตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลบี 3 และ บี 5 อยู่ที่ลิตรละ 30.29 บาท ส่วนราคาน้ำมันเบนซิน 95อยู่ที่ลิตรละ 45.54 บาท เบนซิน 91 ลิตรละ 39.74 บาท แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 35.44 บาท แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 32.94 บาท
ทางด้านราคาน้ำมันดิบชนิด “เบรนต์” เพื่อการส่งมอบเดือนมี.ค. ได้ทะยานผ่านพ้นระดับ 100 เหรียญสหรัฐต่อหนึ่งบาร์เรล ระหว่างการซื้อขายในตลาดลอนดอนเมื่อค่ำคืนวันจันทร์ (31 ม.ค.) ที่ผ่านมา นับว่าเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดช่วงวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2008 เป็นต้นมา ที่ราคาน้ำมันทะลุระดับแนวต้านที่มีผลทางจิตวิทยาสำคัญนี้ โดยคราวนี้พุ่งขึ้นไปสูงสุดที่ระดับ 101.73 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ก่อนจะถอยปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 100.51 เหรียญสหรัฐ ในช่วงการซื้อขายฟากเอเชีย อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดในตลาดนิวยอร์กยังไม่ได้รับผลกระทบมากเท่าใดนัก
แม้อียิปต์จะไม่ใช่ประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันรายสำคัญของโลก ทว่าประเทศแห่งนี้เป็นที่ตั้งของคลองสุเอซ ซึ่งใช้ในการลำเลียงขนส่งน้ำมันดิบราว 2.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยเฉพาะน้ำมันดิบชนิดเบรนต์จากทะเลเหนือ ซึ่งปริมาณดังกล่าวมากพอๆ กับกำลังการผลิตน้ำมันต่อวันของประเทศอิรักหรือบราซิลเลยทีเดียว
ส่วนราคาน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดเพื่อการส่งมอบเดือนมี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ของนิวยอร์ก ปรับตัวลดลง 20 เซน มาแตะที่ระดับ 91.99 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในการซื้อขายช่วงบ่าย
